กกต.ด้านการสอบสวน ตั้ง คกก.สอบ จนท.จัดเลือกตั้งล่วงหน้าเขตพญาไท รู้เท่าไม่การณ์เอื้อผู้มีสิทธินำบัตรเลือกตั้งออกนอกคูหาลั่นผิด กม.ข้ออ้างผู้ใช้สิทธิมีปัญหาสุขภาพฟังไม่ขึ้น แต่ไม่ถึงขึ้นทำให้การเลือกตั้งเป็นโฆฆะ เหมือนกรณีหันหลังออกนอกคูหา แค่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ เสียสิทธิเท่านั้น
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณี ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งออกไปลงคะแนนนอกคูหาเลือกตั้งที่เขตพญาไท เมื่อวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การใช้สิทธิเลือกตั้งนอกคูหาเลือกตั้ง ถือว่าผิดระเบียบและผิดกฎหมายเลือกตั้ง แม้ว่า กฎหมายจะระบุให้กกต.อำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่เรื่องดังกล่าวได้รับรายงานว่า ผู้มาใช้สิทธิมีน้ำหนักตัวมากถึง 130 กิโลกรัม แล้วยังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ หรือที่เรียกว่า “อาการเอ๋อ” ต้องการใช้สิทธิ ทางเจ้าหน้าที่จึงอำนวยความสะดวกให้ แต่เป็นเรื่องของความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าหน้าที่จึงนำบัตรไปให้ผู้ใช้สิทธินอกคูหาเลือกตั้ง โดยผู้ใช้สิทธิได้ใช้ปากกากากบาทด้วยมือของตนเอง ซึ่งเห็นได้ชัดทั้งประชาชน และเจ้าหน้าที่ในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งช่างภาพสถานีต่างๆเกือบทุกสถานี ซึ่งถือเป็นหลักฐานชัดเจนว่า เป็นการใช้สิทธินอกคูหาเลือกตั้ง แม้จะไม่โดยตรงแต่ก็ไม่ได้เป็นความลับ กรณีดังกล่าวกกต.จึงได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีเจตนากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ โดยให้มีการชี้แจงแสดงเหตุผล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า หากมีประชาชนร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ นายสมชัย กล่าว่า แม้จะเป็นเรื่องของจิตอาสา แต่ก็เป็นการผิดระเบียบและกฎหมาย ซึ่งหากมีประชาชนร้องเรียนว่าให้การเลือกตั้งเป็นโฆฆะ ก็ต้องเปรียบเทียบกับกรณีการหันหลังออกนอกคูหาเลือกตั้ง ที่มีการร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโฆฆะ ซึ่งกรณีนี้ก็เช่นเดียวกันไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งเป็นโฆฆะ แต่เป็นเรื่องของกระบวนการจัดการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยครั้งนี้เป็นเรื่องของคนใช้สิทธินอกคูหาเลือกตั้ง ถ้าจะเป็นปัญหาก็เพียงแค่ทำให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเสียสิทธิเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ก็มีความผิด แต่จะไม่กระทบกระเทือนการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ส่วนบัตรเลือกตั้งถือว่าเป็นบัตรดีโดยรวมใส่ซองกับบัตรเลือกตั้งอื่นแล้ว และขณะนี้ก็ส่งไปยังภูมิลำเนาของผู้ใช้สิทธิ ซึ่งสามารถนับคะแนนได้ ปัญหาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคะแนนเสียงในเขตนั้นมีผู้ชนะการเลือกตั้งเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในการเลือกตั้งทั่วไป ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น