ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.ไม่เชือด “ศรีสะเกษ-บุรีรัมย์” ยอดร้องผิดกฎหมาย111เรื่อง ส่วน“ศาลปกครองสูงสุด” ไม่รับคดี “เพื่อไทย” ขอคุ้มครองชั่วคราว ฟ้องกกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ถูกต้อง
วานนี้(29 มิ.ย.)ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวภายหลังการประชุมกกต. ว่า ที่ประชุมกกต. ยังไม่ได้มีการพิจารณาการตัดสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของผู้สมัครส.ส.จังหวัดศรีสะเกษและจ.บุรีรัมย์ เพียงแต่ในส่วนของจ.ศรีสะเกษได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อกกต.เท่านั้น เนื่องจากการตัดสินลงโทษใครก็ตามต้องละเอียดรอบคอบรัดกุม ชัดเจนและเป็นธรรม ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาได้วันที่ 1 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามตนยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการประวิงเวลาอย่างแน่นอน
ขณะที่ความคืบหน้ากรณีการพิจารณาปัญหาในวันเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.ลพบุรี ว่าที่ประชุม กกต.ได้มีการพิจารณาอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กรณีหีบบัตรเลือกตั้งที่จ.ลพบุรีนั้น มีความชัดเจน ว่าเป็นหีบบัตรเลือกตั้งของการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งต้องให้กกต.จว.ลพบุรีทำรายงานส่งเข้ามายังกกต.กลางก่อน ส่วนปัญหาในเขตพญาไทที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งไปลงคะแนนนอกคูหาเลือกตั้งนั้นอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่เบื้องต้นทราบว่าไม่มีเจตนาทุจริต เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ โดยจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีการขึ้นป้ายคัตเอาท์ขนาดใหญ่ของพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา บริเวณริมถ.วิภาวดี-รังสิต กทม.นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเรื่องนี้เข้ามายังกกต.
นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.ยังได้มีการพิจารณาพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 88 และ 89 ที่ให้ความชัดเจนว่าหากเขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ผู้สมัครที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นส.ส. แต่หากเขตใดมีผู้สมัครส.ส.เหลือเพียงคนเดียว และคะแนนที่ได้น้อยกว่าจำนวนผู้ที่ประสงค์ไม่ลงคะแนนจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ขณะนี้ผู้สมัครทั้ง 375 เขต มีผู้สมัครมากกว่า 2 คนทุกเขต
**ยอดร้องเรียนผิกฎหมาย111เรื่อง
ที่ศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง (ศอส.) ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปตัวเลขการร้องเรียนการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.พบว่า มีการร้องเรียนทั้งสิ้น 111 เรื่อง แบ่งเป็น การใส่ร้าย ขู่เข็ญ หลอกลวง 51 เรื่อง การให้เงิน ให้ทรัพย์สิน หรือให้ประโยชน์อื่นใด 17 เรื่อง การจัดเลี้ยง 4 เรื่อง กรณีเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง 20 เรื่อง ป้ายหาเสียงและการหาเสียง 19 เรื่อง ส่วนการร้องเรียนผ่านโทรศัพท์และเว็บไซต์ มีจำนวน 410 เรื่อง
ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.มีมติยกคำร้องการกระทำที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ไปแล้ว 10 เรื่อง เพราะส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งการที่ กกต.จะพิจารณาการตัดสิทธิผู้สมัคร หรือ ใบแดง จะเป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบการซื้อเสียง ก็ขอให้ส่งหลักฐานที่เป็นความจริงมายัง กกต.เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
**ไม่รับคดีเพื่อไทยฟ้องกกต.ระงับบัตร
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นฟ้องกกต. และสำนักงานกกต. เพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวให้มีคำสั่งห้ามมิให้ กกต.นำระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7) มาใช้กับบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่มีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองในช่องเครื่องหมายพรรคการเมืองเพียงช่องเดียวโดยไม่ให้ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรเสีย
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยโดยสรุปได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ฟ้องว่าระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7)ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้เพิกถอนระเบียบดังกล่าว แต่กลับมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับ โดยไม่ให้ กกต. นำระเบียบดังกล่าวมาใช้กับกรณีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่มีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองในช่องเครื่องหมายพรรคการเมืองเพียงช่องเดียว โดยไม่ให้ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรเสีย จึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ไม่สมควรมีคำสั่งทุเลาการบังคับในระหว่างการพิจารณาของศาลตามข้อ 69 และข้อ 70 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยฟ้องว่า ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยจะทำเครื่องหมายกากบาทในช่องภาพเครื่องหมายพรรคของพรรคเพื่อไทยเป็นการทำเครื่องหมายนอกช่องเครื่องหมายและจะทำให้เป็นบัตรเสียนั้น เห็นว่า เป็นข้อเท็จจริงที่จะปรากฏในภายหลังเมื่อประชาชนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาและวินิจฉัยที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.จึงไม่อยู่ในเขตอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอทุเลาการบังคับตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7) ของผู้ฟ้องคดี ไว้พิจารณา
**ห่วงน้ำท่วมเมืองน่าน 3 ก.ค.ไร้ปัญหา
นายวิสุทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่จ.น่าน จนอาจทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ว่า ขณะนี้ทางกกต.จว.น่าน ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้น 5 อำเภอ ซึ่งมี 4 อำเภอที่สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ จึงเหลือเพียง 1 อำเภอเท่านั้นที่ยังน่าเป็นห่วง แต่ทราบว่าฝนได้หยุดตกลงมาแล้ว จึงคาดว่าในวันที่ 3 ก.ค.จะไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังไม่มีรายงานเข้ามา หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ก็จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกกต.จังหวัดนั้นๆว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างไร.
วานนี้(29 มิ.ย.)ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวภายหลังการประชุมกกต. ว่า ที่ประชุมกกต. ยังไม่ได้มีการพิจารณาการตัดสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของผู้สมัครส.ส.จังหวัดศรีสะเกษและจ.บุรีรัมย์ เพียงแต่ในส่วนของจ.ศรีสะเกษได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อกกต.เท่านั้น เนื่องจากการตัดสินลงโทษใครก็ตามต้องละเอียดรอบคอบรัดกุม ชัดเจนและเป็นธรรม ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาได้วันที่ 1 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามตนยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการประวิงเวลาอย่างแน่นอน
ขณะที่ความคืบหน้ากรณีการพิจารณาปัญหาในวันเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.ลพบุรี ว่าที่ประชุม กกต.ได้มีการพิจารณาอย่างไร นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กรณีหีบบัตรเลือกตั้งที่จ.ลพบุรีนั้น มีความชัดเจน ว่าเป็นหีบบัตรเลือกตั้งของการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งต้องให้กกต.จว.ลพบุรีทำรายงานส่งเข้ามายังกกต.กลางก่อน ส่วนปัญหาในเขตพญาไทที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งไปลงคะแนนนอกคูหาเลือกตั้งนั้นอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่เบื้องต้นทราบว่าไม่มีเจตนาทุจริต เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ โดยจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีการขึ้นป้ายคัตเอาท์ขนาดใหญ่ของพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา บริเวณริมถ.วิภาวดี-รังสิต กทม.นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเรื่องนี้เข้ามายังกกต.
นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.ยังได้มีการพิจารณาพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 88 และ 89 ที่ให้ความชัดเจนว่าหากเขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ผู้สมัครที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นส.ส. แต่หากเขตใดมีผู้สมัครส.ส.เหลือเพียงคนเดียว และคะแนนที่ได้น้อยกว่าจำนวนผู้ที่ประสงค์ไม่ลงคะแนนจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ขณะนี้ผู้สมัครทั้ง 375 เขต มีผู้สมัครมากกว่า 2 คนทุกเขต
**ยอดร้องเรียนผิกฎหมาย111เรื่อง
ที่ศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง (ศอส.) ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปตัวเลขการร้องเรียนการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.พบว่า มีการร้องเรียนทั้งสิ้น 111 เรื่อง แบ่งเป็น การใส่ร้าย ขู่เข็ญ หลอกลวง 51 เรื่อง การให้เงิน ให้ทรัพย์สิน หรือให้ประโยชน์อื่นใด 17 เรื่อง การจัดเลี้ยง 4 เรื่อง กรณีเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง 20 เรื่อง ป้ายหาเสียงและการหาเสียง 19 เรื่อง ส่วนการร้องเรียนผ่านโทรศัพท์และเว็บไซต์ มีจำนวน 410 เรื่อง
ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.มีมติยกคำร้องการกระทำที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ไปแล้ว 10 เรื่อง เพราะส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งการที่ กกต.จะพิจารณาการตัดสิทธิผู้สมัคร หรือ ใบแดง จะเป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบการซื้อเสียง ก็ขอให้ส่งหลักฐานที่เป็นความจริงมายัง กกต.เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
**ไม่รับคดีเพื่อไทยฟ้องกกต.ระงับบัตร
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นฟ้องกกต. และสำนักงานกกต. เพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวให้มีคำสั่งห้ามมิให้ กกต.นำระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7) มาใช้กับบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่มีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองในช่องเครื่องหมายพรรคการเมืองเพียงช่องเดียวโดยไม่ให้ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรเสีย
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยโดยสรุปได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ฟ้องว่าระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7)ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้เพิกถอนระเบียบดังกล่าว แต่กลับมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับ โดยไม่ให้ กกต. นำระเบียบดังกล่าวมาใช้กับกรณีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่มีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองในช่องเครื่องหมายพรรคการเมืองเพียงช่องเดียว โดยไม่ให้ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรเสีย จึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ไม่สมควรมีคำสั่งทุเลาการบังคับในระหว่างการพิจารณาของศาลตามข้อ 69 และข้อ 70 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยฟ้องว่า ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยจะทำเครื่องหมายกากบาทในช่องภาพเครื่องหมายพรรคของพรรคเพื่อไทยเป็นการทำเครื่องหมายนอกช่องเครื่องหมายและจะทำให้เป็นบัตรเสียนั้น เห็นว่า เป็นข้อเท็จจริงที่จะปรากฏในภายหลังเมื่อประชาชนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาและวินิจฉัยที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.จึงไม่อยู่ในเขตอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอทุเลาการบังคับตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7) ของผู้ฟ้องคดี ไว้พิจารณา
**ห่วงน้ำท่วมเมืองน่าน 3 ก.ค.ไร้ปัญหา
นายวิสุทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่จ.น่าน จนอาจทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ว่า ขณะนี้ทางกกต.จว.น่าน ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้น 5 อำเภอ ซึ่งมี 4 อำเภอที่สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ จึงเหลือเพียง 1 อำเภอเท่านั้นที่ยังน่าเป็นห่วง แต่ทราบว่าฝนได้หยุดตกลงมาแล้ว จึงคาดว่าในวันที่ 3 ก.ค.จะไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังไม่มีรายงานเข้ามา หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ก็จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกกต.จังหวัดนั้นๆว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างไร.