สยามสามัคคีโผล่รณรงค์ “3 กรกฎาไปเลือกตั้ง ไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือกคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวกเคืองแค้นสถาบัน” ชู 3 หายนะคุกคามสถาบัน นิรโทษฯ “นช.แม้ว” ซ้ำรอยเผาเมือง ยันไม่เกี่ยวพรรคไหน - “มาร์ค” อ้างไม่รู้
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่โรงแรมสยามซิตี กลุ่มสยามสามัคคี นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว.สรรหา แพทย์หญิงพรพันธ์ บุญญรัตน์พันธ์ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย นายสันติสุข โสภณสิริ พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ ร่วมกันออกมารณรงค์แจกใบปลิว สติกเกอร์ทั่วประเทศโดยใช้สโลแกนว่า “3 กรกฎา ไปเลือกตั้ง ไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือกคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวกเคืองแค้นสถาบัน” พร้อมกับแถลงการณ์ว่า “3 หายนภัย 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หายนภัยอันเนื่องมาจากการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งวันนี้ไม่เพียงแต่มีการวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น แต่มีการจัดตั้งเป็นขบวนการ ใช้สื่อทุกรูปแบบและแสดงออกอย่างเปิดเผยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้คำพูดหลายครั้งที่สะท้อนจิตใต้สำนึกเป็นอย่างดีว่าอดีตนายกรัฐมนตีคิดอย่างไรต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.หายนภัยจากการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ หากอาศัยคะแนนเสียงจากประชาชนมาลบล้างความผิดกลายเป็นความชอบธรรมที่สามารถฟอกผิดให้กับคนใดคนหนึ่งได้ นั่นหมายความว่า คำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรมได้ถูกทำลายลงสิ้นเชิง ซึ่งจะก่อให้ความรุนแรงต่อประเทศอีกแน่นอน และ 3.หายนภัยจากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยที่มีการเผาบ้านเผาเมืองอย่างที่ผ่านมา หายนภัยที่คุกคามทั้ง 3 ประการดังกล่าว คือชะตากรรมของบ้านเมือง คือหายนภัยเฉพาะหน้าที่จะเดิมพันด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในวันที่ 3 ก.ค.นี้
โดย พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศมาโดยตลอดเพื่อเสนอต่อสาธารณชนร่วมกันแก้ไขปัญหา ในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้หากประชาชนไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆ ประเทศชาติจะกลับสู้หายนะอีกครั้ง ขอแถลงการณ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสุ่มเสี่ยงซ้ำรอยประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ความรุนแรง ในปี 2552-2553 จนยากที่จะประสานรอยร้าว หากประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยจะเกิดหายนะภัย 3 ด้านมาจากการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ขณะนี้ได้วิพากวิจารณ์บิดเบือนหลายรูปแบบประสานงานทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวคำหมิ่นเหม่ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหลายครั้ง ทั้งนี้ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติถ้อยคำรุนแรงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หลายครั้ง จนสื่อไทยไม่กล้าแปล หากมาอาศัยการเลือกตั้งใช้สิทธิของประชาชนมาลบล้างความผิด แปลว่าคำพิพากษาภายใต้พระปรมาภิไธยถูกลบล้างไปหมดแล้ว และความยุติธรรมจะเหลืออะไร เช่น การเผาศูนย์การค้า เผาศาลากลาง โดยเฉพาะคำพูดยั่วยุของใครที่บอกว่า “น้ำมันล้านขวด ล้านลิตร จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิง” และจำได้ไหม “กระสุน....” วลีตรงนี้ใครพูด ใครพาพวกบุกล้มเวทีอาเซียนที่พัทยา ใครพาบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ จนสมเด็จพระสังฆราชต้องย้ายด่วน ใครพาคนไล่ล่านายกรัฐมนตรี ใครพาคนนำเลือดหมื่นลิตรมาเทราดกรุงเทพฯ มาวันนี้จะเดิมพันด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในวันที่ 3 ก.ค.
“กลุ่มสยามสามัคคี ขอเรียกร้อง 3 ประการให้ช่วยกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จากคนที่ทำลายล้างหลักยึดเหนี่ยวศูนย์รวมใจของคนไทยช้านาน และทรงทำภารกิจมากมายต่อประชาชนเหนือประเทศอื่น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่อำนาจตุลาการจะต้องไม่ถูกแทรกแซงด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่คนคนเดียว หากเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะพบภัยพิบัติ ดังนั้น 3 กรกฎาฯ จะกำหนดชะตาอนาคตประเทศ จะสันติหรือรุนแรง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเลือกใคร หรือไม่เลือกใคร ขอให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนอย่างพร้อมเพรียง ด้วยวิจารณญาณอิสระ นำประเทศสู่สันติอย่างแท้จริง ถ้าประชาชนมาเลือกตั้งกันน้อย 60-70 เปอร์เซ็นต์ จะเกิดวิกฤตอีกครั้ง คนไทยทุกคนออกมาช่วยกันเลือกคนดีมาบริหารประเทศ และไม่เลือกคนไม่ดีคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เชื่อว่าคนพวกนั้นจะมาสร้างบ้านสร้างเมืองได้” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
นายสมชายกล่าวว่า การออกมารณรงค์ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ถ้ามีนิรโทษกรรมจะต้องแจงหลายกรณีว่าเกี่ยวกับคดีอาญา คดีทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่ เราไม่ก้าวล่วงใครจะเข้ามาบริหารประเทศ แต่ต้องการให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง 80-90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง ใครเผาบ้านเผาเมือง ใครล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าไปเลือก
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสยามสามัคคีทำป้ายรณรงค์ว่า 3 กรกฎา ไปเลือกตั้งไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือกคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวกแค้นเคืองสถาบันว่า ตนไม่ทราบ