นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งรูปแบบใหม่ ในการนำบัตรเลือกตั้งมาเปลี่ยนในคูหาเลือกตั้ง หรือ เวียนเทียนบัตรเลือกตั้งว่า เรื่องดังกล่าวเป็นกระแสที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและหวาดระแวงการทำงานของสำนักงานกกต. ซึ่งจริงแล้วๆ หน่วยเลือกตั้งแต่ละแห่งจะมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพรรคการเมืองที่เฝ้าสังเกตการณ์ รวมทั้งประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา จึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถกระทำได้ โดยการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มอบนโยบายในการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งละเอียดทุกขั้นตอนรวมทั้งมีการกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ยึดระเบียบ กฎหมายเป็นกรอบในการปฏิบัติงาน
นายสุทธิพล ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคูหาลงคะแนนเลือกตั้งทำหน้าที่อย่างเข้มงวดในการแนะนำให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ได้รับบัตรเลือกตั้งเข้าคูหาทีละคน ห้ามไม่ให้ปรึกษาหารือ หรือพูดคุยระหว่างอยู่ในคูหา พร้อมให้แนะนำผู้ใช้สิทธิพับบัตรเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนออกจากคูหา และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น ฉีก หรือ ทำลายบัตรเลือกตั้ง เปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง ใช้บัตรเลือกตั้งอื่นที่ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งที่กรรมการประจำหน่วยมอบให้ รวมถึงการถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่ตนลงคะแนนแล้ว เพราะจะผิดกฎหมายเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.ว่า ด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 71 วรรค 1 ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด หรือใช้บัตรเลือกตั้งที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมาจากการแสดงตน ลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งห้ามมิให้นำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
อย่างไรก็ตามวอนให้ทุกฝ่ายอย่าวิตกกังวลและเกิดความสบายใจได้ว่ามีการกำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาจากการสืบสวนสอบสวนไม่เคยปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งปลอมอยู่ในหีบบัตร
**แนะประชาชนรีบออกไปใช้สิทธิ
พ.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึง ภาพรวมของการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรง มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 8 เรื่อง อาทิ การสัญญาว่าจะให้ การใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนกรณีการพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดง นั้น กกต.กทม. จะต้องพิจาณาด้วยความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกร้องด้วย ซึ่งการพิจาณาหรือตัดสิน จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า กกต. มีการดำเนินการอย่างไร หากมีผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งในช่วงเวลา 15.00 น. พ.ต.ต.สุเทพ กล่าวว่า มติกกต.กลาง ระบุว่าให้นำบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทำการปิดท้ายบุคคลที่มาทันในเวลา 15.00 น. หากมีผู้ที่มาหลังจากเวลาที่กำหนด ก็จะถือว่าหมดสิทธิ ซึ่งมตินี้จะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รีบออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า อย่าคาดหวังที่จะมาในช่วงเวลา 15.00 น. เนื่องจากในแต่ละเขตมีผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก เพราะหากมาช้ากว่าเวลาที่กำหนด ก็ต้องหมดสิทธิเลือกตั้งทันที
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพรรคการเมืองที่เฝ้าสังเกตการณ์ รวมทั้งประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา จึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถกระทำได้ โดยการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มอบนโยบายในการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งละเอียดทุกขั้นตอนรวมทั้งมีการกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ยึดระเบียบ กฎหมายเป็นกรอบในการปฏิบัติงาน
นายสุทธิพล ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคูหาลงคะแนนเลือกตั้งทำหน้าที่อย่างเข้มงวดในการแนะนำให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ได้รับบัตรเลือกตั้งเข้าคูหาทีละคน ห้ามไม่ให้ปรึกษาหารือ หรือพูดคุยระหว่างอยู่ในคูหา พร้อมให้แนะนำผู้ใช้สิทธิพับบัตรเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนออกจากคูหา และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น ฉีก หรือ ทำลายบัตรเลือกตั้ง เปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง ใช้บัตรเลือกตั้งอื่นที่ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งที่กรรมการประจำหน่วยมอบให้ รวมถึงการถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่ตนลงคะแนนแล้ว เพราะจะผิดกฎหมายเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.ว่า ด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 71 วรรค 1 ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด หรือใช้บัตรเลือกตั้งที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมาจากการแสดงตน ลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งห้ามมิให้นำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
อย่างไรก็ตามวอนให้ทุกฝ่ายอย่าวิตกกังวลและเกิดความสบายใจได้ว่ามีการกำชับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาจากการสืบสวนสอบสวนไม่เคยปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งปลอมอยู่ในหีบบัตร
**แนะประชาชนรีบออกไปใช้สิทธิ
พ.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึง ภาพรวมของการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรง มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 8 เรื่อง อาทิ การสัญญาว่าจะให้ การใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนกรณีการพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดง นั้น กกต.กทม. จะต้องพิจาณาด้วยความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกร้องด้วย ซึ่งการพิจาณาหรือตัดสิน จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า กกต. มีการดำเนินการอย่างไร หากมีผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งในช่วงเวลา 15.00 น. พ.ต.ต.สุเทพ กล่าวว่า มติกกต.กลาง ระบุว่าให้นำบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทำการปิดท้ายบุคคลที่มาทันในเวลา 15.00 น. หากมีผู้ที่มาหลังจากเวลาที่กำหนด ก็จะถือว่าหมดสิทธิ ซึ่งมตินี้จะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รีบออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า อย่าคาดหวังที่จะมาในช่วงเวลา 15.00 น. เนื่องจากในแต่ละเขตมีผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก เพราะหากมาช้ากว่าเวลาที่กำหนด ก็ต้องหมดสิทธิเลือกตั้งทันที
