xs
xsm
sm
md
lg

ดับไฟประเทศ...วิชาก้นหีบประชาธิปัตย์!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย เสนาคาม

เห็นภาพกลุ่มควันโขมงลอยอยู่ด้านหลังตึกสูงระฟ้า ของเมืองฟ้าอมร กทม. พร้อมข้อความตัวอักษรสีขาว “เลือกประชาธิปัตย์ ดับไฟประเทศ ปฏิเสธความรุนแรง” ปูพรมติดอยู่ทั่วกรุงในเวลานี้

หลายคนบอกมันคือ “วิชาก้นหีบ”ของพรรคเก่าแก่ ที่มักจะงัดออกมาใช้ทุกครั้ง เมื่อถึงคราวจวนตัว โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง และคะแนนยังวิ่งไล่กวดตามหลังพรรคคู่แข่งอยู่

ไม่ว่าจะเป็นข้อความ “จำลองพาคนไปตาย” หรือ”ไม่เลือกเราเขามาแน่” และล่าสุด “เลือกประชาธิปัตย์ ดับไฟประเทศ ปฏิเสธความรุนแรง”แม้จะเป็นคนละเนื้อหากัน แต่ว่าวิธีการและเป้าหมายนั้น ล้วนก๊อปปี้มาจากชุดความคิดที่เป็น “วิชาก้นหีบ”อันเดียวกัน

และเที่ยวนี้ดูจะคลาสสิกกว่าด้วยซ้ำ เพราะมีการแจกบท ขับเคลื่อนเนื้อหากันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน...

โดยไม่ว่าจะเป็นการออกโทรทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่แนะนำให้ประชาชนเลือกนักการเมืองที่เป็นคนดีเข้าสภา.. ต่อด้วยการเปิดเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ และตามติดด้วยป้ายข้อความที่ว่า.. ก่อนที่จะขานรับด้วยการออกมาของ “กลุ่มสยามสามัคคี” ในวันถัดมา...

“กลุ่มสยามสามัคคี”ที่มีอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. เป็นหัวขบวน ประกาศรณรงค์แจกใบปลิวสติ๊กเกอร์ ข้อความ "3 กรกฎา ไปเลือกตั้ง ไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือก...คน...เผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวก...เคืองแค้นสถาบัน"

การขับเคลื่อนของทั้ง ผบ.ทบ. พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มสยามสามัคคี แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ทว่าเนื้อหาที่นำเสนอต่อสังคมนั้น มีบทสรุปตรงกันคือ ไม่ให้เลือกคนที่เผาบ้านเผาเมือง!!

กล่าวสำหรับ ผบ.ทบ.แม้โฆษกกองทัพบก จะออกมาแถลงในเวลาต่อมาว่า การออกโทรทัศน์ของ ผบ.ทบ.นั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำให้เลือกพรรคการเมืองใด หรือไม่ให้เลือกพรรคการเมืองไหนก็ตาม แต่ความไม่แน่ใจของสังคม ก็ได้รับการตอกย้ำด้วยการตั้งเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ในอีกไม่กี่วันถัดมา ด้วยเนื้อหาว่าด้วย “การเผาเมือง และขบวนการล้มเจ้า” นั่นแหล่ะ

เพราะอย่าลืมว่า..ก่อนหน้าที่ ผบ.ทบ.จะร่ายยาวผ่านรายการโทรทัศน์ นั้น ปรากฎมีข่าว “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เข้าพบหารือพูดคุยด้วยที่ห้องทำงานใน บก.ทบ.ภายใต้รหัสเรียกขาน วีไอพี.1

เสร็จจากเวทีราชประสงค์ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ขยายผลด้วยการติดป้ายข้อความที่ว่าทั่วกรุงเทพฯ ในเวลาต่อมา และบังเอิญไปสอดรับกับการออกมาของกลุ่มสยามสามัคคี พอดิบพอดี!! มันก็เลยชวนให้คิดไปได้ว่า.. นี่ต้องเป็นปฏิบัติการของขบวนการสามสลึงแน่ๆ

แต่เอาเถอะ...ไม่ว่าประชาธิปัตย์ และพลพรรคแมลงสาบ จะออกมาอธิบายความอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนไปว่า ประชาธิปัตย์นั้น “กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด”ดังนั้น การวางยุทธศาสตร์ต่างๆ ในเวลาต่อมา ก็เลยพลอยผิดพลาดไปด้วย

โดยเฉพาะการตัดสินใจจุดประเด็น “เผาเมือง” ขึ้นมาในช่วงโค้งสุดท้ายนั้น หลายคนบอกว่า มันเป็นการเดินหมากชนิดที่เรียกว่า “ก้าวพลาด”อีกครั้ง ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอย่างน้อยที่สุด มันได้ทำให้ความพยายามในการสร้างความปรองดอง กลายเป็นปราสาททราย ยามต้องคลื่นทะเลไปในพริบตา

นอกจากนั้น ช่องว่างระหว่างสี ระหว่างกลุ่มในสังคมไทย ที่หลายฝ่ายพยายามเชื่อมประสานเข้าหากัน มันก็ยิ่งปริแยกห่างออกจากกันมากขึ้น หลังคำปราศรัยที่โหยหาอดีต เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และกล่าวให้ร้ายฝ่ายตรงข้ามในค่ำคืนวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามา พรรคประชาธิปัตย์ มีเป้าหมายอยู่สิ่งเดียวเท่านั้น คือ “ชัยชนะ” โดยเฉพาะในสนามเมืองหลวง ที่ดูจากผลโพลสำนักต่างๆ แล้ว ปรากฏว่ายังตามหลังพรรคเพื่อไทยอยู่หลายช่วงตัว แต่ว่าในจำนวนนั้น มีผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคไหนอยู่อีกเกือบ 30%

จึงทำให้เป็นที่มาของคณะผ้าป่าสามัคคี รวมตัวกันเปิดการแสดงดังว่า เพื่อหนีตายจากกระแสโพล แม้ปากจะพร่ำบอกว่า ไม่เชื่อผลโพลก็เถอะ!

ทั้งหมดที่ว่ามา มิได้หมายความว่า ให้ไปเลือกพรรคหนึ่ง แล้วไม่เลือกอีกพรรค.. เพราะไม่ว่าพรรคเผาเมือง หรือพรรคที่ปล่อยให้เผาเมือง ต่างก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้น จึงเหลืออยู่ทางเลือกเดียวเท่านั้นคือ “โหวตโน”กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ได้ทั้งสั่งสอนนักการเมือง ได้ทั้งปฏิรูปการเมืองครับ.
กำลังโหลดความคิดเห็น