แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ สำหรับการรณรงค์ไปใช้สิทธิ์ ไม่เลือกใคร “โหวตโน”ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าจะถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีสารพัดวิธีตลอดทาง แต่ในโค้งสุดท้ายชี้ขาดแล้วว่ามีประชาชนให้ความสนใจร่วมอุดมการณ์มากขึ้นทุกระยะ และตัดสินจะ “โหวตโน”กันจำนวนมาก อย่างที่เมื่อรู้ผลแล้วนักการเมืองชั่วจะต้องเดินเอาปี๊บคุมหัวเดิน
ในส่วนการแข่งขันของวังวนการเมืองน้ำเน่า, เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย ที่มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชูธงแดงนำหน้าพลพรรคคนรักทักษิณ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ยิ่งทิ้งห่างคู่แข่งหลายช่วงตัว
โพลทุกสำนักฟันธงตรงเป๊ะ เพื่อไทยชนะเลือกตั้งแน่ แต่จะชนะมากน้อยก็ยังกระจัดกระจายไปตามแต่ละโพล พรรคประชาธิปัตย์คู่แข่งคู่แค้นสำคัญ ดูเหมือนจะถูกฉีกหนีห่างออกไปทุกทีๆ
ในขณะที่พรรคเล็ก พรรคน้อย ก็ต้านทานกระแสนิ้วชี้ฟีเวอร์ไม่ไหว ต้องกลับไปประเมินตัวเลข ตั้งเป้ากันใหม่ตามสภาพความเป็นจริง ที่เคยคุยโม้โอ้อวดจะกวาดเก้าอี้เท่านั้นเท่านี้ เริ่มเสียงอ่อย ยอมรับสภาพกันหมดแล้ว
พรรคชาติไทยพัฒนาออกมายอมรับโต้งๆ ว่ากระแสพรรคเพื่อไทยรุนแรงเหลือเกิน พรรคชาติไทยพัฒนาต้องเจียมตัวเอาเก้าอี้แค่ 25-30 พอ
ท่วงทำนองคล้ายกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ไม่มีออกลูกซ่า ลูกเฮี้ยว สงวนท่าทีรักษาพื้นที่มั่นของตัวเองไว้ ไม่เปิดหน้าชกสร้างศัตรูกับใคร ได้เก้าอี้เข้าเป้าก็แต่งตัวรอให้พรรคใหญ่จูงเข้าหอร่วมรัฐบาล นิ่งๆ ง่ายๆ สบายกว่ากันเยอะ
อย่างไรก็ตาม มีบางพรรคที่ยังไม่เลิกเพ้อเจ้อ เพ้อฝัน ประเมินตัวเลขอยู่บนสมมติฐานของการหลอกตัวเองอยู่ร่ำไป นัยหนึ่งก็เพื่อปลุกขวัญปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค และก็หลอกลวงแฟนคลับ แฟนพันธุ์แท้ให้มีความหวัง ไม่ถอดใจไปเลือกพรรคอื่นๆ
พรรคประชาธิปัตย์ระยะหลังชักออกอาการเป๋ไปเป๋มา บางครั้งก็ผรุสวาทออกมาเหมือนคนธาตุไฟแตก เหมือนมีปมอะไรขัดเคืองในใจ เมื่อลองเข็นนโยบายขายชาวบ้านแล้วทำอย่างไรคะแนนก็ไม่ตีตื้นกลับมา ยิ่งเข็นก็เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
ล่าสุด เปลี่ยนแนวมาเล่นตามสไตล์ถนัดของตัวเอง ด้วยการสาดสี สาดโคลนคู่แข่งให้มอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วย การตั้งเวทีปราศรัยที่แยกราชประสงค์ไม่เคยอยูู่ในแผนมาก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์สร้างเวทีนี้ขึ้นมาเล่นหวังตีแผลเผาบ้านเผาเมืองคนเสื้อแดง กระตุกกระแสความหวาดกลัวของคนให้กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง
เปิดเกมเสี่ยง ถูกกล่าวหาว่า “ปากปรองดอง แต่ใจปองร้าย” หยิบยกเอาความแตกแยกในอดีตขึ้นมาตอกลิ่ม เพิ่มเชื้อไฟขัดแย้ง ท้าให้เลือกข้างเลือกฝ่ายกันไปเลย
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาผ่านมาก็เนิ่นนานไม่ออกมาพูด ไม่ออกมาสะสางเรื่องให้มันจบๆ ไป วันนี้จะเลือกตั้งค่อยออกมาพูด มันก็เลยแปลก
เวทีราชประสงค์มีอะไรให้เห็นหลากหลาย โดยเฉพาะการตีบทละครแตกยับเยิน ซีนบีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสาร ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ถ้าไม่ได้ใจ ก็ได้อ้วกกันบ้างล่ะ
นี่ถ้าไม่เกรงใจ คงแพลงกิ้งโชว์กันให้รู้แล้วรู้รอดไปแล้ว อาจได้เห็นภาพ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกร็งตัวนอนราบโชว์ความแข็งแรงบนป้ายราชประสงค์
ระยะหลังประชาธิปัตย์โหมกระหน่ำเป็นข่าว เป็นกระแสตามสื่อเหลือเกิน หวังยึดทุกพื้นที่ที่ปรากฎต่อสายตาชาวบ้าน แต่บางทีก็ถูกตอกกลับมาเจ็บแสบว่า "ดีแต่พูด ดีแต่โพสต์"
หันมาดูพรรคภูมิใจไทย วันนี้ดูจะดิ้นพราดๆ กว่าใคร นอกจากจะไม่มีใครอยากเอาไปทำยาด้วยแล้ว กระแสความนิยมของตัวเองมีแต่ทรงกับทรุด เพราะไม่มีอะไรจะจำหน่ายจริงๆ คนจำภาพติดตาก็เฉพาะเรื่องทุจริต คอรัปชั่น เกมใต้ดิน จนเป็นโลโก้ประจำตัวไปแล้ว
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคที่ไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่เอาด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา วันนี้สารพัดวิชามารเท่าที่จะคิดได้งัดมาใช้ทุกกระบวนท่า จัดหนัก จัดเต็ม จัดจนล้น!!
คนนินทากันให้แซด บางพรรคการเมืองซื้อเสียงกันโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เกรงกลัวคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าจะแจกใบเหลือง ใบแดงหรือไม่
แจกเงินโดยแนบนามบัตร แนบโปสเตอร์หาเสียงของพรรคคู่แข่ง จัดฉากใส่ร้าย เตะตัดขาก็มี ซิกแซกตัวเลขพรรค ตัวเลขผู้สมัครให้เข้าใจผิด กาช่องอื่นๆ ก็มี บอกให้เลือกเบอร์ 16 แล้วจะไปโหวตเบอร์ 1 เป็นนายกฯ ก็ทำมาแล้ว
สารพัดวิธีการที่บางทีคนดีๆ คนมีคุณธรรมในจิตใจคิดไม่ถึงเลยเชียว ว่าจะทำกันได้ถึงเพียงนี้
ล่าสุดที่เห็นชัดหน่อย คือที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ข่าวว่ามีการเก็บบัตรประชาชน ล็อกคะแนนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะเขตอิทธิพลของตระกูล "สุวรรณฉวี" เล่นน่าเกลียดเกินไป ทำกันเหมือนบ้านนี้เมืองนี้เป็นของข้าคนเดียว
ถ้าเล่นกันขนาดนี้ กลัวแพ้นักก็อย่ามาเลือกตั้งเลยดีกว่า ไปสุมหัวจัดตั้งรัฐบาล รวมพลยึดอำนาจประเทศไปเลยดีกว่า อย่าทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม ที่ไร้ค่าในระบอบประชาธิปไตยอีกเลย
มันก็น่าสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมบางพรรคการเมืองถึงย่ามใจกันเหลือเกิน และก็น่าสนใจที่คนนินทาว่าแอบมีการช่วยกัน
ปิดกันให้แซดว่ากกต.ช่วยเหลือพรรคเบอร์ 16 เอาง่ายๆ ดูจากบัตรเลือกตั้ง การแบ่งแถวเรียงเบอร์พรรคการเมือง แทนที่จะแบ่ง 2 แถว 3 แถว ให้เท่าๆ กัน แต่กลับแบ่งเป็น 4 แถว เอาเบอร์ 16 ขึ้นมาเด่นหราไว้ในแถวสอง ง่ายต่อการกาบัตรลงคะแนน ส่วนตอนท้ายปลายแถวก็ปล่อยโล้นๆ ไว้ให้ว่างเสียอย่างนั้น
ถ้าหากพฤติกรรมของกรรมการไม่โปร่งใส เอนเอียงดังคำที่คนนินทาไว้แล้ว จะทำให้คนคาดหวังต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร ทำให้คนพานคิดไปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีอำนาจมืดเข้ามายุ่งเกี่ยวบงการให้เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่
ความผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวดังกล่าว ทำให้บางพรรคการเมืองต้องออกมาร้องแรกแหกกระเฌอ เซฟตัวเองไว้ก่อน
เหมือนจงใจปล่อยไปให้เข้าทางพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด เมื่อกรรมการไม่โปร่งใส เที่ยงธรรม แล้วจะคาดหวังความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างไรได้
หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วผิดเพี้ยนด้วยเพราะความมืดดำของกรรมการ แน่ใจหรือว่าจะไม่เกิดวิกฤติรอบใหม่ ซึ่งอาจมาจากกลุ่มคนหน้าเดิม
หรือคราวนี้มันอาจจะเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติจากคนหน้าใหม่ ผสมโรงเข้าไปด้วยเลยก็ได้
ในส่วนการแข่งขันของวังวนการเมืองน้ำเน่า, เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย ที่มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชูธงแดงนำหน้าพลพรรคคนรักทักษิณ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ยิ่งทิ้งห่างคู่แข่งหลายช่วงตัว
โพลทุกสำนักฟันธงตรงเป๊ะ เพื่อไทยชนะเลือกตั้งแน่ แต่จะชนะมากน้อยก็ยังกระจัดกระจายไปตามแต่ละโพล พรรคประชาธิปัตย์คู่แข่งคู่แค้นสำคัญ ดูเหมือนจะถูกฉีกหนีห่างออกไปทุกทีๆ
ในขณะที่พรรคเล็ก พรรคน้อย ก็ต้านทานกระแสนิ้วชี้ฟีเวอร์ไม่ไหว ต้องกลับไปประเมินตัวเลข ตั้งเป้ากันใหม่ตามสภาพความเป็นจริง ที่เคยคุยโม้โอ้อวดจะกวาดเก้าอี้เท่านั้นเท่านี้ เริ่มเสียงอ่อย ยอมรับสภาพกันหมดแล้ว
พรรคชาติไทยพัฒนาออกมายอมรับโต้งๆ ว่ากระแสพรรคเพื่อไทยรุนแรงเหลือเกิน พรรคชาติไทยพัฒนาต้องเจียมตัวเอาเก้าอี้แค่ 25-30 พอ
ท่วงทำนองคล้ายกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ไม่มีออกลูกซ่า ลูกเฮี้ยว สงวนท่าทีรักษาพื้นที่มั่นของตัวเองไว้ ไม่เปิดหน้าชกสร้างศัตรูกับใคร ได้เก้าอี้เข้าเป้าก็แต่งตัวรอให้พรรคใหญ่จูงเข้าหอร่วมรัฐบาล นิ่งๆ ง่ายๆ สบายกว่ากันเยอะ
อย่างไรก็ตาม มีบางพรรคที่ยังไม่เลิกเพ้อเจ้อ เพ้อฝัน ประเมินตัวเลขอยู่บนสมมติฐานของการหลอกตัวเองอยู่ร่ำไป นัยหนึ่งก็เพื่อปลุกขวัญปลุกกำลังใจสมาชิกพรรค และก็หลอกลวงแฟนคลับ แฟนพันธุ์แท้ให้มีความหวัง ไม่ถอดใจไปเลือกพรรคอื่นๆ
พรรคประชาธิปัตย์ระยะหลังชักออกอาการเป๋ไปเป๋มา บางครั้งก็ผรุสวาทออกมาเหมือนคนธาตุไฟแตก เหมือนมีปมอะไรขัดเคืองในใจ เมื่อลองเข็นนโยบายขายชาวบ้านแล้วทำอย่างไรคะแนนก็ไม่ตีตื้นกลับมา ยิ่งเข็นก็เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
ล่าสุด เปลี่ยนแนวมาเล่นตามสไตล์ถนัดของตัวเอง ด้วยการสาดสี สาดโคลนคู่แข่งให้มอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วย การตั้งเวทีปราศรัยที่แยกราชประสงค์ไม่เคยอยูู่ในแผนมาก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์สร้างเวทีนี้ขึ้นมาเล่นหวังตีแผลเผาบ้านเผาเมืองคนเสื้อแดง กระตุกกระแสความหวาดกลัวของคนให้กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง
เปิดเกมเสี่ยง ถูกกล่าวหาว่า “ปากปรองดอง แต่ใจปองร้าย” หยิบยกเอาความแตกแยกในอดีตขึ้นมาตอกลิ่ม เพิ่มเชื้อไฟขัดแย้ง ท้าให้เลือกข้างเลือกฝ่ายกันไปเลย
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาผ่านมาก็เนิ่นนานไม่ออกมาพูด ไม่ออกมาสะสางเรื่องให้มันจบๆ ไป วันนี้จะเลือกตั้งค่อยออกมาพูด มันก็เลยแปลก
เวทีราชประสงค์มีอะไรให้เห็นหลากหลาย โดยเฉพาะการตีบทละครแตกยับเยิน ซีนบีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสาร ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ถ้าไม่ได้ใจ ก็ได้อ้วกกันบ้างล่ะ
นี่ถ้าไม่เกรงใจ คงแพลงกิ้งโชว์กันให้รู้แล้วรู้รอดไปแล้ว อาจได้เห็นภาพ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกร็งตัวนอนราบโชว์ความแข็งแรงบนป้ายราชประสงค์
ระยะหลังประชาธิปัตย์โหมกระหน่ำเป็นข่าว เป็นกระแสตามสื่อเหลือเกิน หวังยึดทุกพื้นที่ที่ปรากฎต่อสายตาชาวบ้าน แต่บางทีก็ถูกตอกกลับมาเจ็บแสบว่า "ดีแต่พูด ดีแต่โพสต์"
หันมาดูพรรคภูมิใจไทย วันนี้ดูจะดิ้นพราดๆ กว่าใคร นอกจากจะไม่มีใครอยากเอาไปทำยาด้วยแล้ว กระแสความนิยมของตัวเองมีแต่ทรงกับทรุด เพราะไม่มีอะไรจะจำหน่ายจริงๆ คนจำภาพติดตาก็เฉพาะเรื่องทุจริต คอรัปชั่น เกมใต้ดิน จนเป็นโลโก้ประจำตัวไปแล้ว
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคที่ไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่เอาด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา วันนี้สารพัดวิชามารเท่าที่จะคิดได้งัดมาใช้ทุกกระบวนท่า จัดหนัก จัดเต็ม จัดจนล้น!!
คนนินทากันให้แซด บางพรรคการเมืองซื้อเสียงกันโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เกรงกลัวคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าจะแจกใบเหลือง ใบแดงหรือไม่
แจกเงินโดยแนบนามบัตร แนบโปสเตอร์หาเสียงของพรรคคู่แข่ง จัดฉากใส่ร้าย เตะตัดขาก็มี ซิกแซกตัวเลขพรรค ตัวเลขผู้สมัครให้เข้าใจผิด กาช่องอื่นๆ ก็มี บอกให้เลือกเบอร์ 16 แล้วจะไปโหวตเบอร์ 1 เป็นนายกฯ ก็ทำมาแล้ว
สารพัดวิธีการที่บางทีคนดีๆ คนมีคุณธรรมในจิตใจคิดไม่ถึงเลยเชียว ว่าจะทำกันได้ถึงเพียงนี้
ล่าสุดที่เห็นชัดหน่อย คือที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ข่าวว่ามีการเก็บบัตรประชาชน ล็อกคะแนนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะเขตอิทธิพลของตระกูล "สุวรรณฉวี" เล่นน่าเกลียดเกินไป ทำกันเหมือนบ้านนี้เมืองนี้เป็นของข้าคนเดียว
ถ้าเล่นกันขนาดนี้ กลัวแพ้นักก็อย่ามาเลือกตั้งเลยดีกว่า ไปสุมหัวจัดตั้งรัฐบาล รวมพลยึดอำนาจประเทศไปเลยดีกว่า อย่าทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม ที่ไร้ค่าในระบอบประชาธิปไตยอีกเลย
มันก็น่าสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมบางพรรคการเมืองถึงย่ามใจกันเหลือเกิน และก็น่าสนใจที่คนนินทาว่าแอบมีการช่วยกัน
ปิดกันให้แซดว่ากกต.ช่วยเหลือพรรคเบอร์ 16 เอาง่ายๆ ดูจากบัตรเลือกตั้ง การแบ่งแถวเรียงเบอร์พรรคการเมือง แทนที่จะแบ่ง 2 แถว 3 แถว ให้เท่าๆ กัน แต่กลับแบ่งเป็น 4 แถว เอาเบอร์ 16 ขึ้นมาเด่นหราไว้ในแถวสอง ง่ายต่อการกาบัตรลงคะแนน ส่วนตอนท้ายปลายแถวก็ปล่อยโล้นๆ ไว้ให้ว่างเสียอย่างนั้น
ถ้าหากพฤติกรรมของกรรมการไม่โปร่งใส เอนเอียงดังคำที่คนนินทาไว้แล้ว จะทำให้คนคาดหวังต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร ทำให้คนพานคิดไปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีอำนาจมืดเข้ามายุ่งเกี่ยวบงการให้เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่
ความผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวดังกล่าว ทำให้บางพรรคการเมืองต้องออกมาร้องแรกแหกกระเฌอ เซฟตัวเองไว้ก่อน
เหมือนจงใจปล่อยไปให้เข้าทางพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด เมื่อกรรมการไม่โปร่งใส เที่ยงธรรม แล้วจะคาดหวังความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างไรได้
หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วผิดเพี้ยนด้วยเพราะความมืดดำของกรรมการ แน่ใจหรือว่าจะไม่เกิดวิกฤติรอบใหม่ ซึ่งอาจมาจากกลุ่มคนหน้าเดิม
หรือคราวนี้มันอาจจะเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติจากคนหน้าใหม่ ผสมโรงเข้าไปด้วยเลยก็ได้