xs
xsm
sm
md
lg

รวบเสี่ยเหมืองแร่สวมชื่อปลอมบัตรประชาชน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กองปราบฯ ตามรวบเสี่ยเหมืองแร่สวมทะเบียนราษฎรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อปลอมบัตรประชาชน ใบขับขี่ เจ้าตัวปฏิเสธอ้างเป็นคนไทยจริงมีพ่อแม่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ขอนแก่น ส่วนตัวไปโตที่จีนแล้วกลับมาไทยปี 37 เคยทำงานแบงก์ก่อนมาเปิดบริษัทเหมืองแร่ เชื่อถูกกลั่นแกล้งจากคู่แข่งทางธุรกิจ

วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อ 14.00 น. ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ พงส.(สบ3) กก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.3 บก.ป. แถลงการจับกุม นายซี หมิง หรือนายสุรีย์ แซ่โค้ว อายุ 55 ปี เจ้าของบริษัท อาร์แอนด์ดี ไทย จำกัด และ หจก.ไทยหลินหลาน คอมเมอร์เชียล จำกัด เลขที่ 790/21 อาคารทองหล่อทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท ซอย 35 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 944/2554 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และข้อหาแจ้งเจ้าพนักงานให้จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ พร้อมของกลางบัตรประชาชน ใบ ส.ด.9 ใบขับขี่ กุญแจรถ เช็ค สลิปธนาคาร นามบัตร และเอกสารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง จับกุมได้ที่หน้าสำนักงานที่ดิน กทม.สาขามีนบุรี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน บก.ป.ได้รับร้องเรียนว่า นายซีหมิง หรือ นายสุรีย์ มีพฤติการณ์สวมบัตรประชาชนของ น.ส.สุรีย์ แซ่โค้ว ซึ่งมีข้อมูลในทะเบียนอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 70/21 ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก น.ส.เป็น นาย แล้วนำบัตรประชาชนดังกล่าวไปประกอบกับเอกสารอื่นๆ ใช้จดทะเบียนบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจเหมืองแร่ ในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และใช้ทำนิติกรรมต่างๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคง เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2537 ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2549 ต่อเนื่องกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ นอกจากนี้ได้ประสานไปยังเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกบัตรประชาชน และมีคำสั่งให้เพิกถอนบัตรประชาชนของนายสุรีย์ ไปแล้ว

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นคนไทยมีพ่อแม่ซึ่งเคยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนที่ตนจะไปโตที่ประเทศจีน แล้วกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อปี 2537 ส่วนเรื่องการทำบัตรประชาชนนั้นตนเคยแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎรให้มีการแก้ไขและมีการตรวจสอบและรับรองเรียบร้อยแล้ว

“ก่อนหน้านี้ ผมเคยเข้าทำงานในธนาคารแห่งหนึ่งเป็นเวลากว่า 5 ปี ก่อนจะเปิดบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจด้านเหมืองแร่ ซึ่งธุรกิจนี้ผมรับช่วงต่อมาจากนายชาญวิทย์ นักธุรกิจที่รู้จักกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่าจะมีสาเหตุมาจากการกลั่นแกล้งของคู่แข่งธุรกิจเหมืองแร่” นายซีหมิง กล่าว

ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
กองปราบฯ ควบคุมตัวนายซี หมิง หรือนายสุรีย์ แซ่โค้ว อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อปลอมบัตรประชาชน

กำลังโหลดความคิดเห็น