ประธานกุนซือหัวหน้าชาติไทยพัฒนา จี้ กกต.ปรับปรุงเลือกตั้งล่วงหน้า แนะเลื่อนปิดหีบเป็น 5 โมงเย็น หนุนเลิกไปเลยยิ่งดี ขยายเวลาลงเลือกตั้งแทน ชี้โค้งสุดท้ายหาเสียงดุเรื่องปกติ รับพรรคได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม เชื่อหลังเลือกตั้งวันรุ่งขึ้นก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว ปัด “ชุมพล” ทวงเก้าอี้ 2 กระทรวงต่อรองร่วมรัฐ ยันเตือนไปแล้ว
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาเกิดเหตุความวุ่นวายและสับสนในบางจุด เดิมมีการเลือกตั้งล่วงหน้า 2 วัน แต่ครั้งนี้เหลือเพียงแค่วันเดียวทำให้เกิดปัญหาความล่าช้า บางคนต้องไปรอใช้สิทธิถึง 2 ชั่วโมง ข้อบกพร่องตรงนี้อยากจะให้ กกต.กลางไปปรับปรุงแก้ไขในจุดข้อบกพร่องเหล่านี้ และหากเป็นไปได้ก็ควรเลื่อนการปิดหีบออกไปเป็น 17.00 น. นอกจากนี้นี้ยังมีปัญหาในเรื่องของบัตรลงคะแนนของ ส.ส.ระบบเขต และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จึงอยากให้ กกต.กลางแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้
เมื่อถามว่า หลายคนบอกว่าการเลือกล่วงหน้ามีปัญหาเยอะ ควรแก้ไขไม่ให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าและใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงวันเดียว นายบรรหารกล่าวว่า ก็ดี ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าเลยยิ่งดีใหญ่ แล้วไปขยายวันเลือกตั้งจริงถึง 17.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะมาใช้สิทธิ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีหลายคนเป็นห่วงเรื่องกระบวนการคัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าและสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต นายบรรหารกล่าวว่า หากไม่ควบคุมให้ดีก็มีข้อบกพร่อง ก็ควรมีการนำข้อบกพร่องไปแก้ไข กกต.กลางก็ควรพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะสถานที่ลงคะแนนจะต้องให้มีความสะดวกกว้างขวาง
นายบรรหารกล่าวว่า สำหรับการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเสียงเลือกตั้งที่เหลืออีก 7 วันถือว่าเป็นธรรมดาที่จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพราะถือว่าเป็นช่วงสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาหลังจากมีการปรับยุทธศาสตร์ไปแล้วด้วยการให้แกนนำลงพื้นที่หาเสียงมากขึ้นก็ยอมรับว่ามีการตอบรับที่ดีขึ้นและจำนวน ส.ส.คงไม่น้อยกว่าเดิม คือ 25-30 เสียง แต่คงไม่ถึง 35 คน
เมื่อถามว่า หลังจากวันที่ 3 ก.ค.จะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่สำหรับการฟอร์มรัฐบาล นายบรรหารกล่าวว่า ไม่นาน วันรุ่งขึ้นคงตั้งรัฐบาลกันได้แล้ว อย่างไม่ถึง 30 วันก็น่าจะเห็นโฉมหน้ารัฐบาลแล้ว และยืนยันว่าการที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ปราศรัยก่อนหน้านี้ว่าพรรคจะขอกลับไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้นไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งส่วนตัวได้บอกกับนายชุมพลไปแล้วว่าไปพูดอย่างนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยขอยืนยันว่า ณ เวลานี้ยังไม่มีการพูดคุยกันว่าพรรคใดจะดูแลกระทรวงเพราะต้องรอให้ผ่านพ้นการเลือกตั้งไปก่อนถึงจะมีการหารืออีกครั้ง
นายบรรหารกล่าวถึงกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีมรดกโลกว่า ยอมรับว่าเรื่องนี้ส่วนตัวไม่มีความเห็นใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และทราบมาว่าคณะรัฐมนตรีได้ให้อำนาจนายสุวิทย์ในการตัดสินใจไปแล้ว จากนี้ไปคงต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะท่าทีจากต่างประเทศว่าจะออกมาอย่างไร แต่อยากฝากให้รัฐบาลคิดต่อไปว่าถ้าเกิดที่ประชุมมรดกโลกลงมติอะไรจะมีปัญหาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญคงไม่ทำอะไรเพลี่ยงพล้ำไม่น่าจะพลาด
“การต่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดดังนั้นต้องได้คนที่มี วาทะดี มีมนุษยสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดี ที่พูดมาอย่างนี้ผมไม่ได้ว่าใคร แต่อย่าใช้ตาต่อตาฟันต่อฟัน” นายบรรหาร กล่าว