บุรีรัมย์ - “มทภ.2” เดินสายเยี่ยมปลอบขวัญมอบเงินให้กำลังใจทหารบาดเจ็บจากสู้รบชายแดนสุรินทร์ ที่ รพ.ค่ายฯ จ.บุรีรัมย์ เผย สถานการณ์ชายแดนเรียบร้อยดี ผู้บังคับบัญชาและระดับหน่วยพื้นที่พูดคุยเจรจากัน กำชับทหารอยู่ในวินัย พร้อมทบทวนฟื้นฟูหมู่บ้าน “ปชด.” ลุกขึ้นสู้ปกป้องตัวเอง เห็นด้วยเปิดจุดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดละ 1 แห่ง เตือน ปชช.พบวัตถุระเบิดแจ้ง จนท.ทำลาย
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะ เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญและมอบเงินให้กำลังใจทหารผู้ใต้คับบัญชา ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา 12 นาย ซึ่งถูกส่งตัวเข้ามารักษาอาการบาดเจ็บและนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
โดยมี นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.อ.สนธยา ศรีเจริญ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา น่าจะเรียบร้อยดี เพราะได้มีการพูดคุยในระดับผู้บังคับบัญชา และให้หน่วยในระดับพื้นที่พูดคุยเจรจากัน เท่าที่ประสานกันมาทุกวันจากปัญหาเยอะก็เริ่มน้อยลง เมื่อวานไม่มีเสียงปืนดังขึ้นก็ถือเป็นโอกาสดี ซึ่งเป็นเป้าประสงค์ของทั้งสองฝ่าย แม่ทัพฝ่ายกัมพูชาก็อยากพูดคุยด้วย ไม่มีอะไรพูดกันธรรมดา ก็พยายามกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในระเบียบวินัย ไม่ให้ตกใจ หรือมีปืนลั่นเกิดขึ้น ประชาชนในช่วงนี้ก็อยากทำมาหากินพึ่งพาอาศัยกันทั้งสองฝ่าย
ส่วนประชาชนที่ยังอยู่ในการหวาผวาตกใจกลัวต่อเหตุการณ์นั้น เกิดจากขวัญอ่อน หรือขวัญเสียมากกว่า เพราะจากการพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ต่างมั่นในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสต่อไป ทางกองทัพภาคที่ 2 จะมีนโยบายทบทวนฟื้นฟู หมู่บ้านป้องกันตนเองตามแนวชายแดน หรือ หมู่บ้าน “ปชด.” ซึ่งเราตั้งขึ้นมาเพื่อให้เขาสามารถป้องกันตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่เมื่อเกิดมีเหตุการณ์ขึ้นมากลับหนีเหมือนประชาชนธรรมดา เขาต้องมีความความพร้อมในการป้องกันตัวเอง ผู้หญิง เด็ก คนชรา เข้าหลุมหลบภัย ผู้ชายก็ไปต่อสู้ เพราะเรามีอาวุธส่วนหนึ่งไปแจกจ่ายให้อยู่แล้ว ถ้ามีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ อส.ตำรวจ ทหาร ในส่วนกิจการพลเรือนก็จะเข้ามาช่วยเหลืออยู่แล้ว
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า หากเหตุการณ์ปะทะสงบเรียบร้อยแล้ว เห็นด้วย ที่จะให้มีการเปิดด่านการค้าซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และเห็นด้วยหากจะเปิดจุดการค้าชายแดนจังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อที่ประชาชนตามแนวชายแดน และผู้ประกอบการจะได้มีรายได้
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ ที่จะมีการขอเปิดจุดการค้าชายแดน บริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือของผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา จะพูดคุยกันเท่านั้น ส่วนกองทัพไม่มีปัญหา พร้อมให้การสนับสนุนอยู่แล้ว
“ส่วนพื้นที่ตามหมู่บ้านชายแดน หรือ ตามสวน ไร่นา หากพี่น้องประชาชนพบเห็นวัตถุต้องสงสัย อาจเป็นวัตถุระเบิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการเก็บกู้ และทำลาย อย่าได้นำไปเล่นหรือเก็บไว้เป็นอันขาด เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้” พล.ท.ธวัชชัย กล่าว
