xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ชม “สุวิทย์” เยี่ยม ถอนตัวภาคีมรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปราสาทพระวิหาร (แฟ้มภาพ)
“บิ๊กตู่” ออกปากชม “สุวิทย์” เยี่ยมถอนตัวภาคีมรดกโลก ย้ำกองทัพไม่มีปัญหาเรื่องรักษาอธิปไตย ยันเตรียมการไว้หมดแล้ว เผยรอดูท่าทีศาลโลกพิจารณาคุ้มครองหรือไม่ เตรียมส่งกำลังแพทย์-พยาบาลลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก ด้าน มทภ.2 เผยสถานการณ์ชายแดนยังปกติไม่มีการเคลื่อนกำลังเข้าประจำการณ์


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (27 มิ.ย.) ท่าอากาศสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศเกาหลีใต้ ถึงกรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ยื่นหนังสือถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาคีมรดกโลก หลังสมาชิกภาคีมรดกโลกรับข้อเสนอของประเทศกัมพูชาในการจัดทำแผนบริหารจัดการ พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ว่า คงไม่มีปัญหาอะไรถือเป็นมาตรการหนึ่งที่เราได้มีการเตรียมการไว้แล้วล่วง หน้าว่าถ้าเกิดเหตุแบบนี้แล้วนี้จะทำอะไรต่อไป ดังนั้นการประชุมสมาชิกภาคีมรดกโลกครั้งนี้มีปัญหาเกิดขึ้นในเรื่องของการ เสนอวาระเข้าไปในการประชุม ทั้งนี้เท่าที่ทราบจากการรายงานในขั้นตอนหมายความว่าจะขอเลื่อนการพิจารณาดังกล่าวไปก่อน แต่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระเพื่อเข้าพิจารณาเลย ซึ่งอาจจะเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศกัมพูชาจึงต้องถอนตัวออกมา หลังจากนั้นคงจะต้องหาทางแก้ไขปัญหากันต่อไปโดยเรามีหลายช่องทางในการแก้ไข ปัญหาด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทางกองทัพบกได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา 2 ครั้งที่ผ่านมา เราได้มีการเพิ่มเติมกำลัง และ ปรับกำลังตลอดเวลา โดยเฉพาะการจัดเตรียมสถานที่กำบังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการปฏิบัติ หน้าที่ของกำลังพล ขณะที่ทางกัมพูชาเองก็ได้มีการเตรียมป้องกันไว้เช่นกัน ทั้งนี้ฝ่ายเราจะต้องเตรียมการป้องกันเป็นหลักไม่ต้องการที่จะไปรุกรานใครทั้งสิ้น และที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยเป็นคนเริ่มต้นสถานการณ์ก่อน ขณะนี้กองทัพบกก็เฝ้าติดตามสถานการณ์ และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาแล้ว และกองบัญชาการกองทัพไทย โดยทั้ง 3 เหล่าทัพจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนการดูแลประชาชนตามแนวชายแดนนั้น คงจะให้กองทัพภาคที่ 2 ไปทำความเข้าใจกัน และหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อดินแดน และ หมู่บ้านติดกันแบบนี้ ทางกองทัพบกได้จัดแพทย์ พยาบาล และกำลังพล เข้าไปทำความเข้าใจ และดูแลสุขภาพจิต

“ประชาชน ในพื้นที่อย่าเพิ่งตื่นตระหนก มันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ ผมแน่ใจว่าทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม หรือ มีการสู้รับกันเกิดขึ้น เนื่องจากมีบทเรียนกันมาแล้ว ผู้บาดเจ็บ สูญเสียคือประชาชนเป็นส่วนใหญ่ที่เดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีทหารอีกส่วนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้การเจรจาพูดคุย หรือ การทำสิ่งใดก็ตามมีขั้นตอน และ มีการแก้ไขปัญหาไปตามลำดับไม่ใช่ว่าเราจะใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แต่หากเจรจากันไม่ได้ก็จะต้องหาวิธีกันต่อไป โดยเฉพาะการมุ่งไปสู่การประชุมระหว่างไทย-กัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาในระดับกระทรวงกลาโหม หรือ การประชุม จีบีซี โดยจะหลีกเลี่ยงการปะทะกันให้มากที่สุด ซึ่งการประชุม จีบีซี จะต้องพยายามกันต่อไป เพราะไม่มีช่องทางที่จะพูดคุยกัน ที่ผ่านมากองทัพบกก็ดูแลพื้นที่ตามแนวเขตแดนตามปกติ และยังไม่มีการละเมิดดินแดนต่าง ๆ โดยเราจะต้องแยกประเด็นกับการประชุม ทั้งนี้เมื่อเราถอนตัวออกแล้ว ก็จะต้องดูในเรื่องประเด็นของศาลโลกต่อไป ในการคุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง ส่วนรัฐบาล และผู้ที่รับผิดชอบจะต้องทำให้ดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการผ่านมายัง พล.อ.ประวิตร ตลอดเวลาในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา และเมื่อวานนี้ท่านก็ได้สั่งการให้เข้มงวดในเรื่องของการปฏิบัติการตามแนว ชายแดนทั้งกองทัพภาคที่ 1 ตั้งแต่กองกำลังจันทบุรี-ตราด ให้เข้มงวดในเรื่องการสัญจรไปมา และ งานด้านการข่าว รวมถึงการเพิ่มกำลังในพื้นที่ตรงข้าม โดยกองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเมื่อมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน ผบ.เหล่าทัพ ก็ได้มีการพูดคุยกันมาตลอด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน เมื่อเขตแดนติดกันและกำลังทหารก็เผชิญหน้ากันอยู่ใกล้ๆ โอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันก็มีอยู่ ดังนั้นมีความจำเป็นที่ผู้บังคับบัญชาจะต้องพูดคุยพบปะกันตลอด เหตุการณ์ที่ไทยถอนตัวออกจากสมาชิกภาคีมรดกโลก คงจะต้องมีการพูดคุยกันในระดับสูงก่อนว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป ส่วนระดับล่างยังพูดคุยกันไม่ได้

“ผม ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 ในการหามาตรการในดูแลพื้นที่ชายแดนให้เกิดความเข้มแข็ง และรักษาตามแผนที่เราใช้อยู่ หากมีการรุกล้ำอธิปไตยตามแนวชายแดนเข้ามาในเขตไทยก็ขอให้ใช้อาวุธได้ทันที ถ้าฝ่ายตรงข้ามมุ่งร้ายกับทหารไทยก่อน เราก็จะต้องกระทำก่อน เพราะสุ่มเสี่ยงว่าสถานการณ์ใครจะเกิดก่อนหรือหลัง ถ้าปล่อยให้เกิดก่อนก็จะเกิดอันตรายต่อฝ่ายเรา เว้นแต่ว่าเราอยู่ในพื้นที่กำบังและป้องกันได้ดีกว่าเขา กำลังพลจะต้องมีสติ และตั้งมั่นอยู่ในความถูกต้อง โดยผู้บังคับบัญชาได้ให้นโยบายชัดเจนว่าสามารถทำอะไรได้แค่ไหนอย่างไร ส่วนสปายที่ถูกจับได้นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน และต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ถือว่าเป็นหลักการเมื่อมีการรบกันก็จะต้องไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมา อยู่ตามแนวชายแดนเพื่อหาข่าว เมื่อถูกจับได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดี” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวกรณีการยื่นหนังสือถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาคีมรดกโลก หลังสมาชิกภาคีมรดกโลกรับข้อเสนอของประเทศกัมพูชาในการจัดทำแผนบริหารจัดการ พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ได้เดินมาจับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับกล่าวว่า “เขาพยายามเอาทุกอย่าง” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ดูแลในพื้นที่ให้ดีที่สุด รวมถึงนายกรัฐมนตรี ก็ได้โทรศัพท์มาสั่งการเช่นกัน นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวกับ นายสุวิทย์ ทิ้งทายก่อนขึ้นเครื่องว่า “เยี่ยม”
กำลังโหลดความคิดเห็น