หัวหน้าชาติไทยพัฒนา ชี้ประชาธิปัตย์ชู “ถอนพิษทักษิณ” แค่เรียกคะแนนเสียง ไม่ใช่สาระสำคัญ เชื่อ “นช.แม้”" พูดอยากปรองดองทำพรรคทางสะดวก ปัดพี่ชายตั้งเงื่อนไขแก้ม.237 แลกร่วมรัฐ แย้มตั้ง ส.ส.ร. ชี้ปชป.ไม่ได้แก้เพราะกลัวกระทบคดี ยันมีกฏหมายหลายฉบับที่ควรแก้แต่กลับอยู่ในลิ้นชัก
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้สโลแกน “ถอนพิษทักษิณ” แทนที่จะชูนโยบายเพื่อประชาชนว่า เป็นสโลแกนเพื่อเรียกคะแนนเสียง ก็เหมือนกับที่อีกฝ่ายใช้สโลแกนว่าดีแต่พูด ก็พอกันไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญ หลังวันที่ 3 ก.ค.ก็หายไปกันหมด เมื่อถามต่อว่า แทนที่พรรคการเมืองจะชูนโยบายแต่กลับใช้วิวาทะถล่มกัน นายชุมพล กล่าวต่อว่า ไม่ใช่วิวาทะประชาชนต่อประชาชนแต่เป็นวิวาทะของพรรคการเมืองที่จะไปเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล ดังนั้นพรรคที่อยากเป็นรัฐบาลและไม่อยากเป็นฝ่ายค้านก็ต้องพยายามที่จะเรียกร้องคะแนนเสียงขึ้นมาเท่านั้นเอง เมื่อถามอีกว่า จะไม่กลายเป็นว่าพรรคการเมืองเรียกร้องเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อประชาชน นายชุมพล กล่าวว่า เป็นเรื่องของทั้งสองพรรคไม่เกี่ยวกับพรรคชาติไทยพัฒนา การคิดสโลแกนเหล่านี้เป็นเรื่องของทั้งสองพรรค เป็นเรื่องของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ออกมาเขียนข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ต้องการความปรองดอง จะทำให้การปราศรัยที่แยกราชประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์หมดความหมายหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวข้องกัน แต่แถลงการณ์พรรคเพื่อไทยและสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดจะทำให้บรรยากาศเกิดความปรองดองขึ้น และสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนากำลังทำนั้นสะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาออกมาระบุ การเข้าร่วมรัฐบาลจะต้องมีเงื่อนไขในการแก้มาตรา 237 ในเรื่องการยุบพรรค นายชุมพล กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินว่านายบรรหารพูด แต่อยากเรียนให้ทราบว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีจุดยืนในเรื่องการปฏิรูปทางการเมืองและพรรคทำมาโดยตลอด และเป็นเรื่องที่ต้องนำกลับมาพูดกันอีกครั้งควบคู่ไปกับคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องขององค์กรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำให้เกิดความเป็นธรรม เพราะนั่นคือการปฏิรูปที่แท้จริงเพื่อเป็นข้อเสนอที่ต้องทำในระยะยาว และอาจจะนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องของการยุบพรรคก็เคยเป็นข้อเสนอในการเข้ารัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นการเข้าใจผิดที่พรรคประชาธิปัตย์ลังเลใจเพราะเขามีคดียุบพรรคอยู่ ซึ่งตอนนี้คดีมันจบแล้ว และคำตอบมันก็อยู่ในตัวแล้ว
เมื่อถามต่อว่า แล้วเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนที่จะมีคดียุบพรรค นายชุมพลกล่าวว่า ทุกฝ่ายมีคดีอยู่ ก็ต้องเข้าใจกัน ทุกคนก็มีเรื่องของตัวเองอยู่ พอหมดเรื่องของตัวเองแล้วทุกอย่างก็คลี่คลายไป แต่อย่าลืมว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่อยู่ที่ส.ส.เท่านั้นแต่ต้องรวมที่ ส.ว.ด้วย ไปมองข้ามไม่ได้ การปฏิรูปการเมืองกฎหมายหลายฉบับที่ต้องแก้ แต่ข้อเสนอที่คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นก็อยู่ในลิ้นชักทั้งหมด เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้จริงใจแก้ไขปัญหาปรองดองแต่แรก เรื่องถึงถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก นายชุมพล กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอวิพากษ์ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคนำลูกหลานมาช่วยหาเสียง นายชุมพล กล่าวว่า ก็ยังดีมาช่วยกัน ดีกว่าเหมือนตอนที่มีการขุดรากเหง้ามาอภิปราย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง