เอเจนซี-สื่อฮ่องกงเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานกลุ่มคนงานนับพันก่อเหตุจลาจลกลางถนนต่อเนื่องสามวันในเมืองเจิงเฉิง ชานเมืองก่วงโจว หลังจากเกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับพ่อค้า-แม่ค้าหาบเร่แผงลอย
สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(10 มิ.ย.) เกิดเหตุวิวาทะที่หมู่บ้านต้าตุน เทศบาลตำบลซินถัง มณฑลก่วงตง(กวางตุ้ง) เมื่อนางหวัง เหลียนเหม่ย หญิงท้องแก่วัย 20 ปี และนายถัง เสวียไช่ วัย 28 ปี คู่สามี-ภรรยาชาวซื่อชวน(เสฉวน) ได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านฯ ซึ่งกล่าวหาว่าทั้งคู่มาหาบเร่ขายของบนท้องถนนอย่างผิดกฎหมาย จนคู่กรณีได้ปะทะกัน และนางหวังได้ล้มลง ขณะนั้น มีรถตำรวจหลายคันและรถฉุกเฉินเข้ามายังที่เกิดเหตุ
ด้านสื่อจีน ไชน่า เดลี่ รายงานกลุ่มที่ก่อเหตุวุ่นวายนี้ มีจำนวน 100 คน โดยมีผู้มุงดูเหตุการณ์มากกว่า 1,000 คน
ไชน่า เดลี่รายงานคำบอกเล่าของนายเย่ หนิวผิง นายกเทศมนตรีเมืองเจิงเฉิง เล่าเหตุการณ์วิวาทะเมื่อวันศุกร์ ว่า “เจ้าหน้าที่และคู่สามี-ภรรยาได้ตกลงที่จะไม่ขายสินค้าบนท้องถนน ขณะที่นางหวังกำลังถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล กลุ่มคนมากกว่า 100 คน เข้ามากีดกันไม่ให้ส่งนางหวังไปโรงพยาบาล ขณะที่บางคนได้ขว้างขวด ก้อนหินและอิฐใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ”
ไชน่า เดลี่ รายงานว่า ในวันถัดมามีข่าวลือออกมาว่านางหวังถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และนายถังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปลิดชีพ กลุ่มคนนับ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพชาวซื่อชวน ก็ได้มารวมตัวกันอีกในที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และขว้างก้อนหินและอิฐใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
ในคืนวันอาทิตย์(12 มิ.ย.) กลุ่มชุมนุมได้รวมกันเป็นวันที่สาม และเดินขบวนไปที่ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ซิตี้ ในอำเภอซินถัง เมืองเจิงเฉิง ขณะที่ตำรวจได้ตั้งแนวกั้น กลุ่มประท้วงได้ทำลายรถยนต์ในบริเวณและทรัพย์สินสาธารณะ อาทิ ยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานรัฐบาลท้องถิ่น และตู้เอทีเอ็ม เป็นต้น
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า “ผู้ประท้วงได้ทำลายทรัพย์สินสาธารณะรวมทั้งยานพาหนะตามท้องถนน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธได้พยายามสลายการชุมนุมโดยยิงแก๊สน้ำตา แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังวิ่งมากลับมารวมตัวกันอีก”
รายการข่าวโทรทัศน์ฮ่องกง ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ประท้วงไปนับสิบคน
เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้านต้าตุนซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า “เหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์(11 มิ.ย.)เกิดความโกลาหลมาก ผู้คนวิ่งพล่านไปทั่ว ฉันต้องปิดร้านตั้งแต่ 1 ทุ่ม ขณะที่ สำนักงานรัฐบาลฯถูกทำลายยับ”
นายเย่ชี้ว่า “กรณีดังกล่าวเป็นเพียงเหตุพิพาททระหว่างผู้ค้าขายบนท้องถนนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่มีผู้ไม่หวังดีแพร่ข่าวลือสร้างความวุ่นวาย ขณะนี้รัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งทีมพิเศษลงไปพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อสร้างความกระจ่าง”
