รองโฆษกทัพบกเผยแผน 315 ปราบยาเสพติดยึดแนวทางไม่ให้ค้าเสรี เน้นขอความร่วมมือประชาชน ดึงผู้เสพบำบัด เปลี่ยนพฤติกรรม ผ่านเดือนกว่าขยายผลจับแล้ว 5.3 พันคดี ยึดของกลางกว่า 2 ล้านเม็ด - แม่ 1 ใน 6 ศพวัดปทุมวนาราม โผล่ยื่นหนังสือทวง “ประยุทธ์” หามือฆ่าลูกสาว
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการที่กองทัพบกได้สนับสนุนกำลังทหารเข้าร่วมปฏิบัติการตามแผนยุทธการ 315 เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ การทำงานได้มีการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ยึดแนวทางปฏิบัติว่าจะต้องไม่ให้มีการเสพหรือการค้ายาเสพติดในชุมชนได้โดยเสรี แต่มิได้เน้นเข้าไปปราบปรามโดยจะเน้นการสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนและการขอความร่วมมือ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สำรวจพบผู้เสพยาเสพติดจะชักชวนและนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจเป็นแนวทางแรกก่อน ซึ่งการบำบัดจะดำเนินการในสถานบำบัดรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในค่ายทหาร
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ผลจากการทำงานตามแผนยุทธการ 315 ตั้งแต่ 1 พ.ค.54 จนถึงปัจจุบัน ชุดปฏิบัติการ 315 ได้เข้าพบปะพูดคุยกับประชาชนในชุมชนพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดไปแล้ว 1,734 หมู่บ้าน/ชุมชน รวม 43,547 ครัวเรือน สำรวจพบผู้เสพยาเสพติด 2,065 คน และได้ชักจูงผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูแบบสมัครใจจำนวน 1,061 คน นอกจากนี้ ประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้มีผลการจับกุม 5,390 คดี ผู้ต้องหา 5,523 คน ซึ่งหากเปรียบเทียบการจับกุมในภาพรวม ก่อนและหลังยุทธการ 315 พบว่ามีอัตราการจับกุมเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยสามารถยึดยาเสพติดได้กว่า 2,082,360เม็ด
“นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และต้องการให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสนอให้เจ้าหน้าที่ร่วมแก้ไขปัญหาอื่นๆของชุมชนด้วย เช่น ค้าของผิดกฎหมาย, การใช้อิทธิพล, การ พนัน รวมถึงการทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นๆ ในขณะเดียวกัน แผนยุทธการ 315 ยังส่งผลต่อกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนได้ชะลอและเพิ่มความระมัด ระวังในการนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนใน ทำให้แนวโน้มการแพร่ระบาดในพื้นที่ตอนในลดลง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ในช่วงต่อจากนี้ไป ประชาชนจะพบเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการแก้ไขยาเสพติดในชุมชนอย่างเข้มข้นขึ้น โดยเน้นการสร้างความเข้าใจ และร่วมกันแก้ไขปัญหากับประชาชน ซึ่งเป็นผู้ที่รับรู้ถึงปัญหาในชุมชน ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นปัญหายาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่โทร 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลการแจ้งเบาะแส มาประกอบการปฏิบัติการในพื้นที่ทุกวัน เพื่อเร่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคม
ขณะที่ วันนี้ (24 มิ.ย.) นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัดฮาด 1 ใน 6 ศพที่เสียชีวิตจากการปะทะระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เพื่อทวงถามคำตอบ จากที่เคยยื่นหนังสือเพื่อ ในการขอความร่วมมือในการค้นหาความจริงต่อการเสียชีวิตของประชาชนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งครบ 1 สัปดาห์พอดี ตามที่ได้ตกลงไว้กับนายทหารเวรในครั้งนั้น นอกจากนี้ยังทราบมาว่า กองทัพ ได้ทราบชื่อและตำแหน่งของนายทหาร ที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าแล้ว โดยมีนายทหารเวรมารับหนังสือ และได้ชี้แจงว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน จึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้
นางพะเยาว์กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือกับกองทัพ ในการหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้รับความกระจ่าง เพราะทุกวันนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ขอยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวกับกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่ได้รับความสูญเสีย ทั้งนี้ในสัปดาห์จะนำดีวีดีที่ได้พูดคุยกับ คอป.มายื่นให้ หากยังไม่ได้คำตอบตนก็จะมาเรียกร้องกับ ผบ.ทบ.อีกครั้งจนกว่าจะได้รับคำตอบ
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการที่กองทัพบกได้สนับสนุนกำลังทหารเข้าร่วมปฏิบัติการตามแผนยุทธการ 315 เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ การทำงานได้มีการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ยึดแนวทางปฏิบัติว่าจะต้องไม่ให้มีการเสพหรือการค้ายาเสพติดในชุมชนได้โดยเสรี แต่มิได้เน้นเข้าไปปราบปรามโดยจะเน้นการสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนและการขอความร่วมมือ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สำรวจพบผู้เสพยาเสพติดจะชักชวนและนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจเป็นแนวทางแรกก่อน ซึ่งการบำบัดจะดำเนินการในสถานบำบัดรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในค่ายทหาร
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ผลจากการทำงานตามแผนยุทธการ 315 ตั้งแต่ 1 พ.ค.54 จนถึงปัจจุบัน ชุดปฏิบัติการ 315 ได้เข้าพบปะพูดคุยกับประชาชนในชุมชนพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดไปแล้ว 1,734 หมู่บ้าน/ชุมชน รวม 43,547 ครัวเรือน สำรวจพบผู้เสพยาเสพติด 2,065 คน และได้ชักจูงผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูแบบสมัครใจจำนวน 1,061 คน นอกจากนี้ ประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้มีผลการจับกุม 5,390 คดี ผู้ต้องหา 5,523 คน ซึ่งหากเปรียบเทียบการจับกุมในภาพรวม ก่อนและหลังยุทธการ 315 พบว่ามีอัตราการจับกุมเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยสามารถยึดยาเสพติดได้กว่า 2,082,360เม็ด
“นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และต้องการให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสนอให้เจ้าหน้าที่ร่วมแก้ไขปัญหาอื่นๆของชุมชนด้วย เช่น ค้าของผิดกฎหมาย, การใช้อิทธิพล, การ พนัน รวมถึงการทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นๆ ในขณะเดียวกัน แผนยุทธการ 315 ยังส่งผลต่อกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนได้ชะลอและเพิ่มความระมัด ระวังในการนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนใน ทำให้แนวโน้มการแพร่ระบาดในพื้นที่ตอนในลดลง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ในช่วงต่อจากนี้ไป ประชาชนจะพบเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการแก้ไขยาเสพติดในชุมชนอย่างเข้มข้นขึ้น โดยเน้นการสร้างความเข้าใจ และร่วมกันแก้ไขปัญหากับประชาชน ซึ่งเป็นผู้ที่รับรู้ถึงปัญหาในชุมชน ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นปัญหายาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่โทร 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลการแจ้งเบาะแส มาประกอบการปฏิบัติการในพื้นที่ทุกวัน เพื่อเร่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคม
ขณะที่ วันนี้ (24 มิ.ย.) นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัดฮาด 1 ใน 6 ศพที่เสียชีวิตจากการปะทะระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เพื่อทวงถามคำตอบ จากที่เคยยื่นหนังสือเพื่อ ในการขอความร่วมมือในการค้นหาความจริงต่อการเสียชีวิตของประชาชนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งครบ 1 สัปดาห์พอดี ตามที่ได้ตกลงไว้กับนายทหารเวรในครั้งนั้น นอกจากนี้ยังทราบมาว่า กองทัพ ได้ทราบชื่อและตำแหน่งของนายทหาร ที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าแล้ว โดยมีนายทหารเวรมารับหนังสือ และได้ชี้แจงว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน จึงยังไม่สามารถให้คำตอบได้
นางพะเยาว์กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือกับกองทัพ ในการหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้รับความกระจ่าง เพราะทุกวันนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ขอยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวกับกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่ได้รับความสูญเสีย ทั้งนี้ในสัปดาห์จะนำดีวีดีที่ได้พูดคุยกับ คอป.มายื่นให้ หากยังไม่ได้คำตอบตนก็จะมาเรียกร้องกับ ผบ.ทบ.อีกครั้งจนกว่าจะได้รับคำตอบ