xs
xsm
sm
md
lg

“เทพมนตรี” ต่อสายตรง แจงเขมรขอ คกก.มรดกโลก มีมติ 8 ข้อ ใส่ร้ายไทยสุดๆ 3 ข้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
“เทพมนตรี” เผย เขมรขอคณะกรรมการมรดกโลก 8 ข้อ ไทยรับไม่ได้สุดๆ 3 ข้อ เตรียมแย้งเขมรทำผิดมติกรรมการมรดกโลก ชี้ สถานการณ์บีบ 21 ประเทศ มีคนยืนข้างไทยเพียง 7 ประเทศ แย้มมีลุ้นท่าที “สุวิทย์” ลั่นถ้าเขมรไม่ยอมเลื่อน ถึงเวลาต้องตัวใครตัวมัน เชื่อไทยเลื่อนแผนไม่สำเร็จ เหตุข้อเรียกรองเขมรบ่งชัดถือไพ่เหนือกว่า ด้าน “ปานเทพ” ลำดับเหตุการณ์พบจงใจตบตา ปชช.ขายชาติ


วันที่ 22 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส รายงานความคืบหน้าผ่านทางโทรศัพท์มายังเวทีมัฆวาน ว่า เอกสารที่กัมพูชาจะขอต่อยูเนสโกให้ออกเป็นมติคณะกรรมการมรดกโลก มีทั้งหมด 8 ข้อ โดยข้อที่เรารับไม่ได้มี ข้อ 5 ซึ่งกัมพูชาเสนอว่าไทยเป็นฝ่ายยิงก่อนทำให้ปราสาทเขาวิหารจนเสียหาย ข้อ6 เขมรบอกไทยทำผิดอนุสัญญาปี 1972 ที่จะต้องปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม และข้อ7 ขอให้ไทยยอมให้เขมรส่งผู้สังเกตการณ์เข้าพื้นที่และขอให้เข้าบูรณะปราสาทเขาวิหาร เรื่องนี้เบื้องต้นเราจะไม่ยอม ด้าน นายสุวิทย์ และทหาร เริ่มปริปากบอกไม่เอาแล้ว ประเด็นนี้อาจมีการยืดเยื้อต่อไปถึงวันศุกร์ ซึ่งตนเองก็จะเสนอว่า กัมพูชาทำผิดมติกรรมการมรดกโลก

นายเทพมนตรี กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดูแล้วเราถูกบีบพอสมควร จากคณะกรรมการทั้งหมด 21 ประเทศ มีคนยืนข้างเราเพียง 7 ประเทศ ตนคิดว่าเหตุการเริ่มถลำลึกช่วงสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ที่ไปรับมติครั้งที่ 31 จะร่วมมืออย่างแข็งขันในการขึ้นทะเบียนเขาวิหาร แล้ว นายนพดล ปัทมะ มาทำต่อ ส่งผลให้เมื่อเราจะทำความเห็นแย้งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ตอนนี้ตนทราบมาว่า นายสุวิทย์ มีอำนาจเต็มว่าจะลาออกหรือไม่ ท่าทีของนายสุวิทย์ ขอดูหนังสือลาออกจากตนแล้ว พร้อมบอกว่าเราไม่ควรให้มีการโหวตแผนบริหารจัดการต่อ จะคว่ำแผนให้ได้ ถ้าเขมรไม่ยอมเลื่อน ถึงเวลาต้องตัวใครตัวมัน สำหรับท่าทีของรัฐบาลไทย ตนเชื่อว่า ยังมีแนวคิดจะขอเลื่อนแผนบริหารจัดการอยู่ แต่คงไม่สำเร็จเพราะกัมพูชาคงไม่ยอม เพราะดูจากที่ 8 ข้อที่กัมพูชาเขียนมาแสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าเขาถือไพ่เหนือกว่า

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วิเคราะห์เอกสารประกอบการประชุม ที่กัมพูชาเรียกร้องต่อคณะกรรมการมรดกโลก ย่อหน้าแรก “การประชุมครั้งที่ 34 คณะกรรมการมรดกโลก ได้ทำบันทึกที่กัมพูชาส่งเอกสารเพื่อนำไปสู่การพิจารณาประชุมครั้งที่ 35 ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกก็ไม่ได้เรียกร้องให้กัมพูชารายงานสภานภาพเกี่ยวข้องกับอนุรักษ์ทรัพย์สินหรือตัวปราสาทแต่ประการใด” ตรงนี้ที่เขมรอ้างไปถึงการประชุมครั้งที่ 34 เป็นเพราะ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยไปลงนามร่างประนีประนอมไว้ ดังนี้ 1.ไทยได้รับเอกสารประชุมครั้งที่ 34 เรียบร้อยแล้ว เท่ากับหมดข้ออ้างจากที่ไทยเคยแย้งว่าไม่ส่งเอกสารตามเงื่อนไขเวลา 2.มติลงนามอ้างถึงมติคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31, 32 และ 33 ได้ผ่านการอนุมัติในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว แปลว่าไทยไม่ปฎิเสธมติคณะกรรมการมรดกโลกย้อนหลังทั้งหมด รวมถึง มติขึ้นทะเบียนตัวปราสาทเขาวิหาร และไม่ปฎิเสธกรณียูเสนโกจ่ายเงิน 5 หมื่นเหรียญให้เขมรซ่อมตลาดบนผืนแผ่นดินไทย

3.คณะกรรมการมรดกโลกได้รับเอกสารโดยการเสนอจากกัมพูชาแล้ว หมายความว่าไม่ใช่แค่ไทยได้รับเอกสารครบแล้วเท่านั้น คณะกรรมการมรดกโลกก็ได้รับครบถ้วนแล้วเช่นกัน 4.คณะกรรมการมรดกโลกได้ให้การต้อนรับมาตรการที่รัฐภาคีจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศหรือไอซีซี คือให้คณะกรรมการ 7 ชาติเข้ามาบริหาร เพื่อฟื้นฟูเขาวิหารอย่างยั่งยืน ตรงนี้ไทยเสียเปรียบ เพราะเป็นแผ่นดินไทยแท้ๆ ไทยยังเป็นเพียงแค่ 1 ใน 7 ชาติ แถมเป็นเสียงข้างน้อยอีก 5.มีมติให้พิจารณาเอกสารที่เสนอโดยกัมพูชาในสมัยประชุมครั้งที่ 35 ซึ่งก็คือปีนี้ ในที่สุดความลับที่ไทยเคยบอกเป็นแค่ร่างข้อตกลงเฉยๆ ก็มาแตกในบันทึกประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เอกสารชุดนี้ ถ้าไม่มี นายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ไปร่วมสังเกตการณ์อยู่ พี่น้องไม่มีทางได้รู้เอกสารชิ้นนี้ก่อนการประชุม

ส่วนในย่อหน้าสอง “บนการร้องขอของ นายสุวิทย์ และโดยความยินยอมของกัมพูชา มีเอกสารที่เป็นสำเนาเรียกว่า แผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทเขาวิหารซึ่งรวมถึงแผนที่ 1:200000 ได้ถูกส่งมอบให้กับตัวแทนประเทศไทย ยูเนสโก แล้ว และเอกสารนี้ได้ส่งกระจายต่อในการประชุมครั้งที่ 34 ด้วย” แสดงว่า มีเอกสารชุดหนึ่งที่ นายสุวิทย์ ร้องขอไป แต่พวกเราไม่เคยได้เห็นรับรู้เลย ว่า มีแผนที่แผนที่ 1:200000 ตรงนี้ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ปี 2505 ที่ไทยเสียตัวปราสาทเขาวิหาร เพราะโดนกฎหมายปิดปาก หลังจากไทยร้องขอแผนที่ 1:200000 จากฝรั่งเศส แล้วไทยไม่ทักท้วงอะไร ขณะนี้ไทยก็ขอแผนบริหารจัดการมรดกโลกที่รวมแผนที่ 1:200000 และไม่ปฏิเสธด้วย

ด้าน นายปานเทพ กล่าวว่า หากเรียงลำดับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นายสุวิทย์ ไปลงนามเอกสารร่างประนีประนอม ทำให้ไทยเสียเปรียบ ต่อมาวันที่ 17 ส.ค.รัฐบาลรีบเอาบันทึกการประชุมเจบีซีเข้าสภา เพื่อรับรองผลให้ไทยเสียดินแดน ดำเนินการต่อจนกระทั่งรับมอบเอกสารเดือนกันยายน จากคณะกรรมการมรดกโลกโดยมีแผนที่1:200000 แนบมาด้วย จากนั้นเดือน ธ.ค.เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 แต่ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน จับได้กลางเวทีโดยโต้แย้งว่าทำอย่างนี้เท่ากับต่อไปเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตก็ไม่ต้องขอความรับรองจากสภา ไม่ต้องทำประชามติ เมื่อลำดับเหตุการณ์ได้แล้วเห็นได้ทันที เป็นการหมดเม็ดขายชาติ ทำกันเป็นกระบวนการทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เมื่อนายเทพมนตรี เห็นรายงานชิ้นนี้ ได้ทำหนังสือประท้วงไปที่รองอธิบดีกรมสนธิสัญญา และประท้วงไปที่นายสุวิทย์ โดยในที่สุดคณะประเทศไทยจำเป็นต้องทำหนังสือ ประท้วงคณะกรรมการมรดกโลกด้วย

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า เมื่อวิเคราะห์จากพฤติกรรมของรัฐบาลกับสิ่งที่นายเทพมนตรีพูด ไม่มีทางคิดเป็นอื่นรัฐบาลสู้เลื่อนแผนบริหารจัดการ เพื่อให้พ้นผ่านวันเลือกตั้งไปแค่นั้น ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบไม่ให้ใครรู้ว่าทำอะไรไว้ในช่วงที่ผ่านมา ที่สำคัญเมื่อเช้ามีข่าวว่าไทยกำลังร่างเอกสารขึ้นไปอีกหนึ่งชิ้น ตนคิดไว้ล่วงหน้าคงเป็นเอกสารที่คลายคลึงกับปีที่แล้ว คือ ถลำลึกกว่าเดิมแต่ปัดความรับผิดชอบเลื่อนไปให้ได้เพื่อให้พ้นจากรัฐบาลชุดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น