xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ฉุนเจอป่วนหาเสียง จี้ “ปู” เอาให้ชัดหนุนแดงหรือไม่ ขู่ไม่อยากฟ้อง กกต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฉุนโดนป่วนสมุทรปราการ ลั่นอดทนแดงมาตลอด จี้ “ยิ่งลักษณ์” แสดงจุดยืนหนุนพวกก่อกวนหรือไม่ อ้างไม่อยากร้อง กกต.หวั่นเพื่อไทยโวยอีก ชี้ถ้าคุยพวกตัวเองไม่ได้ แล้วจะบริหารชาติยังไง เชื่อ มุ่งเป้านิรโทษ “นช.แม้ว” มากกว่าประชาชน

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.สมุทรปราการวันนี้ (19 มิ.ย.) แล้วมีกลุ่มคนเสื้อแดงมารวมตัวก่อกวนเป็นจำนวนมา จนทำให้ไม่สามารถหาเสียงต่อได้ ว่า หลังจากที่ตนได้เดินสายหาเสียงมาเกือบจะทั่วประเทศ ที่ผ่านมา แม้จะมีกลุ่มคนเสื้อแดง หรือผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย มาชูป้าย หรือทำอะไรต่างๆ ก็ไม่มีปัญหาได้มีการบริหารจัดการไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน และตนได้ใช้คำอดทนมาโดยตลอด แต่วันนี้ก็เกิดเรื่องจนทำให้ตนไม่สามารถเดินหาเสียงต่อในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บอกให้ตนหยุดหาเสียง เพราะเกรงว่าผู้สนับสนุนของทั้งสองพรรคเกิดการปะทะกัน ตนจึงขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้พรรคการเมืองหาเสียงกันตามปกติได้หรือไม่ เพราะวันนี้เข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดงเพียงอย่างเดียว แต่คือผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ที่นำป้ายสนับสนุนมา ทำไมเราไม่เปิดโอกาสให้ต่างคนต่างหาเสียงกันไป และถ้าหากควบคุมตรงนี้ไม่ได้ ตนคิดว่า ถ้าเป็นเช่นนี้จะเข้าไปบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร อยากให้แสดงจุดยืนให้ชัด ถึงเวลาแล้วที่การหาเสียงเลือกตั้งควรเป็นไปด้วยความเป็นธรรม ตนทราบมาตลอดเป็นความพยายามที่จะแย่งพื้นที่ข่าว จากการที่ตนเดินทางไปพบปะกับประชาชน พูดในสิ่งที่ตนอยากจะพูด แต่ตนก็อดทน ตนไม่อยากให้มีเรื่องมีราว แต่มาถึงขั้นนี้ จนตนไม่สามารถที่จะเดินเข้าไปได้ ตนคิดว่า วันนี้พรรคเพื่อไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ควรจะแสดงท่าทีที่ชัดเจนเสียทีว่าตกลงสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนให้มีการกระทำแบบนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล คิดว่าการเรียกร้องครั้งนี้จะได้ผลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะเป็นการขัดขวางการหาเสียงอย่างชัดเจน ถ้าหากตนไปร้องเรียน กกต.และผิด เกิดเป็นปัญหาความผิดของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาอีก ก็จะโวยวาย แต่ตนคิดว่า มันหมดเวลาแล้วที่ฝ่ายหนึ่งเล่นตามกติกา แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็หาวิธีการที่จะเลี่ยง และไม่ทำตามกติกา จึงควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ไม่อยากห้ามกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะถ้าห้าม ที่ผ่านมา ก็เท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยเป็นคนสั่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นผู้สนับสนุนของเขา หากเขาไม่สามารถพูดกับผู้สนับสนุนของเขาได้ จะบริหารกันอย่างไร จึงอยากให้แสดงจุดยืนตรงนี้ให้ชัดเจน ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก แต่ตนคิดว่า มันเป็นความเป็นธรรม และเป็นสิทธิของประชาชนที่จะได้มีโอกาส ต่างฝ่ายต่างก็ทำงาน ต่างฝ่ายต่างก็สนับสนุน หรือพูดจาหาเสียงกันไป แต่การที่จะทำให้เกิดบรรยากาศสู่การปะทะกัน ไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น ตนอยากเห็นภาวการณ์เป็นผู้นำในการพูดกับผู้สนับสนุนตัวเอง ทุกคนจะเห็นว่า ตนขึ้นเวทีปราศรัย ตนย้ำกับผู้สนับสนุนของตนตลอด ว่า เราจะไม่ทำอะไรแบบนี้ ทั้งที่ผู้สนับสนุนหลายคนของพรรคประชาธิปัตย์ หลายคนก็เริ่มอึดอัด อยากจะทำบ้าง แต่ตนได้ห้ามปรามมาโดยตลอด เพราะตนคิดว่า น่าจะเป็นจุดยืนของนักการเมืองในระบอบประชาธิปัตย์ และคนที่อาสาตัวจะเป็นผู้นำต้องสามารถจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนอย่างนี้ได้

เมื่อถามว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนยันอย่างชัดเจนว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย จะกลับมาร่วมงานแต่งงานของลูกสาว แต่ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้กระบวนการทุกอย่างของกฎหมาย คิดว่า จะออกมาในรูปแบบไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า เวลานี้ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าวาระเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย คือ การไปทำเรื่องการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาร่วมงานแต่งงาน โดยที่ขณะนี้มีคำพิพากษาให้จำคุกอยู่ ยกเว้นแต่จะไปนิรโทษกรรม และ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะได้เงินสี่หมื่นหกพันล้านบาท ซึ่งประชาชนจะต้องจ่ายไปให้ ก็กลายเป็นวาระเร่งด่วน เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เหลือเงินน้อยแล้ว ตนคิดว่า ตรงนี้เป็นจุดที่ประชาชนควรจะรู้ เพราะในภาวะที่ประชาชนกำลังยากลำบาก และตนได้เปรียบเทียบให้เห็นว่าในภาวะที่ประชาชนอีกจำนวนหนึ่งต้องคดีบุกรุกที่ดินของรัฐ หรือคดีอื่นๆ ยังไม่มีใครสามารถจะไปทำเรื่องนิรโทษกรรมให้ได้ แต่กลับคิดนิรโทษกรรมให้คนหนึ่งคน และต้องเอาเงินของประชาชนไปอีกสี่หมื่นหกพันล้านบาท ในภาวะที่ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากลำบากในเรื่องข้าวของแพง ตนคิดว่า เรื่องเหล่านี้ควรมีข้อเท็จจริงออกมา ตนทราบว่าขั้นต่อไป พรรคเพื่อไทยก็จะพยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าไม่ได้ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว แต่จะไปหาเพื่อนหาพวก บอกว่า จะนิรโทษกรรมคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ด้วย แต่เรื่องจริงของจริง หรือเป้าหมายสุดท้าย คือ นิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ
กำลังโหลดความคิดเห็น