โฆษกเพื่อไทย จี้ กกต.เร่งจัดการช่อง 11 “องอาจ” ปล่อยรายการ “คลายปม” และ “เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก” โจมตี “นช.แม้ว” กระทบถึง “ยิ่งลักษณ์” และผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ขัดต่อข้อห้ามของ กกต. ขณะเดียวกันวอน กกต.สอบพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ได้ปรากฎข้อเท็จจริงชัดเจนว่า สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ น.ส.รัตนา เจริญศักดิ์ ผอ.สถานี ได้ใช้ช่อง NBT (ช่อง 11) ซึ่งเป็นทรัพยากรของรัฐ กระทำการอันมีผลต่อการเลือกตั้ง โดยปล่อยให้มีการจัดรายการคลายปม ของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ของสำนักข่าว T-News ดำเนินรายการโดย น.ส.บุญระดม จิตรดอน และน.ส.จิตดี ศรีดี ซึ่งรายการดังกล่าวได้มีการกล่าวใส่ร้ายโจมตีทางการเมือง ที่มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครของพรรค การกระทำดังกล่าวถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง อย่างชัดเจน
โดยรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 181(4) เมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วห้ามรัฐบาลใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และต้องไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามระเบียบของ กกต.ได้กำหนดข้อห้าม มิให้ปฏิบัติในการเลือกตั้งไว้ว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานของรัฐที่มีสถานีอยู่ในสังกัด จะสั่งหรือกระทำการใดๆ ให้สถานีนั้นกระทำการเพื่อผลประโยชน์ในการหาเสียงอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใดมิได้ แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่า รัฐบาลรักษาการของนายอภิสิทธิ์ ที่มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสื่อ กลับปล่อยให้ช่อง NBT โจมตีใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เพื่อกระทบถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และพรรคเพื่อไทย
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นที่น่าละอาย และสังคมควรร่วมกันประณาม ทั้งที่ปัจจุบันควรมีการปฏิรูปสื่อ ให้มีความเป็นกลาง เที่ยงตรง สร้างสรรค์ ลดความขัดแย้งในสังคม ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ ขอเรียกร้องไปยัง กกต.ว่าจากการที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นคำร้องไปแล้วนั้น ซึ่งขณะนี้ก กต.ก็ยังไม่มีมาตการป้องปรามใดๆ รายการดังกล่าวก็ยังออกอากาศอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง ซึ่งน่าจะส่งผลเสียต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย และส่งผลต่อการเลือกตั้ง กกต. ควรมีคำสั่งห้ามมิให้ มีการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย และส่งผลต่อการเลือกตั้ง ได้แล้ว หากยังเพิกเฉยอีก กกต.อาจจะถูกสังคมมองว่าเป็นเสือกระดาษได้
ด้าน นายถิรชัย วุฒิธรรม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกศูนย์ต่อต้านการทุจริตการเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ร้องขอให้ กกต.ลดจำนวนการพิมพ์บัตรเลือกตั้งลงจากที่พิมพ์เกินกว่าจำนวนที่กฎหมายกำหนดไว้ เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้น และทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปพบการนำบัตรเลือกตั้งไปทำลายทิ้งเอาไว้จำนวนมาก ทางพรรคเพื่อไทยจึงไม่เห็นถึงสาเหตุที่จะต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้งจำนวนมากเช่นนี้
นายถิรชัยกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยพบว่าเพิ่งมีการแต่งตั้งผู้อนวยการสำนักงานอาสารักษาดินแดน ซึ่งกำกับดูแลโรงพิมพ์ อาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งโรงพิมพ์ดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบพิมพ์บัตรเลือกตั้งในระบบแบบเขตทั่วประเทศจำนวน 53 ล้านฉบับและข้าราชการคนน็ยังมีปัญหาอยู่ในชั้นสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในคดีจัดซื้อคอมพิวเตอร์เรื่องนี้จึงเป็นนัยยะสำคัญที่ กกต.จะมองข้ามไม่ได้ ทางพรรคเพื่อไทยจึงเชื่อว่ามีความพยายามการเข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้มากพอสมควร