“มาร์ค” ซัด เพื่อแม้ว จอมเสแสร้ง คนในเครือข่ายไปสร้างปัญหาก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง ท้า “เจ๊ปู” กล้าประณามพวกตามป่วนไหม อย่าดีแต่พูดเรื่องความปรองดอง พอเกิดปัญหาก็ปัดให้พ้นตัว ตอก “นช.แม้ว” ไม่เคยกลั่นแกล้ง “ยิ่งลักษณ” มีแต่ถูกกระทำ เย้ยถ้าจะกลับมาโดยไม่ต้องรับผิด ต้องถามประชาชนจะเลือกพรรคที่เตรียมนิรโ่ทษกรรมให้หรือไม่ รับห่วงสถานการณ์หลัง 4 กกต.บินดูงานต่างประเทศช่วงเลือกตั้งล่วงหน้า ชี้ยิงหัวคะแนนสำคัญ ภท.กลางกรุงเป็นเรื่องการเมือง ยันข้อมูลชายชุดดำในเฟซบุ๊กล้วนเรื่องจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตรย์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ช่วยผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงถึงการลอบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี หัวคะแนนคนสำคัญพรรคภูมิใจไทย จ.ลพบุรี เสียชีวิตกลางกรุงเทพฯว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ พื้นที่จังหวัดลพบุรี ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง และตนก็ทราบมาว่ามีความขัดแย้งอยู่พอสมควร ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต่องเร่งสอบเพื่อที่จะหาคนผิดมาลงโทษ ส่วนจะมีประเด็นอื่นด้วยหรือไม่ คงยังไม่ชัดเจน และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงไม่ตัดเอาแต่ประเด็นทางการเมืองเพียงประเด็นเดียวแน่ แต่มีความเป็นไปได้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าการเมืองจะรุนแรงขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับนักการเมืองท้องถิ่น หรือ หัวคะแนน อีกหรือไม่นั้นคงบอกไม่ได้ ฉะนั้นใครก็ตามถ้ามีปัญหา ก็สามารถขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนจะเป็นการทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง หรือไม่นั้นก็ต้องจำกัดไม่ให้ลุกลามและคิดว่าโดยภาพรวมเวลานี้ไปได้ ไม่น่ามีอะไร
ส่วนที่มีหลายประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใครต้องการที่จะเข้ามาสามารถประสานโดยตรงได้กับทาง กกต.เพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้เข้าสังเกตการณ์ในรูปแบบใด ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นคำตอบต่อนานาชาติถึงความเป็นประชาธิปไตยของไทยว่ากระบวนการทางการเมืองของแประเทศเราสามารถที่จะจัดการเลือกตั้งและทำประเทศไทย และประชาธิปไตยให้เดินไปข้างหน้าได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.ออกมาให้สัมภาษณ์ทางทีวี ดูว่าเป็นการพยายามเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนบังเอิญไม่ได้ฟังรายละเอียด แต่เท่าที่อ่านก็เห็นว่าให้เลือกคนดี เลยไม่ทราบว่าจะเป็นการไปชี้นำตรงไหนอย่างไร เมื่อถามต่อว่าเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายหรือไม่ เพราะพรรคที่ ผบ.ทบ.พาดพิงอาจจะเทกไซด์ นายอภิสิทธิ์ ถามกลับว่า แปลว่า มีคนดีอยู่ฝ่ายเดียวหรือ เพราะถ้ามีการชี้นำได้เท่ากับว่ามีฝ่ายดีฝ่ายเดียว
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ออกมาเหมือนร้อนตัวว่าไม่เกี่ยวข้องกับ นายใจ อึ๊งภากรณ์ หรือ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่เขียนข้อความหมิ่นสถาบัน ตามที่ ผบ.ทบ.กล่าวถึง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเวลาที่คนในเครือข่ายหรือคนในกลุ่มไปทำอะไรที่สังคมไม่ยอมรับก็จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่เคยนออกมาทำอะไร ทั้งที่เป็นคนที่สนิทสนม มักคุ้นกัน ที่จะป้องกันไม่ให้เหตุต่างๆ เกิดขึ้น และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็จะเป็นเรื่องยากที่ทำให้คนเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้
“ผมคิดว่า พรรคเพื่อไทยต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ และถ้าบอกว่า มีความพร้อมที่จะเป็นรัฐบาลอย่างน้อยที่สุด จะต้องสามารถควบคุมคนที่สนับสนุนตัวเองให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้น จะมาบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร ถ้าบอกว่าจะปรองดอง แต่ยังไม่สามารถควบคุมผู้สนับสนุนตัวเอง ไม่ทำให้บรรยากาศเสีย ก็ตั้งคำถามได้ 2 อย่าง ว่า 1.มีความจริงใจหรือไม่และ 2. มีความสามารถหรือไม่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงตามที่ต่างๆ ไม่ได้เป็นการจัดตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นจะประณามไหม จะบอกให้หยุดไหม จะบอกไหมว่าไม่จำเป็นต้องมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนวิธีการแบบนี้ถ้าอยากแสดงความเป็นผู้นำ ตนว่าควรจะพูดอย่างนี้เลย แทนที่จะปัดให้พ้นตัวไปว่าไม่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามล่าสุด นายประเกียรติ นาสิมมา ผู้สมัคร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวว่า จะไม่มีการชุมนุม นายอภิสิทธิ์ ร้องโอ๊ย ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ต้องไปสนใจ” ต่อข้อถามว่าทางเจ้าหนาที่บอกว่าหมู่บ้านเสื้อแดงไม่กระทบความมั่นคง เลยปล่อยไว้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองในมุมนั้น ตนมองในมุมที่ว่าเราแบ่งแยกประเทศทำไม ถ้าเรามีความตั้งใจในการที่จะเดินไปสู่สังคมสงบสุข เราก็ไม่ควรที่จะบางแยกประชาชน แบ่งแยกพื้นที่ แบ่งแยกประเทศมากขึ้น และการจะอ้างว่าตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์นั้นก็อยากถามว่าเพื่อประโยชน์อะไร คิดว่า วันนี้สิ่งที่ท้าทายมากๆ คือ ทุกคนพูดได้หมด เรื่องปรองดอง และทุกคนสามารถที่จะปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวไปว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเองแต่ความสำคัญคือการกำหนดทิศทางให้ชัดเจน ตนถูกกล่าวหาหลายเรื่องแต่ก็มีกลไกอิสระที่จะเข้ามาตรวจสอบและพร้อมที่จะดำเนินการ
“กลุ่มเสื้อแดงเวลาเคลื่อนไหวคู่ขนานกับการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ไปเคลื่อนไหวก็ค่อนข้างชัดว่าให้เลือกพรรคการเมืองไหน ความจริงในแง่กฎหมายเลือกตั้งไม่ทราบว่านัยเป็นค่าใช้จ่ายหรือไม่ แต่พอได้ประโยชน์ก็ไม่ว่ากัน แต่พอไปทำอะไรสังคมตั้งข้อสงสัย บอกว่าไม่เกี่ยวกัน ผมว่าถ้าอย่างนี้สังคมต้องมองให้ทะลุ”
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่าจะกลับมาประเทศไทย เพื่อร่วมงานแต่งลูกสาวคนโตในเดือนธันวาคมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดหลายเรือง เคยพูดว่า ชุมนุมมีเสียงปืนเมื่อไรจะมายืนอยู่แถวหน้า ส่วนจะกลับมาโดยไม่มีความผิดได้หรือไม่นั้น ก็อยู่ว่าถ้ามีรัฐบาลที่ไปล้างความผิดให้เข้าอาจเป็นไปได้ แต่อยู่ที่ประชาชนว่าจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรือไม่ ไปเลือกพรรคการเมืองที่ไปล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ และการที่เขาบอกว่าจะต้องกลับมาให้ได้ และที่บอกว่าน้องสาวจะถูกกลั่นแกล้งก็ไม่เห็นมีใครไปแกล้ง อยู่ไกล ไม่ได้มาเห็น เปรียบเทียบกันการลงพื้นที่ของตนขณะนี้เป็นอย่างไร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์โดนอะไร ใครต่อใครโดนอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องคณะกรรมการ กกต.4 คนที่เดินทางไปต่างประเทศ ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต.ต้องดูแลรับผิดชอบการเลือกตั้งเพราะเป็นงานที่สำคัญที่สุด ส่วนที่อ้างว่า ไปดูการเลือกตั้งในต่างประเทศเพราะมีการเชิญมาเป็นเรื่องของการบริหารภายใน ไม่ทราบว่ามีมาตรการรองรับหรือไม่ และช่วงนี้เป็นช่วงเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ แต่เราก็เป็นห่วงสถานการณ์ ถ้าเขาสามารถบริหารจัดการได้ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องดูแล และหากไปทั้ง 4 คนแล้วมีเรื่องด่วนก็น่าจะกลับมาประชุมได้
ส่วนที่ นายอภิสิทธิ์ ระบุในเฟซบุ๊กว่า ชายชุดดำเป็นพวกคนเสื้อแดงนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ชุดดำมีพฤติกรรมชัดเจน มีคลิบวิดีโอชัดเจนมีการกระทำที่ชัดเจน มีรายงานจากสื่อต่างประเทศก็ชัดเจน เพราะสิ่งที่ตนเขียนในเฟซบุ๊ก มันเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีตรงไหนที่อยู่ดีๆ ไปยกเรื่องอะไรขึ้นมา มีการอ้างอิงและเป็นประสบการณ์จริงถ้าไม่ครบถ้วนคนอื่นก็ช่วยเสริมได้ไม่ว่าอะไร แต่คงไม่ไปตอบโต้เพราะต้องการให้ความจริง เนื่องจากมีกระบวนการที่จะพยายามเขียนและสร้างแง่มุมที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่ตนรับทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ถ้าแพ้การเลือกตั้งแล้วจะถูกเขียนประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กลัว และไม่เชื่อว่าใครจะมาเปลี่ยนอดีตได้ความจริงก็คือความจริง เมื่อถามว่าถ้าอำนาจเปลี่ยน ความจริงเปลี่ยนได้ไหม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อำนาจคงไม่เปลี่ยน