xs
xsm
sm
md
lg

ชพน.ประเมินเลือกตั้งไม่รุนแรง ปัดจัดตั้ง รบ.พรรคเดียว ต้องดึงกลาง-เล็กร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชพน.ชูแนวทางปรองดอง 8 ข้อ ปัดตั้งเงื่อนไขร่วม รบ. “สุวัจน์” ควงแกนนำกลุ่ม 3 พี ร่วมงานด้วย ก่อนประเมินเลือกตั้งไม่รุนแรง เชื่อ 2 พรรคใหญ่จะได้เสียงรวมที่ 400 เก้าอี้ พร้อมดึงพรรคขนาดกลาง-เล็กร่วมจัดตั้ง รบ. ยันยังไม่ถึงเวลาเกลี่ยเก้าอี้ ครม. ต้องรอวันที่ 3 ก.ค. ระบุเสียงโทรศัพท์ระงมแน่ แต่ไม่รู้ยังจำเบอร์ตัวเองได้ไหม

วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้แถลงแนวทางในการปัญหาประเทศด้วยนโยบาย “หยุดขั้ว สลายสี สามัคคีพี่น้องไทย” โดยมีแกนนำคนสำคัญเข้าร่วมงาน เช่น ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง นางพรรณี จารุสมบัติ นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทั้งยังมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค และนายปรีชา เลาหพงษ์ชนะ แกนนำกลุ่ม 3 พี ร่วมรับฟังการแถลงด้วย ส่วนนายพินิจ จารุสมบัติ ติดภารกิจต่างประเทศไม่ได้มาร่วมงาน

โดยก่อนแถลงได้มีการเปิดวิดีทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีภาพการชุมนุมของคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงประกอบในชื่อชุดความบอบช้ำทางการเมืองไทย จากนั้น นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศชาติเกิดความแตกแยกสูญเสียทรัพย์สิน ทำลายความสงบของคนไทยทั้งชาติมาตลอด ดังนั้น พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจึงตระหนักว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข พรรคจึงคิดหาวิธีที่ที่จะอย่างไรเพื่อจะนำความสุขมาสู่คนไทยทั้งชาติ ด้วยนโยบาย “หยุดขั้ว สลายสี สามัคคีพี่น้องไทย” ซึ่งมี 8 ข้อ คือ 1.การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของข้อเรียกร้องที่นำไปสู่ความขัดแย้งที่ผ่านมา รัฐบาลปัจจุบันได้เกิดขึ้นมาในสถานการณ์แห่งความจำเป็นในการรักษาความมั่นคงของชาติ พรรคเห็นว่าการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.จะเป็นทางออกสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง จึงขอเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ร่วมกัน และยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งเป็นคำตัดสินของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย

นพ.วรรณรัตน์กล่าวต่อว่า 2.เมื่อผลการเลือกตั้งได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย การดำเนินการตัดตั้งรัฐบาลใหม่ควรสอดคล้องกับจารีตประเพณีแห่งหลักสากลทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยเปิดเผย โปร่งใส เป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความชอบธรรมรัฐบาลใหม่ 3.เรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคที่จะมีส่วนร่วมในการตั้งรัฐบาล คำนึงถึงภารกิจในการเข้าไปแก้ไขปัญหาของชาติ ขอให้พรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล หันหน้าเข้าหากัน เสียสละ ลดเงื่อนไขและข้อเรียกร้อง เพื่อให้รัฐบาลที่ดีที่สุด มีบุคลากรที่ซื่อสัตย์สุจริต มีประสิทธิภาพ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์อย่างแท้จริง

นพ.วรรณรัตน์กล่าวอีกว่า 4.รัฐบาลใหม่ตลอดจนสมาชิกวุฒิสภา ควรมีความร่วมมือกันในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ สร้างมิติใหม่แก่งการทำงานอย่างสร้างสรรค์ สร้างวัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย 5.เพื่อให้รัฐบาลมีกลไกในการขับเคลื่อนการบริหารประเทศในลักษณะทีมเวิร์คประเทศไทย ควรร่วมมือในการทำงานระหว่างรัฐบาล ข้าราชการ และภาคธุรกิจเอกชนจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่จะสำเร็จ ต้องปราศจากการใช้อำนาจทางการเมืองในการแทรกแซงการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน 6.รัฐบาลควรนำข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์และคณะกรรมการชุดต่างๆ มาพิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง 7.ควรพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ 8.ขอให้ทุกฝ่ายได้ใช้กลไกของระบอบประชาธิปไตย และกระบวนการแห่งรัฐสภา เป็นวิถีทางลดความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้าสร้างความระเบียบเรียบร้อยของสังคมไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นพ.วรรณรัตน์แถลงนโยบายเสร็จ ได้ร่วมกับแกนนำพรรคดึงผ้าสีดำที่มีข้อความ ไร้ความสมานฉันท์ เสียหายทุกส่วน สังคมแตกแยก ออก และปรากฏเป็นป้ายชื่อพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน หยุดขั้ว สลายสี สามัคคีพี่น้องไทยแทน นอกจากนี้แกนนำพรรคที่มาร่วมงานยังพร้อมใจกันแต่งกายในโทนสีชมพูอีกด้วย

จากนั้น นายชาญชัยในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางหลังเลือกตั้งที่จะต้องตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับ 2 พรรคใหญ่ว่า จากที่เคยสนับสนุนและร่วมทำงานกับทั้ง 2 ขั้วการเมือง พบว่าทั้งสองพรรคมีการทำงานที่แตกต่างกันบ้าง ซึ่งทางพรรคจะยึดมั่นในนโยบาย 8 ประการที่จะหยุดขั้วสลายสี เพราะถือเป็นการให้สัญญาประชาคมไว้แล้ว เมื่อถามว่าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจะมีงูเห่าเหมือนพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชาญชัยกล่าว่า พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ไม่มีทั้งงู และไม่มีทั้งเห่า

ด้าน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เท่าที่ดูบรรยากาศการหาเสียงในวันนี้ถือว่าการเลือกตั้งยังเป็นทางออกที่ดีที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ เดิมเรามีความกังวลว่าจะเลือกตั้งจะเรียบร้อยหรือไม่ แต่วันนี้เราเลยจุดนั้นมาแล้ว ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันทั้งพรรคการเมือง นักการเมือง ประชาชน ออกไปใช้สิทธิ์จะทำให้การเลือกตั้งมีความชอบธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ โดยหน้าที่หลักของรัฐบาลชุดใหม่ คือ ต้องยุติความแตกแยกขัดแย้งให้ได้ วันนี้เราไม่ห่วงปัญหาเศรษฐกิจแล้ว เราต้องมุ่งแก้ความแตกแยกของบ้านเมือง เราต้องเดินไปข้างหน้า

เมื่อถามว่าการออกมาแสดงบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะเป็นการชี้นำในการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า เป็นการให้ความคิดเห็น ซึ่งการเสนอให้เลือกคนดีก็เป็นวัตถุประสงค์ของทุกฝ่ายเพื่อความอยู่รอดของประเทศ ทุกฝ่ายต้องลดราวาศอก เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความชอบธรรมให้ได้รัฐบาลที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่า ในเมื่อ 2 พรรคใหญ่ยังขัดแย้งกันอยู่ หลังเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อยหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องการแข่งขันกันมากกว่า เลือกตั้งจบทุกคนก็ต้องจบ ส่วนใครจะไปร่วมรัฐบาลกับใครก็เป็นอีกเรื่อง อยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายจากประสบการณ์มองว่ารัฐบาลจะมีการเปลี่ยนขั้วหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แต่คิดว่าแนวโน้มไม่มีพรรคใดได้เกินครึ่ง การจัดตั้งรัฐบาล น่าจะเป็นตัวเลข 300 ขึ้นไป เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ และไม่ให้มีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม และยังเป็นเรื่องของการยอมรับจากนานาชาติด้วย ดังนั้น พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กจะช่วยทำให้รัฐบาลชุดใหม่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ดังนั้นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางอย่าเพิ่งเสียกำลังใจ เรายังมีความหมายในเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล และในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งเท่าที่ตนคุยกับนายปรีชา (เลาหพงศ์ชนะ) เห็นตรงกันว่า 2 พรรคใหญ่จะได้รวมกันที่ 400 เสียง ส่วนที่เหลือพรรคเล็กพรรคกลางแบ่งกันเอง 100 เสียง

เมื่อถามว่าขณะนี้มีข่าวการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล นายสุวัจน์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ กระแสข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นการประเมินสถานการณ์มากกว่า โควต้ากระทรวงหรือสัดส่วนรัฐมนตรียังคุยอะไรไม่ได้ ต้องรอตัวเลข ส.ส.เสียก่อน การออกเสียงประชาชนจะเป็นการบ่งบอก วันนี้ทุกคนยังสาละวนอยู่กับการเลือกตั้ง เขาก็อยากจะเป็น ส.ส.กันก่อน สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาตั้งเงื่อนไขกัน

“สถานการณ์ในวันนี้แตกต่างจาการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นเราอย่ามาสร้างเงื่อนไข วันนี้เป็นโอกาสทองของประเทศไทยที่เราจะได้ออกจากวิกฤตแล้ว" นายสุวัจน์กล่าว

สำหรับผลโพลที่ว่าพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง และมีข่าวว่าจะดึงพรรคเบอร์ 2 และเบอร์ 21 มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายสุวัจน์กล่าวว่า เราต้องให้เกียรติประชาชน ซึ่งใครได้เสียงข้างมาก ก็ถือว่าประชาชนอยากให้เป็นนายกฯมากที่สุด ซึ่งพรรคอันดับหนึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจ “พรรคขนาดกลางและเล็กจะเป็นฝ่ายถูกเชิญ วันนี้ยังไม่มีใครจัดตั้งอะไรตามที่เป็นข่าว แต่ตั้งแต่เย็นวันที่ 3 ก.ค. เสียงโทรศัพท์คงดังไปหมด ส่วนเบอร์ของผมก็ไม่รู้ว่าเขายังจำเบอร์ได้ไหม” นายสุวัจน์กล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น