ASTVผู้จัดการ – สื่อมวลชนระหว่างประเทศ ทั้ง วอลล์สตรีทเจอร์นัล, ไฟแนนเชียลไทมส์, และบีบีซี ต่างรายงานการแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในเรื่องบทบาทของกองทัพต่อสถานการณ์ปัจจุบันและการเลือกตั้ง โดยมองว่าเป็นการเข้าแทรกแซงการเมือง และมุ่งโจมตีฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่กำลังมีคะแนนนิยมสูงพรวดพราด
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานข่าวนี้เอาไว้ในฉบับวันพฤหัสบดี (16) โดยระบุว่า “การประจันหน้ากันอย่างเต็มเหนี่ยวไม่มียั้ง กำลังบังเกิดขึ้นในการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของประเทศไทย ด้วยการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กำลังก้าวเข้าสู่เวที เพื่อโน้มน้าวผู้ออกเสียงอย่างอ้อมๆ ไม่ให้เลือกน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยโค่นลงจากอำนาจในการทำรัฐประหารของฝ่ายทหารเมื่อ 5 ปีก่อน”
วอลล์สตรีทเจอร์นัลกล่าวต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้การชี้แจงที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องในคืนวันอังคาร(14) “มาวาดภาพพวกผูสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพบูชาของประเทศนี้ จึงกำลังเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองในชาติที่มักจะไปถึงจุดเดือดกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว” พร้อมกับชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กำลังนำในผลโพลหยั่งเสียงของสำนักต่างๆ
รายงานข่าวชิ้นนี้ซึ่งเขียนโดย เจมส์ ฮุกเวย์ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวหา “ชาวไทยที่เนรเทศตนเองไปอยู่ต่างแดนบางคน” ว่ากำลังละเมิดกฎหมายไทย ด้วยการวางแผนกโลบายเพื่อบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่รายงานนี้กล่าวว่า พวกนักวิเคราะห์มองว่า เป้าหมายที่ไม่มีการระบุชื่อในคำแถลงนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลได้อ้างความเห็นของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยแห่งสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ในสิงคโปร์ ที่กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของ ผบ.ทบ.คราวนี้ “เป็นการแทรกแซงทางการเมืองอย่างชัดเจนมาก” และบอกด้วยว่า “เขา(พล.อ.ประยุทธ์) กำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับคนดีและคนเลว มันจึงเกือบจะดูเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์กำลังทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของเขาออกมาแล้ว”
รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล กล่าวว่า การออกโรงล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ น่าที่จะยิ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่นักการเมืองและนักลงทุน เกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศซึ่งเกิดการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้วหลายครั้งหลายหน ในกรณีที่ถ้าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งและพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ถึงแม้ในระยะไม่กี่สัปดาห์มานี้ พวกผู้นำของกองทัพต่างออกมาแถลงว่า พวกเขาไม่มีเจตนารมณ์ที่จะเป็นผู้นำการรัฐประหารใดๆ อีก แต่ก็ยังคงมีข่าวลือสะพัดในหมู่ประชาชนว่า มันยังอาจเกิดขึ้นได้
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ฉบับวานนี้(16)เช่นกัน ก็รายงานข่าวนี้โดยบอกว่า “ผู้บัญชาการทหารบกของไทย กำลังเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับการอภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับการเลือกตั้งของประเทศ ด้วยการเปิดการโจมตีอย่างชนิดที่มีการปกปิดอำพรางเพียงน้อยนิดเท่านั้น ต่อฝ่ายค้านที่กำลังกลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ ถึงแม้เขาจะได้เคยให้สัญญาเอาไว้หลายๆ ครั้งว่า ฝ่ายทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง”
ไฟแนนเชียลไทมส์กล่าวในอีกตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดว่าเขาไม่คิดที่จะทำรัฐประหาร แต่ความเป็นปรปักษ์ที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างฝ่ายทหารกับผู้ที่อาจกลายเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งคราวนี้ ก็เป็นการทำลายความหวังที่ว่าการเลือกตั้งอาจจะยุติภาวะทางตันทางการเมืองที่ดำเนินมากว่า 5 ปีแล้ว โดยที่มีอยู่หลายครั้งหลายคราวได้ปะทุเป็นความรุนแรงขึ้นมาด้วย
ขณะเดียวกัน รายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ที่เขียนโดย ทิม จอห์นสตัน ระบุว่า พวกนักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลอยู่แล้วกับนโยบายประชานิยมที่จะมีการใช้จ่ายกันอย่างมโหฬารของพรรคเพื่อไทยซึ่งน่าจะเป็นผู้ชนะ โดยมองว่านโยบายเช่นนี้จะทำลายเศรษฐกิจของประเทศ
ก่อนหน้านี้ บีบีซี โดย ราเชล ฮาร์วีย์ ก็ได้รายงานข่าวการแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ โดยที่ระบุด้วยว่า “การแทรกแซงของผบ.ทบ.ผู้นี้ กำลังก่อให้เกิดคำถามใหม่ๆ เกี่ยวกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของฝ่ายทหาร” ถึงแม้กองทัพจะยืนยันเรื่อยมาว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
รายงานของบีบีซีกล่าวว่า ถึงแม้พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำในผลโพลของสำนักต่างๆ แต่ก็ยังไม่น่าที่จะถึงขั้นได้ครองเสียงข้างมากในสภา และนั่นทำให้มีโอกาสที่จะเกิดช่วงเวลาแห่งการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองกันภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่บางคนหวาดกลัวว่าทางกองทัพอาจจะสามารถเข้ามาแสดงบทบาทได้
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานข่าวนี้เอาไว้ในฉบับวันพฤหัสบดี (16) โดยระบุว่า “การประจันหน้ากันอย่างเต็มเหนี่ยวไม่มียั้ง กำลังบังเกิดขึ้นในการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของประเทศไทย ด้วยการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กำลังก้าวเข้าสู่เวที เพื่อโน้มน้าวผู้ออกเสียงอย่างอ้อมๆ ไม่ให้เลือกน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยโค่นลงจากอำนาจในการทำรัฐประหารของฝ่ายทหารเมื่อ 5 ปีก่อน”
วอลล์สตรีทเจอร์นัลกล่าวต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้การชี้แจงที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องในคืนวันอังคาร(14) “มาวาดภาพพวกผูสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพบูชาของประเทศนี้ จึงกำลังเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองในชาติที่มักจะไปถึงจุดเดือดกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว” พร้อมกับชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กำลังนำในผลโพลหยั่งเสียงของสำนักต่างๆ
รายงานข่าวชิ้นนี้ซึ่งเขียนโดย เจมส์ ฮุกเวย์ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวหา “ชาวไทยที่เนรเทศตนเองไปอยู่ต่างแดนบางคน” ว่ากำลังละเมิดกฎหมายไทย ด้วยการวางแผนกโลบายเพื่อบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่รายงานนี้กล่าวว่า พวกนักวิเคราะห์มองว่า เป้าหมายที่ไม่มีการระบุชื่อในคำแถลงนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลได้อ้างความเห็นของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยแห่งสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ในสิงคโปร์ ที่กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของ ผบ.ทบ.คราวนี้ “เป็นการแทรกแซงทางการเมืองอย่างชัดเจนมาก” และบอกด้วยว่า “เขา(พล.อ.ประยุทธ์) กำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับคนดีและคนเลว มันจึงเกือบจะดูเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์กำลังทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของเขาออกมาแล้ว”
รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล กล่าวว่า การออกโรงล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ น่าที่จะยิ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่นักการเมืองและนักลงทุน เกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศซึ่งเกิดการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้วหลายครั้งหลายหน ในกรณีที่ถ้าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งและพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ถึงแม้ในระยะไม่กี่สัปดาห์มานี้ พวกผู้นำของกองทัพต่างออกมาแถลงว่า พวกเขาไม่มีเจตนารมณ์ที่จะเป็นผู้นำการรัฐประหารใดๆ อีก แต่ก็ยังคงมีข่าวลือสะพัดในหมู่ประชาชนว่า มันยังอาจเกิดขึ้นได้
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ฉบับวานนี้(16)เช่นกัน ก็รายงานข่าวนี้โดยบอกว่า “ผู้บัญชาการทหารบกของไทย กำลังเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับการอภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับการเลือกตั้งของประเทศ ด้วยการเปิดการโจมตีอย่างชนิดที่มีการปกปิดอำพรางเพียงน้อยนิดเท่านั้น ต่อฝ่ายค้านที่กำลังกลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ ถึงแม้เขาจะได้เคยให้สัญญาเอาไว้หลายๆ ครั้งว่า ฝ่ายทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง”
ไฟแนนเชียลไทมส์กล่าวในอีกตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดว่าเขาไม่คิดที่จะทำรัฐประหาร แต่ความเป็นปรปักษ์ที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างฝ่ายทหารกับผู้ที่อาจกลายเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งคราวนี้ ก็เป็นการทำลายความหวังที่ว่าการเลือกตั้งอาจจะยุติภาวะทางตันทางการเมืองที่ดำเนินมากว่า 5 ปีแล้ว โดยที่มีอยู่หลายครั้งหลายคราวได้ปะทุเป็นความรุนแรงขึ้นมาด้วย
ขณะเดียวกัน รายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ที่เขียนโดย ทิม จอห์นสตัน ระบุว่า พวกนักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลอยู่แล้วกับนโยบายประชานิยมที่จะมีการใช้จ่ายกันอย่างมโหฬารของพรรคเพื่อไทยซึ่งน่าจะเป็นผู้ชนะ โดยมองว่านโยบายเช่นนี้จะทำลายเศรษฐกิจของประเทศ
ก่อนหน้านี้ บีบีซี โดย ราเชล ฮาร์วีย์ ก็ได้รายงานข่าวการแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ โดยที่ระบุด้วยว่า “การแทรกแซงของผบ.ทบ.ผู้นี้ กำลังก่อให้เกิดคำถามใหม่ๆ เกี่ยวกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของฝ่ายทหาร” ถึงแม้กองทัพจะยืนยันเรื่อยมาว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
รายงานของบีบีซีกล่าวว่า ถึงแม้พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำในผลโพลของสำนักต่างๆ แต่ก็ยังไม่น่าที่จะถึงขั้นได้ครองเสียงข้างมากในสภา และนั่นทำให้มีโอกาสที่จะเกิดช่วงเวลาแห่งการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองกันภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่บางคนหวาดกลัวว่าทางกองทัพอาจจะสามารถเข้ามาแสดงบทบาทได้