“ชุมพล” หนุน “เจ๊ปู” เมินดีเบต อ้างลงพื้นที่หาเสียงดีกว่า

“ชุมพล” หนุน “เจ๊ปู” เมินดีเบต อ้างลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า เชื่อโพลช่วงนี้แค่ปั่นกระแสของจริงโค้งสุดท้าย ระบุ ผบ.ทบ.ไม่ชี้นำการเมือง แค่พูดย้ำตามกฎ กกต.ห้ามก้าวก่ายสถาบัน เชื่อไร้ปัญหากับเพื่อไทย ข้องใจพรรคการเมืองต้องการเข้าพบทหาร

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะได้ลงพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อช่วย น.ส.มลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จ.สุรินทร์ รณรงค์หาเสียงกับประชาชนในตลาดเทศบาลกังแอน โดยนายชุมพลได้แสดงฝีมือปิ้งกล้วยขาย พร้อมกับออกปากว่า “ทุกอย่างจะได้เป็นเรื่องกล้วยๆ” และยังได้ลงมือชงกาแฟสดด้วยตัวเอง และให้ น.ส.มลิวัลย์ ชิม ซึ่ง น.ส.มลิวัลย์กล่าวกับนายชุมพลอย่างอารมณ์ดีว่า “หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเยี่ยมที่สุด” จากนั้นนายชุมพลได้เดินทางต่อไปยัง อ.ศรีขรภูมิ เพื่อช่วยหาเสียงให้นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้สมัครเขต 6 จังหวัดสุรินทร์

นายชุมพลให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะกวาด ส.ส.ทั้งจังหวัดอุบลราชธานีว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีพื้นที่ของพรรคเดิมมี 3 เขต ดังนั้นฐานเสียงของเรามีพอสมควร ขณะเดียวกัน นโยบายที่เป็นตัวนำของพรรคคือการปรองดองที่ไม่เหมือนพรรคอื่น เพราะฉะนั้นเสียงประชาชนบางส่วนจะไปอยู่กับบางพรรค แต่เสียงอีกส่วนหนึ่งมาอยู่กับพรรค ที่ชอบนโยบายปรองดองไม่ต้องการบ้านเมืองให้ยุ่งยาก โดยเฉพาะฐานเสียงและกระแสพรรคเดิมยังมีอยู่พอสมควร แต่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งหรือไม่ขอให้รอดูครึ่งหลัง

ส่วนการดีเบตระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ควรมีขึ้นหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงของการหาเสียง เราคิดว่าใช้เวลากับการหาเสียงให้มากที่สุดจะดีกว่า เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด น่าจะได้ประโยชน์สูงสุดมากกว่า ส่วนที่ตนเคยระบุว่าหากมีการดีเบตจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะเป็นรองก็เป็นการพูดในช่วงเริ่มแรกของการเลือกตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้การดีเบตสู้การเข้าถึงประชาชนไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องดีเบตก็ได้ หากเป็นการดีเบตแค่สองพรรคใหญ่แล้วพรรคขนาดกลางไม่สำคัญหรือ ทำไมต้องจัดคิวสองพรรคใหญ่ก่อน ถ้าจะจัดควรจัดพร้อมกัน ถึงจะมีความเป็นธรรม อย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่าจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาไม่คิดจะรับข้อเสนอแบบนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าโพลคะแนนของพรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพลกล่าวว่า โพลยังไม่มีออกมา จะเห็นโพลล่าสุดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะในเมื่อเป็นโพลนายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องชนะ และถ้าเป็นโพลพรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องชนะ เพียงแต่ว่าชนะเขตไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างจังหวัดศรีสะเกษ และสุรินทร์ยังมีความหวัง ทำให้มีกำลังใจหาเสียงมากขึ้น

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ 270 เสียงตามที่โพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอก นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์เพราะไม่มีข้อมูล โพลก็คือโพล ความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง โพลที่จะมีน้ำหนักคือช่วงสุดท้ายการเลือกตั้ง ซึ่งโพลของสวนดุสิต และเอแบคโพลล์ค่อนข้างจะแม่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมที่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไว้หลังเลือกตั้งค่อยมาพูดกัน ทางพรรคยังไม่ได้กำหนดท่าทีอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่หาคะแนนเสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปรากฏในโพล ก็อยากให้ปรากฏบ้างจะได้มีกำลังใจทำงานต่อไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลไว้หลังเลือกตั้งค่อยว่ากัน ขอดูตัวเลยก่อน พูดไปตอนนี้เป็นเพียงการคาดคะเน อาจเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ได้

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณจะเชิญพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะสามาถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่เคยทำงานร่วมกันจึงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ให้ความเห็นไม่ได้ในเรื่องนี้ ความจริงพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานร่วมกับพรรคอื่นมาได้ตลอด ไม่น่ามีปัญหา เราไม่สามารถบอกได้ว่าทำงานร่วมกับคนนี้จะทำได้ดีหรือไม่ดี เราอยู่ในฐานะว่าหลังเลือกตั้งแล้วเราจะทำหน้าที่ วางท่าทีลักษณะเป็นคนกลางที่พยายามประสานความสามัคคีให้เกิดความปรองดองบนถนนปรองดองให้เกิดขึ้นให้ได้ ดังนั้นหาเราอยู่ในจุดที่จะต้องอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่น่าจะถูกต้อง

ต่อข้อถามว่าทำงานกับพรรคเพื่อไทยจะอึดอัดเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า สบายมาก ไม่มีปัญหา นายกฯ อภิสิทธิ์อยู่กับตนมานาน 6-7 ปีด้วยกันในมหาวิทยาลัยศิลปากร รู้จักวิธีทำงานร่วมกันมาแล้ว

ส่วนที่ พรรคเพื่อไทยยังมีปัญหากับกองทัพโดยเฉพาะ ผบ.ทบ.นั้น นายชุมพลกล่าวว่า ฟังดูการให้สัมภาษณ์แล้วไม่มีปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าการพูดของของ ผบ.ทบ.เป็นการชี้นำหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ตนว่าอย่าไปมองท่าทีของทหารถึงขนาดนั้น ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง ทหารก็พูดท่าทีตรงไปตรงมาให้รู้จุดยืนของทหารเป็นอย่างไร ก็ชัดเจนดี แต่ถ้าจะไปตีความว่าชี้นำมองการณ์ไกลไปนิด ต่อข้อถามว่ามองว่าใช้คำว่าเลิกเลือกคนที่ไม่ดี นาชุมพลกล่าวว่า ใครที่ก้าวร้าวต่อสถาบันเป็นคนไม่ดีอยู่แล้ว กกต.ก็มีกฎข้อบังคับห้ามก้าวก่ายสถาบัน ก็เป็นการพูดในเรื่องกฎของ กกต.ไม่มีอะไรใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าอยากจะเข้าพบ ผบ.ทบ. นายชุมพลกล่าวว่า เป็นเรื่องระหว่าง 2 ท่าน พระเอกกับนางเอกจะไปพบกัน เมื่อถามว่าความจริงแล้วพรรคการเมืองควรจะพบ ผบ.ทบ.หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ตนฟังมาว่าหลังเลือกตั้งถึงจะไปคุยกัน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าหลังเลือกตั้งคืออะไร ตั้งรัฐบาลแล้วหรือว่าอย่างไร ถ้าตั้งรัฐบาลแล้ว เป็นธรรมดาแล้วที่ข้าราชการก็ต้องพบกับรัฐบาล ซึ่งน่าจะเชิญไปหารือเรื่องนโยบายด้านทหารโดยเฉพาะชายแดนกัมพูชาที่กำลังมีปัญหา ซึ่งทุกพรรรคยังไม่มีท่าทีในเรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่าเหตุใดพรรคการเมืองจะต้องไปพบ ผบ.ทบ. นายชุมพลกล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เห็นไปเลย ต้องไปถามพรรคที่เข้าพบ

ต่อข้อถามการลงพื้นที่หาเสียงของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ยังโดนเสื้อแดงโห่ไล่ ล่าสุดมีการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง นายชุมพลกล่าวว่า ตนให้สัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว การทำเช่นนี้เป็นกลยุทธ์ในช่วงหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีปัญหากระทบกระเทือนต่อการเมืองไทย