“พล.ร.ท.ประทีป” ถาม ผบ.ทบ. บอกสื่อ ASTV ทำสังคมแตกแยก แล้วรับตำแหน่ง ผบ.ทบ.ได้อย่างไร ในเมื่อ ASTV เป็นตัวชูโรงขับเคลื่อนจนเกิดปฏิวัติ จนท่านได้สืบทายาท ผบ.ทบ.เชื่อ หากไม่มี ASTV ไทยอาจปกครองด้วยระบบรัฐไทยใหม่ไปแล้ว ระบุ หากป้ายโหวตโนผิด จำเลยคนแรก คือ กกต.ชี้ การเมืองเก่าคนดีไม่มีที่ยืน วอนร่วมโหวตโน ปฏิรูปโครงสร้างการเมืองใหม่
วันที่ 15 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวว่าในสถานการณ์ปัจจุบันมีตัวละคร3 ตัว ที่เกี่ยวข้องกับโหวตโน 1.บทบาทของพันธมิตรฯ ที่สนับสนุนเรียกร้องให้คนมีสิทธิ์เลือกตั้ง เข้าคูหากาในช่องไม่เลือกใคร จากการลงพื้นที่พบชาวบ้าน ส่วนใหญ่ให้การตอบรับดี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ คนไทยยังฟังรากลึกต่อระบบอุปถัมภ์ ทำให้ก้าวไม่พ้นการเมืองเก่า
2.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยังหาคำตอบกับเรา ในการนี้ นายประพันธ์ นัยโกวิท แสดงความเห็นว่าป้ายหาเสียงเกี่ยวกับเลือกตั้งไม่สามารถติดตั้งในที่เอกชน ขณะที่นายวิสุทธิ โพธิแท่น เห็นว่าป้ายรูปสัตว์เป็นป้ายหาเสียงผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปได้ ป้ายพรรคเพื่อฟ้าดินมีขนาดและติดตั้งสองข้างทางเหมือนพรรคการเมืองอื่นตามกฎหมาย
ปัญหาต่อมาที่ กกต.จะเล่นคือผิดเงื่อนไข มาตรา 53 แต่อย่าตกใจ หากจะบอกว่าเนื้อหาสาระในป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดิน กับการรณรงค์ของพันธมิตรฯผิดตามเงื่อน คนที่ทำผิดก่อนพัธมิตรฯ คือ กกต.ที่ชักจูงให้ร่วมกระทำผิด เพราะในบัตรเลือกตั้งซึ่งออกโดยข้อบังคับของ กกต.กำหนดให้ทำหน้าที่ ไปลงคะแนนให้ผู้สมัครที่เห็นว่าเป็นคนดี ลงเลือกพรรคที่เห็นว่าเป็นพรรคที่ดี หรือเลือกกาช่องไม่ไประสงค์เลือกใครถ้าเห็นว่าผู้สมัครกับพรรคไม่ดีพอที่จะลงคะแนนให้ ฉะนั้น หากจะกล่าวว่าทำผิดมาตรา 53 จำเลยคนแรกที่ผิดคือ กกต. นอกจากนี้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 87 ยังสนับสนุนการกระทำของเรา ที่สำคัญยังระบุให้รัฐต้องสนับสนุนให้ประชาชนมีสวนร่วมตัดสินใจทางการเมือง ดังนั้นการเลือกหรือไม่เลือกใครจึงเป็นการตัดสินใจทางการเมือง
3.ตัวละครสุดท้ายสดๆ ร้อนๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับงโหวตโน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัดเจน พูดว่า “สื่อทางเลือกที่เรียกว่า เอเอสทีวี เป็นสื่อสร้างความแตกแยก และกองทัพบกไม่สนับสนุนโหวตโน” หวังว่า ท่าน ผบ.ทบ.คงจำได้ การปฏิวัติเมื่อ ก.ย.49 เกิดจากการขับเคลื่อนของสื่อนอกระบบอย่างเอเอสทีวีใช่หรือไม่ และบนการขับเคลื่อนนี้เอง ทำให้กองทัพสวมตอทำการปฎิวัติ เกิดรัฐบาล นายสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้คนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโอกาสรับตำแหน่งเป็นทายาท ผบ.ทบ.ใช่หรือไม่ ก็อยากถามว่าเมื่อท่านบอกสื่อ เอเอสทีวี ทำให้ประชาชนแบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นสองฝ่าย แล้วท่านรับเป็นทายาท ผบ.ทบ.ได้อย่างไร
ท่านต้องยอมรับหากไม่มีการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ โดยมีเครื่องมือสำคัญในการเคลื่อนไหวอย่างสื่อ เอเอสทีวี ตนไม่มั่นใจว่าตอนนี่ประเทศไทยยังจะปกครองด้วยระบบรัฐไทยใหม่หรือไม่ สายไปแล้วที่ท่านจะมาบอก วันนี้คนไทยต้องไม่มีแบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นสองฝ่าย เรื่องนี้หน่วยข่าวของท่านก็แจ้งอยู่แล้ว มีหมู่บ้านเสื้อแดงเป็นร้อยหมู่บ้านในภาคอีสาน ประกอบกับระบอบบทักษิณ ออกมาพูดว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล คนเสื้อแดงก็จะออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง โดยอ้างว่าการเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เพียงเท่านี้ท่านพอมองเห็นหรือยังว่า ในอนาคตก็แบ่งฝ่ายให้เห็นแล้ว
ท่าน ผบ.ทบ.น่าจะคิดไกลกว่านี้ เรื่องอย่างนี้ประชาชนธรรมดาเขาวิจารณ์กัน ท่านเป็นถึง ผบ.ทบ.ต้องวางกลยุทธให้ไกลกว่านี้ ออกมาวิจารณ์ทั้งทีต้องให้บริบทที่มันสูงกว่านี้ ท่านบอกว่า6 เดือนนี้กับก่อนหน้านี้มันคนละเรื่องกัน แต่ในความเห็นของตน อยากบอกว่าอย่าเอาแค่หกเดือนเลย เมื่อ 4 ปีที่แล้วก็เรื่องนี้แหละ เรื่องจาบจ้วง คอร์รัปชันเชิงนโยบาย
พล.ร.ท.ประทีป กล่าวถึงคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ อีกว่า “หากปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปแบบเดิมๆ เราก็จะได้อะไรแบบเดิมๆ” นั้น เรื่องนี้พันธมิตรฯรู้มาตั้งนานแล้ว เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรแบบเดิมๆ ไง ถึงได้กล้าคิดนอกกรอบ หากปล่อยให้มีการเลือกตั้งเดิมๆ ระบอบทักษิณ ขบวนการจาบจ้วง จะแข็งแรงมากขึ้น ครั้นจะเอาคนดีเข้าในสภาก็ไม่มีพลังพอที่ที่จะต่อกรกับโครงสร้างมันอ่อนด้อย คนดี 10 คนต่อคนชั่ว 500 คนมันไหวหรือ เราเห็นอนาคตพลังคนดีไม่สามารถเข้าไปอยู่ในสภาตามโครงสร้างทางการเมืองปัจจุบันได้ได้ เราถึงได้ออกมารณรงค์โหวตโน เพื่อปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง ปฏิรูปประเทศไทย