พันธมิตรฯสงขลา แนะ ปชช.กำหนดอนาคตชาติ ปฎิเสธสัตย์ทั้งหลายเข้าสภา โอดประเทศเสียหายมามากแล้ว วอนอย่าเห็นแก่เศษเงินซื้อเสียงหากไม่อยากจมปรักกับการเมืองเน่าๆอีกนาน ฝากคนวางตัวเป็นกลางอย่าเห็นแก่ตัวคิดให้ลึกนึกถึงชาติบ้าง ยันหาก ปชช. มีโอกาสบริหารประเทศได้ด้วยมือตนเอง ประเทศจะเจริญกว่านี้อีกมาก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสุมิตร นวลมณี”
วันที่ 13 พ.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุมิตร นวลมณี พันธมิตรฯสงขลา กล่าวว่า การต่อสู้ของเราเริ่มต้นเดิมที จุดประสงค์เพื่อปกป้องแผ่นดิน ไม่ได้เจาะจงมาด่าประชาธิปัตย์ แต่เป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริง ที่มีข้อมูลสนับสนุนอย่างเป็นเหตุเป็นผล เมื่อผู้บริหารขี้ขลาดไม่ทำหน้าที่ เป็นไม้หลักปักขี้เลน วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้พูดอีกอย่าง พูดจาเป็นโมฆะบุรุษ เมื่อประชาชนรู้ทันถูกความจริงไล่ล่ามากเข้า ก็คิดหนีปัญหาด้วยการยุบสภา พวกเราจึงเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนปฏิเสธการเมืองที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เราไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง ไม่ได้เชิญชวนให้ใครปฎิวัติ การโหวตโนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงไม่ทำช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนไว้ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกหรือไม่เลือกใครก็ได้ แต่พันธมิตรฯมีการชุมนุมวิเคราะห์แล้วเห็นควรมติโหวตโน เราออกมาชุมนุม ด้วยจิตศรัทธาที่มีต่อชาติแผ่นดิน เลือกตั้งเราไม่แคร์ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล รู้อย่างเดียวเมื่อถึงวันเลือกตั้ง ไม่เลือกคนชั่วให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาอันทรงเกียรติ อย่างไรก็ดี จะประสบความสำเร็จได้เราต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อเทห์อยู่แต่บนถนนราชดำเนิน หรือหอบเอกสารเหตุผลโหวตไปเป็นตั้ง แต่ไม่กล้าแจกมันก็ไม่เกิดประโยชน์
นายสุมิตร กล่าวว่า ไม่ว่าท่านจะชอบพันธมิตรฯหรือไม่ ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันคิด การเมืองไทยกำลังทำให้ประเทศล่มจม เพราะมีนักการเมืองเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีพรรคการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ของพรรค ถ้าไม่คิดถึงการปฎิรูปเราจะจมปรักอยู่กับการเมืองเดิมๆ หากเราขายสิทธิ์ 500 -1,000 บาท เมื่อนักการเมืองที่ซื้อสิทธิ์ได้เข้าไปนั่งในสภา เขาจะไปโกงเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน มันคุ้มกันหรือ
ถ้านักการเมืองยังเห็นผลแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง พี่น้องอย่างไปเลือก อย่าเห็นแก่บุญคุณเล็กๆน้อยๆ หากพี่น้องยังติดหล่มเหล่านี้ประเทศจะเดินหน้าลำบาก อนาคตเราต้องกำหนดชะตาด้วยตัวเอง ประเทศเสียหายมามาแล้ว สำหรับพี่น้องที่ยังปลื้มหลงไหลในตัวบุคคล ปลื้มในพรรค ลองร่วมกันโหวตโนดูสักครั้ง หากประชาชนมีโอกาสบริหารประเทศได้ด้วยมือตนเอง ตนเชื่อว่าประเทศจะเจริญกว่านี้อีกมาก
นายสุมิตร กล่าวถึงวาทกรรม “ถ้าไม่เลือเราเขามาแน่” หากเป็นไปได้เมื่อมีคนพูดเช่นนี้ อยากให้พี่น้องตอบไปว่า “ถ้าเลือกพวกแกประเทศชาติจะแย่ยิ่งกว่านี้” พร้อมฝากถึงคนที่ชอบพูดขอวางตัวเป็นกลาง ว่า คิดให้ลึกๆนึกถึงชาติบ้าง เมื่อเห็นอยู่แล้วว่านักการเมืองมันโกงชาติกินเมือง หากคิดอะไรไม่เป็นขออยู่กลางๆลูกเดียว พวกที่ทำงานเงินเดือนสูงๆ ตามบริษัท หน่วยงานต่างๆ ลดเงินเดือนสักครึ่งได้หรือไม่ ให้เหมาะสมกับที่ไม่มีสติปัญญาแยกถูกผิดดีชั่ว ถ้าเจ้าของบริษัทไหนมีลูกน้องเป็นกลางเยอะๆ บริษัทคุณจะล่ม
นายสุมิตร กล่าวต่อว่า ให้มันรู้ไปความดีจะชนะความชั่วไม่ได้ เมื่อเราต่อสู้อย่างสุดกำลังแล้ว อย่าเสียใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ จงภูมิใจในศรัทธาที่เรามาทำความดีร่วมกัน ทั้งนี้อนาคตประเทศชาติ สถาบัน อยู่ในมือของทุกคน วันนี้พี่น้องพันธมิตรฯตกผลึกแล้วถึงได้ออกมาเป็นโหวตโน สำหรับพี่น้องที่ยังลุ่มหลงในรูป ตัวบุคคล ขอให้คิดถึงชาติบ้านเมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้มากๆ พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายมาตลอดชีวิต ทำความดีเพื่อท่านไม่ได้เชียวหรือ แผ่นดินที่เราเกิดเราต้องรัก หากเราไม่รักแล้วใครจะมารัก
“หากเป็นประชาธิปไตยจริงๆ กกต. ช่วยตั้งหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าให้พันธมิตรฯ ที่มัฆวาน สักหน่วยได้หรือไม่ เพราะพวกเราทิ้งเวทีไม่ได้ แล้วพวกเราจะใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ ตนเชื่อว่าจะเป็นหน่วยเดียวที่โหวตโน 100% ทั้งนี้หลายคนอาจมองไม่เห็นภาพ การปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร นั้น ขอให้เชื่อว่าหากโหวตโนมีมาก ประเทศชาติจะเดินหน้ายิ่งกว่านักการเมืองบริหารอยู่ทุกวันนี้แน่นอน ดังนั้น วันที่ 3 ก.ค. ขอให้ช่วยกันโหวตโน นำพาประเทศไปร่วมกัน เพื่อลูกหลานในอนาคต”
