“พิภพ” เปิด รธน.ย้อน กกต.มั่นใจป้ายโหวตโนเป็นสิทธิตาม รธน.

“พิภพ” จี้ กกต.ตรวจป้าย พท.ดึง “นช.แม้ว” หาเสียงผิด กม.หรือไม่ ซัดนักการเมืองเคยเสนอ กม.ลูกถึง 6 ฉบับ ต้องมีช่องโหวตโน แล้วจะมาบอกโหวตโนเสียของได้อย่างไร มั่นใจป้ายโหวตโนสัตว์เข้าสภา รองรับตามกฎหมาย รธน.มาตรา 87 ต่อต้านการเข้าสู่อำนาจโดยไม่สุจริต ตาม ม.68 และไม่ขัดกฎหมาย ม.69 เพราะใช้แนวทางสันติ ชวน ปชช.ทุกคนทุกสีโหวตโน ทางออก ปท.โดยไม่ต้องนองเลือด

วันที่ 9 มิ.ย.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกคำสั่งปลดป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ด้วยพฤติกรรมยึกๆ ยักๆ ไม่แน่ใจว่า ตัวเองทำถูกกฎหมายหรือไม่ ให้คิดเสียว่าบนความเจ็บปวดจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ยังมีข่าวดี กกต.ช่วยกระพือข่าวโหวตโน ให้ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก หากพูดถึงป้ายหาเสียง แทนที่จะมาพิจารณาป้ายโหวตโนของพรรคเพื่อฟ้าดินอย่างเดียว ตนเห็นว่า ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโฆษณาหาเสียง ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคดีถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จะเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ได้ นั้น เรื่องนี้ กกต.ช่วยพิจารณาด้วย

“อยากบอกพี่น้องเสื้อแดง คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อำมหิตทำทุกอย่างแม้จะผิดกฎหมาย หากผิดกฎหมายอีกครั้ง ก็อาจถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ควรไปเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว และการ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นโคลนนิงหลังจากเคยให้การเท็จต่อศาล แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เลือกที่คุณสมบัติ แค่ใช้ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อให้ตัวเองกลับมามีอำนาจอีกครั้ง”

นายพิภพ กล่าวถึง นางสดศรี สัตยธรรม ที่แสดงความเห็นเรื่องป้ายอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ว่า เป็นรูปที่น่ารักดี แถมยังโฆษณาให้คนไปเลือกตั้งด้วย ตรงนี้ต้องขอปรบมือชมที่แยกแยะออก และที่บอก “ทำอย่างไรจะได้มนุษย์พันธุ์พิเศษ” แสดงว่า นางสดศรี เห็นว่า มนุษย์พันธุ์ธรรมดา ที่มาสมัครลงเลือกตั้งกว่า 50 ตระกูล เป็นมนุษย์พันธุ์อะไร ทำให้ตนสงสัยว่าอาจจะเป็นมนุษย์พันธุ์ที่คล้ายกับที่เราเปรียบเที่ยบเป็นสัตว์ต่างๆ

ส่วนกรณีที่ นายนายมีชัย ฤชุพันธุ์ หนึ่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง แสดงความเห็นเรื่องป้ายโหวตโน ว่า ขัดกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย เรื่องนี้ตนได้ไปค้นกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรวจสอบแล้ว มาตรา 87 เขียนไว้ชัดเจน “ให้รัฐ (ในที่นี้รวมถึง กกต.ด้วย) ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนรวมของประชาชนในการตัดสินใจทางการเมือง” ดังนั้น การรณรงค์โหวตโนไม่เอาสัตว์เข้าสภา จึงถือได้ว่าเป็นการแสดงออกของประชาชนในการตัดสินใจทางการเมือง

นายพิภพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ระบุว่า การให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติตามรัฐธรรมนูญจะกระทำไม่ได้ เท่ากับรัฐธรรมนูญกำลังบอกว่า คนที่จะเข้าสู่อำนาจทางการเมืองต้องได้มาโดยสุจริต และเที่ยงธรรม ทั้งนี้ เมื่อ นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า มีโพลชี้ให้เห็นชาวบ้าน 62% พร้อมขายเสียง ข้อมูลนี้น่าสนใจ ก็อยากให้ กกต.พิจารณาเอาว่า การเข้าสู่อำนาจทางการเมืองครั้งนี้ จะเป็นไปโดยสุจริต ชอบธรรมหรือไม่

สำหรับมาตรา 69 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุว่า “บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติ การกระทำใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ” ดังนั้น เมื่อนักการเมืองซื้อเสียง แล้วเรามาชุมนุมต่อต้านอย่างสันติ จึงเป็นการกระทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

นายพิภพ กล่าวอีกว่า กฎหมายประกอบการเลือกตั้ง มีคนเสนอ 6 ฉบับ ฉบับที่ 1 เสนอโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ฉบับที่ 2 เสนอโดย นายชุมพล ศิลปอาชา ฉบับที่ 3 เสนอโดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ฉบับที่ 4 เสนอโดย นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ ฉบับที่ 5 เสนอโดย นางกรุณา ชิดชอบ และฉบับที่ 6 เสนอโดย นายสุชล ชมภูนุช ซึ่งทั้ง 6 ฉบับ มีมาตราว่าด้วยเรื่องโหวตโนทั้งนั้น ก็อยากถามนักการเมืองพวกนี้ว่าตอนเสนอกฎหมาย กำหนดให้มีช่องโหวตโนไว้ทำไม เมื่อเป็นดังนี้วันนี้จะมาพูดได้อย่างไรว่าโหวตโนเสียของ

นายพิภพ กล่าวว่า สิ่งที่นักการเมืองกลัวมากที่สุด คือ พลังเงียบ ตอนนี้จากผลสำรวจมีพลังเงียบ 50% หากพลังเงียบไม่ไปลงคะแนน ทำให้นักการเมือง เวลาซื้อเสียงซื้อแค่ 20-30% ก็ได้เข้าไปเป็นผู้แทนในสภาได้แล้ว บ้านเมืองเราไม่มีกฎหมายเหมือนประเทศฝรั่งเศส ที่กำหนดให้ ผู้สมัครหากได้คะแนนเสียงไม่เกินครึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องเอาผู้ที่ได้คะแนนลำดับที่ 1 และที่ 2 มาเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น ทางแก้ต้องใช้พลังประชาชนกาช่องโหวตโน กดดันนักการเมืองเมื่อเข้ามาบริหารแล้วต้องนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ

“มีบางคนติดขัดเรื่องศีลธรรมอ้างรับเงินเขามาแล้วต้องไปลงคะแนนให้เขา ตรงนี้ อ.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ก็ได้แนะนำให้เป็นกบฏ เพราะกบฏกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ผิดศีลธรรม เพราะสังคมที่พัฒนาเกิดจากกบฏในแต่ละยุคสมัย กบฏคือคนที่เห็นปัญหาของสังคมแล้วคิดนอกกรอบ เมื่อกบฏทำถูกต้องประชาชนก็แห่ทำตามในที่สุดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ ในหลายครั้งกบฏทำให้เกิดการนองเลือด เสียชีวิต แต่วันนี้เราเสนอให้เป็นกบฏโดยโหวตโน เป็นแนวทางสันติวิธี และจะไม่นำไปสู่การนองเลือดใดๆ ทั้งสิ้น”

นายพิภพ กล่าวถึงคนเสื้อแดงที่ทนไม่ไหวกับการเหลื่อมล้ำต้องการปฏิรูป ว่า ตนบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นกบฏ แต่เป็นนายทุน ดังที่ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์บอก ออกมาพูดว่ารัฐธรรมนูญของไทยเปิดโอกาสให้ทุนคณาธิปไตยครองบ้านครองเมือง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ นายบรรหาร นายสุเทพ นายเนวิน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ทั้งหมดเกิดจากรัฐธรรมนูญเอื้อให้ทุนคณาธิปไตยเข้ามาครองบ้านเมือง ถ้าพี่น้องเสื้อแดงเข้ามานี้เราเสนอให้เป็นกบฏโดยโหวตโน เป็นแนวทางสันติวิธี และจะไม่นำไปสู่การนองเลือดใดๆ ทั้งสิ้น