“มาร์ค” ยันประกันรายได้พิชิตใจชาวชนบท แขวะเพื่อไทยจำนำพืชผลเตรียมพ่วงปัญหาคอร์รัปชัน เสี่ยงอนาคตข้าวไทยหายนะ เชื่อคนกรุงแยกออกนโยบายไหนใช้ได้จริง ย้ำ ปชป.เน้นนโยบายเกี่ยวกับประชาชน ไม่เอาเรื่องนิรโทษกรรม มั่นใจพลังเงียบเทคะแนนให้ ปชป.เพราะอยากให้ประเทศเดินหน้า
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรุงเทพโพลล์ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย ทั้งในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.เขตว่า แต่ครั้งที่แล้วตอนที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง กรุงเทพโพลล์บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ทั้งนี้ ตนเคยบอกว่ายังมีโพลใดที่ตัวเลขบอกว่าประชาชนอีกร้อยละ 40-50 ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร ก็อยากให้รอดูตอนที่ประชาชนตัดสินใจในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าตอนนี้ประชาชนต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และต้องการให้รัฐบาลเอาใจใส่ปัญหาของประชาชนมากกว่าปัญหาของนักการการเมือง ซึ่งตนใช้แนวทางในการบริหารบ้านเมืองด้วยการเน้นการรักษากฎหมายและการมีส่วนร่วมของประชาชน มั่นใจว่าชาว กทม.จะตัดสินใจได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า มั่นใจในพลังเงียบที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งตนทราบดีว่าคนกรุงเทพฯเป็นกลุ่มคนที่ต้องการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้ประชาชนเริ่มได้รับข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนมากขึ้น และใน 20 วันข้างหน้าคงจะสามารถตัดสินใจได้ชัดเจน
เมื่อถามจะต้องปรับกลยุทธ์ในการทำงานของพรรคเพื่อดึงคะแนนร้อยละ 40 ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอจะมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะความแตกต่างเรื่องนโยบายของ 2 พรรคจะมีมากขึ้น สำหรับในประชาชนในพื้นที่ชนบทขณะนี้ ก็ชัดเจนมากที่พรรคเพื่อไทยจะยกเลิกการประกันรายได้ โดยใช้การจำนำพืชผลแทน ถ้ากลับไปใช้ระบบนั้น จะมีปัญหาการคอร์รัปชันกับสต๊อกอย่างแน่นอน และมีการวิเคราะห์ว่ากลับไปใช้ระบบจำนำแล้วเปิดเสรีด้วย ซึ่งตนต้องใช้คำว่าอาจจะนำอนาคตของข้าวไทยไปสู่หายนะ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าประกันรายได้พลิกฟื้นชีวิตของเกษตรกร ตนเชื่อขณะนี้คนกรุงเทพฯ กำลังดูความเป็นจริงของนโยบาย เช่น มี 2 พรรคที่พูดเรื่องการขึ้นค่าแรง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวกับประชาชน ไม่เอาเรื่องล้างผิด นิรโทษกรรมเป็นตัวตั้ง และตนมั่นใจในการตัดสินใจของประชาชน