“สมศักดิ์” ซัด กรรมการบริหารเสียงข้างมาก ขัดคำสั่งหัวหน้าพรรค ร่วมโหวตโน ผิดกฎหมาย บิดเบือนใส่ร้าย ขัดเจตนารมณ์พรรค แอบอ้างใช้โลโก้ ลั่นฟ้องฐานยักยอกเงินบริจาคแน่หลังเลือกตั้ง จวกพวกไร้อุดมการณ์
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ แถลงตอบโต้กรณีที่ นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ และ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค จัดการสัมมนากรรมการบริหารพรรคเสียงข้างมาก และมีมติรณรงค์โหวตโนร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนที่ผิดระเบียบข้อบังคับและผิดกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ตามมาตรา 17 ที่กระทำการโดยขัดคำสั่งหัวหน้าพรรค และผิดมาตรา 25 ที่ระบุว่า ผู้ไม่มีอำนาจในนามพรรคกระทำการใดในนามพรรคการเมือง หรือใช้เครื่องหมายพรรค ต้องโทษจำคุกหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และหากบุคคลใดกลั่นแกล้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร โดยไม่มีข้อมูลความเป็นจริง รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนสมคบกัน มีโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนด 5 ปี
“การกระทำของ นายสุริยะใส นายสำราญ และกรรมการบริหารอีกส่วน จงใจบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย ทำให้เกิดความเสียหายแก่พรรคการเมืองและผู้สมัคร และเป็นการกระทำขัดต่อเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมือง และทั้งชีวิตผมเรียกร้องประชาธิปไตย คนที่จะทำงานเพื่อประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ จะต้องมาลงสมัครแข่งขันในการเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่กลุ่มดังกล่าวกลับไปอ้างชื่อ และโลโก้พรรคการเมืองใหม่ ทำให้ประชาชนสับสน เข้าใจผิดว่า พรรคการเมืองใหม่ ร่วมรณรงค์โหวตโน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่า ได้ส่งผู้สมัครทั้งบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต ทั่วประเทศทั้งหมด 24 คน ได้ผ่านการรับรองคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนจาก กกต.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้พรรคการเมืองใหม่จะต้องรณรงค์หาเสียงอย่างเต็มที่ แต่ผลจะออกมาอย่างไรจะได้หรือไม่ได้ขึ้นกับประช่าชนว่าจตัดสินในเลือกใคร หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้วจะดำเนินการฟ้องร้องกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งทางแพ่งทางอาญาที่ได้ร่วมกันยักยอกเงินบริจาคของพรรคของนายสุริยะใส 6.5 แสนบาท และกรรมบริหารพรรคคนอื่นอีกรวม 1 ล้านกว่าบาทและยื่นฟ้องต่อ กกต.ให้ตัดสิทธิออกจากกกรรมการบริหารพรรค เพราะคนเหล่านี้ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองต้องทำตามเถ้าแก่ชี้นิ้วสั่ง