“ชุมพล” ชี้ “เติ้ง” หวังสะกิดสติปรองดอง แนะ “ปู” อย่าถือสาพวกอารมณ์ค้างขุดอดีตเล่น

หัวหน้าชาติไทยพัฒนา ไม่ประมาทฐานเสียงกรุงเก่า ชี้ “เติ้ง” พูดสร้างละครแค่ไม่อยากให้เครียด หวังสะกิดสติ “ปู-มาร์ค” เชื่อไม่ทำจริง แนะ “ยิ่งลักษณ์” อย่าถือสาโดนเล่น หยัน “หมอตุลย์-แก้วสรร” ล่าชื่อจะมีคนลงสักกี่คน อ้างรัฐไม่ฟันตั้งนานแล้วแสดงว่าเรื่องไม่มีน้ำหนัก แขวะพวกอารมณ์ค้าง แต่คงไม่เกี่ยวบางพรรค แนะลืมอดีต เชื่อไม่มีผลตัดสินอนาคตประเทศ ขอบคุณ “เสี่ยอ่าง” พูดช่วยพรรคดัง แนะ พธม.ทำป้ายนึกถึงชาติ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ช่วยนายนพพร วณิชวรพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.พระนครศรีอยุธยา หาเสียงว่า เขต 5 ที่เป็นฐานเสียงของนายนพพร ถือว่าไปได้ แต่อย่างไรเราก็คงไม่ประมาท คณะทั้งหมดทั้ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกพรรคได้มาช่วยย้ำนโยบายของพรรคที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะอำเภอเสนา ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ พรรคมีนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้วจึงอยากให้ชาวอยุธยาช่วยเลือกผู้สมัครของพรรค เพราะเท่าที่ดูได้รับการตอบรับดีพอสมควร

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ต่างไม่ตอบรับละครปรองดองคล้องใจนั้น นายชุมพลกล่าวว่า ไม่น่าจะง่ายขนาดนี้ เพราะนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพียงแต่ตั้งตุ๊กตาขึ้นมาเท่านั้น เพื่อให้บรรยากาศการเมืองไม่ตึงเครียด และต้องการชี้นำว่าต่อไปควรจะหันหน้าเข้ามาหารือกัน จึงยกตุ๊กตาเป็นเพียงตัวละครเท่านั้นเอง เพราะเอาจริงๆ ท่านคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก เป็นเพียงการชี้หรือสะกิดสติสัมปชัญญะของคนทั้งสองว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศชาติเราต้องอยู่รอด บ้านเมืองต้องเดินหน้า ต้องพัฒนาประชาธิปไตยต่อไป ถ้ายังตึงกันอยู่อย่างนี้ก็ไปไม่รอด ซึ่งเป็นนโยบายปรองดองที่เราชูขึ้นมา แต่สองท่านนั้นไม่เข้าใจ ไม่รับมุก คล้ายๆ ว่าตรงเกินไป เหมือนจะไปเล่นละครกันจริงๆ

“ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในแวดวงการเมืองมานานแล้ว จึงพยายามคลี่คลาย โดยยกตัวอย่างเป็นตุ๊กตา จะไปบอกตรงไปตรงมาก็ไม่ได้ ใครที่พอจะมองเห็นน่าจะเข้าใจปัญหาได้ดี ถ้าจะแสดงละครกันจริงๆ ผมคงต้องหาโปรโมเตอร์สร้างละครได้ แต่นี้ไม่ใช่ความจริง ท่านเพียงยกตุ๊กตาแค่เพียงเป็นอุทาหรณ์สะกิดความรู้สึกของทุกฝ่ายให้เข้าใจ มันถึงเวลาที่จะต้องมาปรองดองซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะที่ยกตัวละคร 2 ตัวขึ้นมา เพราะเป็นคู่กรณี แต่นี้ไปเข้าใจท่านผิดหมด ตื้นเกินไปหน่อย” นายชุมพลกล่าว

เมื่อถามว่า เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษคอร์รัปชันทักษิณ ยื่นเรื่องร้องไปยังคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ให้ตรวจสอบการให้การกรณีซุกหุ้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายชุมพลกล่าวว่า ก็เห็นยื่นร้องกันแค่ 2 คน และทั้ง 2 คนก็เป็นคนละฝ่ายกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำไมไม่เอาคนกลางมาร้อง ตนคิดว่าน้ำหนักการร้องก็เห็นชัดเจน ประชาชนคงตัดสินได้ว่าอะไรคืออะไร เพื่อประโยชน์อะไร ฝ่ายคุณยิ่งลักษณ์ก็อย่าไปถือสาอะไร การเมืองเวลานี้ขุดอะไรได้ก็ขุดมาเพื่อให้มีผลต่อฐานเสียง โดยเฉพาะในขณะนี้โพลทุกโพลออกมาเพื่อไทยได้คะแนนนำทั้งนั้น คนที่ไม่ชอบใจก็ชักเริ่มเป็นห่วง ถ้าเกิดกลับมาอีกก็จะมีปัญหาต่อไป ก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของคนที่จะแสดงออก แต่ถ้าจะถือมาเป็นตัวปัจจัยวินิจฉัยอนาคตประเทศไทยคงไม่ใช่เลย

ผู้สื่ข่าวถามว่า เวลานี้ถึงขั้นมีการตั้งโต๊ะล่าชื่อแล้ว นายชุมพลกล่าวว่า ก็ให้ 2 คนไปล่าชื่อกันเอง จะดูว่าจะมีคนมาลงชื่อกี่คน ความจริงกฏหมายและคนที่มีอำนาจเขาก็ดำเนินการได้แล้ว แต่เขาไม่ดำเนินการก็แสดงว่า น้ำหนักของเรื่องมันไม่มี หรือไม่มากเพียงพอ แต่สองคนนี้ถือเป็นคนนอกไม่มีประโยชน์หรือมีส่วนได้เสีย โดยเฉพาะบางคนอยู่ คตส.มาก่อนด้วย เมื่อถามต่อว่า มีการระบุว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองบางพรรค นายชุมพลกล่าวว่า ตนไม่คิดอย่างนั้น แต่คิดว่าเป็นอารมณ์ค้างมาก่อน มาตั้งแต่อดีตก่อนปี 49 มากกว่า อยากจะให้ลืมกันเสียที เรื่องเก่าๆ อย่าไปขุดคุ้ยกันขึ้นมา มันจะมีประโยชน์อะไรกับการเมืองในอนาคตของเมืองไทย เราต้องมาอยู่จุดกึ่งกลาง ต้องรู้จักเสียสละคนละนิดคนละหน่อยให้ลืมอดีตเสีย เพราะทุกฝ่ายบอบช้ำกันแล้ว อย่าให้มันบอบช้ำอีก และที่สำคัญอย่าให้ประเทศบอบช้ำอีก

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่จู่ๆ มีการหยิบยกเรื่องอดีตขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นายชุมพลกล่าวว่า ข่าวก็คือข่าว ขุดก็คือขุด แคะก็คือแคะ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยอะไรที่จะไปตัดสินอนาคต การเมืองไทยไม่ใช่ ก็เป็นห่วงตอนนี้อยากให้ทุกฝ่ายถอยละกันไปเถอะ ลืมเรื่องเก่า แล้วตั้งต้นกันใหม่ ไปจมปรักกับอดีตมีอารมณ์แค้นตลอดเวลา แล้วอย่างนี้เมื่อไรบ้านเมืองจะไปได้ เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุว่าจะทำละครชื่อเรื่องปลาไหลขี่ชาละวัน ภาคพิศดาร พาดพิงพรรคชาติไทยพัฒนานั้น นายชุมพลกล่าวว่า ที่มาพาดพิงอย่างนี้ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาดังขึ้น ต้องขอบคุณนายชูวิทย์ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาดังขึ้นอีก เพราะพรรคเราชื่อใหม่ ที่นายชูวิทย์พูดถึงคือพรรคชาติไทยที่เป็นพรรคเก่า

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคเพื่อฟ้าดิน ออกป้ายโหวตโนใหม่ที่ระบุว่าหนีเสือปะจระเข้นั้น นายชุมพลกล่าวว่า ก็เป็นสไตล์ไม่ได้ต่างจากรูปแบบเดิม แต่อยากจะขอร้องภาพการเมืองของเมืองไทยกำลังจะเดินไปข้างหน้า ซึ่งดีอยู่แล้ว ชาวต่างชาติเวลานี้ได้เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งหลายประเทศ ไม่อยากให้ภาพอย่างนี้สะท้อนไปให้คนต่างชาติเห็นว่าการเมืองไทยยังเป็นในลักษณะนี้ไม่สวยงาม เท่ากับฟ้องประเทศไทยไปในตัว ตนเห็นว่าคนทำต้องคิดถึงประเทศไทยมากกว่าคิดถึงตัวเอง อย่าไปคิดถึงความคั่งแค้นของตัวเองให้มาก ต้องเอาความอยู่รอดของประเทศไทยเป็นหลัก โดยชาติไทยพัฒนาจะพยายามทุกวิถีทาง ไม่เชื่อรอดู