“ประพันธ์” แย้ม “แม้ว” ได้สัมปทานน้ำมันอ่าวไทย ยืมมือ “มาร์ค” ช่วยสมประโยชน์

“ประพันธ์” เผยน่าเชื่อว่าบริษัทขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยที่ได้สัมปทานเป็นบริษัทเครือข่าย “แม้ว” โดย “พรหมมินทร์” เซ็นใบอนุญาตให้แล้วตั้งแต่สมัยนั่งนายกฯ พร้อมยืมมือ “มาร์ค” เดินหน้าเรื่องปักปันเขตแดนไทย-เขมร ชี้ถ้าทำสำเร็จยิ่งสมประโยชน์ ลั่นผิดหวัง “ประยุทธ์” เตรียมส่งแม่ทัพ พธม.ที่เป็นหญิงล้วน ไปทวงถามการทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (6 มิ.ย.) เวลาประมาณ 21.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ในช่วงการชุมนุมโค้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันที่ 29 มิ.ย. อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม รายงานไปแล้วว่าวันที่ 17 มิ.ย. เราจะไปที่ยูเนสโก นอกจากนั้น อ.เทพมนตรี ก็ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ให้เดินทางไปสังเกตการณ์การประชุมที่ยูเนสโกเพื่อนำหนังสือไปประท้วงและคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกที่กรุงปารีส นี่ก็ด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ของพี่น้อง

ที่จะไปยูเนสโกก็เพื่อแสดงจุดยืนว่าประชาชนไทยทั้งประเทศ ไม่เห็นด้วยกับการที่ยูเนสโกจะไปสนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชาในกรณีปราสาทพระวิหาร และไม่เห็นด้วยกับการที่คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกตามคำร้องขอของกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียว เพื่อขอให้คณะกรรมการมรดกโลกถอนทะเบียนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกกรณีนี้ออกจากบัญชีทะเบียนมรดกโลกของการประชุมครั้งนี้

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า เราได้เรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพผลักดันกัมพูชาออกจากตลอดแนวชายแดน รวมทั้งพื้นที่ 4.6 ตร.กม. โดยได้ทำหนังสือไปยังเหล่าทัพทุกเหล่าทัพแล้ว แต่รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับเพิกเฉยและยังสั่งให้ผบ.เหล่าทัพเหล่านั้น ไม่ต้องฟังเสียงประชาชน นี่คือท่าทีของฝ่ายความมั่นคงและทหาร เมื่อไม่ทำหน้าที่เราเลยคิดว่าน่าจะมีกิจกรรมอีกอันหนึ่งคือจะส่งแม่ทัพตัวจริงของพวกเรา เอาเฉพาะผู้หญิงล้วนๆ ไปเยี่ยมแม่ทัพบก ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อทวงถามการทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและดินแดนของชาติ

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า วันนี้กองทัพถูกพี่น้องทั้งในและต่างประเทศโทรไปต่อว่า ซึ่งตนได้ฟังคนไทยที่โทรไปคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ เขามองว่าประชาชนที่ออกมานี่ก่อความวุ่นวาย บ้านเมืองวุ่นวายเพราะแก๊งข้างถนน บอกให้คนไทยในอเมริกาอย่ามาฟังแก๊งข้างถนนพวกนี้ ทัศนคติเรื่องนายวีระ-น.ส.ราตรี ก็ไม่ต่างจาก พล.อ.ประวิตร คือมองว่าคนไทยรุกล้ำไปในแดนกัมพูชา

พี่น้องคนไทยเล่าให้ฟังอย่างนี้ ถ้าไม่จริงก็ออกมาแถลงสิว่ามีจุดยืนในเรื่องชาติเรื่องแผ่นดินอย่างไร แต่ถ้าหุบปากก็แสดงว่าคิดแบบนี้จริงๆ  ถ้าคิดอย่างนี้ก็ไม่ควรเป็นผบ.ทบ. ควรลาออกได้แล้ว น่าเสียใจที่สุด เพราะเราผิดหวังมาจาก พล.อ.อนุพงษ์แล้ว

วันนี้ได้เป็น ผบ.ทบ.ก็ไม่เห็นจัดการภัยเสื้อแดง ไม่จัดการปัญหาการรุกรานของเขมร ไม่ปราบปรามพวกโกงกิน พวกล้มเจ้าเลย แถมให้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ไปเบิกความเป็นประโยชน์แก่ขบวนการล้มเจ้าอีก วันนี้ตนสิ้นศรัทธา และไม่นับถือในฐานะเป็นผบ.ทบ.เลยจนกว่าจะเอาแผ่นดินคืน ตนจะไปกราบเท้าเลย แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ก็ลาออกได้แล้ว

“ทหารอาวุโสได้ส่งทั้งทหารรุ่นพี่รุ่นน้อง ทหารพี่เลี้ยง ไปคุยกับคุณ คุณยังมีท่าทีเพิกเฉยในการปกป้องแผ่นดิน แล้วยังสมควรเป็นผบ.ทบ.หรือไม่ ถึงบอกว่าวันนี้ระดับหัว 2-3 คนนี้ คือตัวปัญหาของชาติ ถ้ายังอยู่เป็น ผบ.ทบ. อีก 3-4 ปี บ้านเมืองพินาศฉิบหายแน่ เชื่อถือไม่ได้หรอกนายคนนี้” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ที่นายสนธิไม่มา คงไปเตรียมข้อมูล อีกประเด็นที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ ในยุคที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ช่วงนั้นตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นรมว.พลังงาน ไปคุม ปตท. ช่วงนั้น นพ.พรหมินทร์ได้เซ็นใบอนุญาตให้บริษัทสำรวจขุดเจาะน้ำมันต่างชาติ 5 แปลง ซึ่งจดทะเบียนที่เกาะเคย์แมนบ้าง บริติชเวอร์จินบ้าง ซึ่งไม่ปรากฎว่าเป็นบริษัทสัญชาติใด ใครถือหุ้น อันนี้เรากำลังสงสัยว่าบริษัทที่ได้รับอนุมัตินั้นจะเป็นบริษัทในเครือข่ายนายทักษิณและระบอบทักษิณ

“ถ้าทักษิณกลับมามีอำนาจคราวนี้ และงานเรื่องทะเบียนมรดกโลก เรื่องการปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา โดยยืมมือนายอภิสิทธิ์ทำไปแล้วเรียบร้อย ก็จะยิ่งสมประโยชน์กับแปลงสัมปทานที่เขาได้ไป ขณะนี้ 5 แปลงที่ได้ไปแล้วน่าเชื่อว่าเป็นกลุ่มธุรกิจในเครือข่ายทักษิณและระบอบทักษิณ เรื่องนี้จะตามเอาข้อมูลมาแฉ ว่าการเมืองวันนี้ไม่ได้โกงกินแค่ในบ้านเมือง แต่มันขายชาติขายแผ่นดินกินกันเลย” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า เกมนี้มันไม่ใช่เกมปลีกย่อยต้องมองภาพรวมทั้งหมด ทำไมไทยไม่กล้าเลิกเอ็มโอยู 43 ก็เพราะมันถูกขี่คอโดยผลประโยชน์ของกลุ่มทุนยักษ์ขนาดมหึมา ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะไม่เลิกถ้าไม่ถูกผูกโยงกับผลประโยชน์นี้

จำได้หรือไม่ตอนนายทักษิณขายหุ้นให้เทมาเส็ก เขาบอกว่าจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจแหล่งพลังงาน มันจึงเป็นการให้ นพ.พรหมินทร์ ปูทางไว้โดยการได้แปลงสัมปทานน้ำมันในทะเลและอ่าวไทยไว้หมดแล้ว หมายความว่าถ้าเขากลับมามีอำนาจน้ำมันของประเทศทั้งหมดที่มีอยู่ ตามที่เปิดเผยขณะนี้ 5.5 ล้านล้านบาร์เรล  และอาจมีมากกว่านี้ แต่ต่อให้มีมากเท่าไหร่ก็ตามแต่ถ้าสัมปทานตกไปเป็นของเอกชน ประเทศจะได้ประโยชน์อะไร เพราะนักการเมืองมันปล้นไปหมดแล้ว และพรุ่งนี้นายสนธิคงมาพูดให้พี่น้องฟัง

คำต่อคำ

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ และกราบสวัสดีพี่น้องทางบ้านและที่อยู่ต่างประเทศทุกท่านนะครับ ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ยินพิธีกรประกาศ เพราะว่า มีพี่น้องพันธมิตรมาจากอุดรฯ จะมาบริจาคเงินก็เลยมัวแต่จดตัวเลข ตกตะลึงกับตัวเลข เพราะพี่น้องพันธมิตรอุดรฯมาบริจาคหลายแสนครับพี่น้อง อยู่ข้างหลังเวที ผมจดมาได้ 2 รายการว่า บริจาคช่วยมูลนิธิทวงคืน กองทุนทวงคืนเขาพระวิหาร 1 แสน บริจาคช่วย ASTV ไม่ให้จอดับ 5 หมื่น และยังไม่พอกำลังจะจดอีก พวกนั้น เดี๋ยวจดให้เรียบร้อยแล้วค่อยเอาขึ้นมาประกาศอีกรอบก็ได้ ปรบมือให้กับพี่น้องพันธมิตรจากอุดรฯด้วยครับ ซึ่งก็เป็นพี่ที่เคารพรักอย่างสูงกับกระผม และท่านมาเยี่ยมให้กำลังใจที่หลังเวที ยามใดที่ไปสัญจร หรือไปกิจกรรมของพี่น้องพันธมิตรในอีสาน อุดร ขอนแก่น ก็ได้พี่คนนี้เป็นพ่อยกพันธมิตรตัวจริง เป็นผู้ที่ให้กำลังสนับสนุนเข้มแข็งที่สุด จนกระทั่งวันนี้ ท่านก็ยังเป็นผู้สนับสนุนที่เข้มแข็ง แต่ไม่พอเปิดเผยและเอ่ยนาม หรือเปิดเผยชื่อเท่านั้นเอง ปรบมือให้กับพี่น้องพันธมิตรอุดรด้วยครับ ถ้าจดตัวเลขเรียบร้อยแล้วก็ค่อยเอาขึ้นมานะครับ ท่านมาเซ็นเช็คให้หลังเวทีเลย

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ ก่อนจะมาขึ้นเวที ได้ฟังรายการเสวนาวิชาการของอาจารย์ปานเทพ กับ อ.เทพมนตรี ท่านคงไม่แปลกใจว่าทำไม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงรักอาจารย์ปานเทพ ปานจะกลืนกินด้วยเหตุฉะนี้ เมื่อก่อน อ.ปานเทพ ไม่ใช่คนที่วิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ถึงกึ๋นขนาดนี้ ผมก็เข้าใจว่า คุณปานเทพ เป็นโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมเป็นโฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เจอกันทุกวัน เจอกันทุกเช้า นั่งติดกันแถลงข่าวประชุมร่วมกัน มันคงซึมไปถึงกันได้นะครับ เลยทำให้วันนี้ เราได้ฟังการวิจารณ์วิพากษ์ หรือปอกเปลือกชำแหละ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เขียนบทความผ่านเฟสบุ๊คของตัวเอง ออดอ้อนรำพึงรำพันนะครับ เพื่อหาเสียงกับประชาชน แต่ปรากฏว่า ทั้งหมดนั้นเป็นรายการ แหลอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรนั่นเอง ครับพี่น้องครับ จึงทำให้เราได้ฟังทั้ง อ.ปานเทพ และ อ.เทพมนตรี ได้วิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลโดยเฉพาะได้ชำแหละความเป็นตัวตัวของนายอภิสิทธิ์ ให้พี่น้องประชาชนเห็นจนหมดเปลือก ชนิดที่ผมคิดว่า เขาได้ฌาปนกิจศพ และได้เผากันไปแล้ว ผมคงแค่มาเก็บขี่เถ้าเท่านั้นเอง ครับพี่น้อง เป็นการชำแหละ และเป็นการให้ข้อเท็จจริง ให้ปัญญากับประชาชนอย่างมีเหตุมีผล มีข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดครับพี่น้อง ครับ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดครับ พี่น้องครับ ทางการเมือง การบริหารประเทศนั้นคือ ใครที่เรารู้ว่าเป็นคนเลว เป็นคนชั่ว เป็นคนโกงนั้น ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร เพราะเรารู้ตัวตน และเห็นได้ง่าย ใช่ไหมครับ แต่คนบางคนเราไม่รู้ มาในคราบผู้ดี คราบนักการเมืองหนุ่ม มาในคราบคนรุ่นใหม่ มาในคราบของคนที่เป็นอนาคต เป็นความหวัง มีวาทะ สำบัดสำนวนดูดี มีความรู้ แต่งกายน่าเชื่อถือ แต่แท้ที่จริงไม่ได้ต่างจากนักการเมืองที่เราเคยสัมผัสเลย ที่ประเภทว่า เลว ชั่ว โกง และไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนนั้น มันไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ในเวทีที่มองคน นักวิเคราะห์ทางการเมืองเขาจึงให้ความสำคัญกับคนเลว ที่ซ่อนรูป และไม่เปิดเผย อำพรางตัวเอง คนประเภทนี้ เป็นคนที่อันตรายที่สุดกว่าคนที่เราเห็นครับพี่น้อง ครับ บางคนจะได้ยินสำนวนว่า ไอ้ลูกปืน กระสุนนี่ หรือมีด ดาบ หอก ที่จะมาทิ่มแทง เข่นฆ่าทำร้ายประชาชน ไอ้เราเห็น เราหาทางป้องกันตัวเองได้ แต่ถ้ากระสุนปืนที่เคลือบน้ำตาล มีดที่เคลือบน้ำตาล หรือคมที่อยู่ซ่อน มีดที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง ประชาชนมองไม่เห็น กว่าจะรู้ตัวเป็นกระสุน กว่าจะรู้ตัวเป็นมีด กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นศาสตราวุธที่อันตราย ชีวิตของประชาชนก็คอขาดร่วงกระเด็นลงพื้นไปเสียแล้ว ไอ้ตรงนี้ซิครับ น่ากลัวกว่าทางอื่นใดทางการเมือง ครับพี่น้อง

วันนี้ การเมืองของพวกเรา ประเทศของเรา ประชาชนจำนวนไม่น้อยยังหลงเชื่อ ที่งมงาย หลงกับรูป หลงกับสำนวนโวหาร หลงกับภาพมายาที่นักการเมืองแสดงให้ประชาชนดู เหมือนกับเราหลงไปพระเอกละครน้ำเน่า ไม่ต่างกันเลยครับพี่น้อง นี่คือความอับจนปัญญา หรือเสียหาย หรือหายนะที่กำลังครอบงำประเทศไทยเราอยู่ แต่เมื่อใดที่พี่น้องประชาชนมีปัญญาเหมือนพวกเรา เหมือนที่ อ.ปานเทพ ชี้ให้พี่น้องเห็น แล้วถ้าทุกคนในประเทศนี้ รู้ทัน รู้ไส้นักการเมืองเสียแล้ว เชื่อได้ว่า วันข้างหน้านักการเมืองคงหลอกลวง หลอกต้มพี่น้องประชาชนไม่ได้ ประเทศจะมีความมั่นคง จะเจริญอย่างแน่นอน ถ้าพลเมืองไทย มีความชาญฉลาดอย่างพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับ

การเลือกตั้งที่พี่น้องเห็น หยิบหนังสือพิมพ์มา เห็นไหม ดูภาพนี้ นายกฯ ไปดำนากับชาวนาที่สุโขทัย ตั้งแต่เกิดมามีบรรพบุรุษคุณ ชื่อตระกูลเวชชาชีวะ คุณเคยทำนารับประทานหรือเปล่าครับ พี่น้องครับ เคยปลูกข้าวให้ใครกินบ้างหรือเปล่า แล้วทำไมวันนี้ ดันทะลึ่งไปแสดงอาการที่จะดำนาปลูกข้าว โอ้ รู้สึกสัมผัสชีวิต เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชนเหลือเกิน ตอนมึงอยากได้คะแนน ตอนหาเสียงเลือกตั้ง พอหลังจากนั้น ไม่รู้เรื่องเลยครับ ราคาข้าวเป็นอย่างไร การจำนำข้าวเป็นอย่างไร แล้วจะบอกให้การประกันรายได้พืชผลเกษตรกร เป็นวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบอัปยศพอๆ กันกับนักการเมืองคนอื่นๆ ไม่ต่างกันครับ ไม่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชน แก้ไขปัญหาให้นายทุนพ่อค้าข้าว การประมูลขายข้าวที่เอาเปรียบชาวนาต่างหาก ที่ประชาชนอยากเห็นคุณแก้ ไม่ใช่มาสร้างภาพ ตอแหลแบบนี้ ใช่ไหมครับพี่น้อง

ส่วนอีกภาพ นี่รักลูกเหลือเกิน หาเสียงอยู่ยังปลีกเวลามาหาครอบครัวมาหาลูก สร้างภาพกันไปครับ แต่ความจริงแล้วเธอไม่ธรรมดา ชนักติดตัวของตัวเธอก็เต็มลาย เอาว่าความผิดทั้งหลายที่ทักษิณมี ถ่ายทอดผ่านดีเอ็นเอมายังน้องสาวหมดครับ วิธีการทำมาหากิน วิธีหลีกเลี่ยงภาษี วิธีซุกหุ้น โกงหุ้น ทุกอย่าง เธอเรียนรู้วิทยายุทธจากพี่ชายหมด และเธอคงรอรับชะตากรรมไม่ต่างอะไรกับพี่ชาย เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะได้นักการเมืองประเภทอย่างนี้ครับ ถ้าพี่น้องประชาชนยังนิยม และชื่นชมกับนักการเมืองประเภทนี้ หรือสื่อมวลชนยังคงโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพหาเสียงแบบเล่นละครมายาตบตาประชาชน ของนักการเมืองแบบนี้ โดยเนื้อหาสาระที่นักการเมืองจะทำ หรือจะแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง มองไม่เห็นเลยว่าคืออะไร บ้านเมืองก็มองไม่เห็นอนาคตด้วยประการฉะนี้ครับพี่น้อง เพราะฉะนั้น ที่เรารณรงค์โหวตโนนั้น จึงมีเหตุผลที่สมควรที่สุดแล้วนะครับ

พี่น้องครับ เมื่อเย็นนี้ อ.ปานเทพ และเทพมนตรี คงได้บอกกิจกรรมกับพี่น้องไปแล้ว วันนี้ ผมก็จะไม่พูดอะไรเยอะ แต่จะพูดเรื่องที่เกี่ยวกับกิจกรรมของพี่น้อง และเรื่องที่น่าสนใจบางประเด็นเท่านั้นเอง นะครับ เรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมของพี่น้องในช่วงการชุมนุมโค้งสุดท้าย ก่อนจะถึงวันที่ 29 มิถุนายนนั้น คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้ประชุมวันนี้ เราก็มีการหารือกันหลายเรื่อง เรื่องหนึ่ง อ.เทพมนตรี กราบเรียนท่านไปแล้วว่า เราจะไปที่ยูเนสโกวันที่ 17 มิถุนายน และหลังจากนั้น อ.เทพมนตรี ก็ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ในนามพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมกันที่นี่ ให้เดินทางไปสังเกตการประชุมที่ยูเนสโก เพื่อนำหนังสือไปประท้วง และคัดค้านการจดทะเบียนให้ปราสาทพระวิหาร ของกัมพูชา ขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่กรุงปารีสครับ

นี่ด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ของพี่น้องครับ และที่เราจะไปที่ยูเนสโก เพื่อไปแสดงจุดยืนนะครับ แสดงเจตนารมณ์ว่า ประชาชนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะพวกเราที่ชุมนุมอยู่ขณะนี้ ไม่เห็นด้วยกับการที่ยูเนสโก จะไปสนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา กรณีปราสาทพระวิหาร และไม่เห็นด้วยกับการที่คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาให้ปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ตามคำร้องขอของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว นั่นคือ เราคัดค้านและไม่เห็นด้วยขอให้กรรมการมรดกโลกถอนเรื่องนี้ออกไป จนกระทั่ง หรือเขาเรียกว่า ถอนทะเบียนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกกรณีนี้ ออกจากบัญชีทะเบียนมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประชุมคราวนี้ ตามกฎของยูเนสโกด้วยที่เราจะไปยื่น นี่คือการทำหน้าที่ของประชาชนชาวไทยครับพี่น้อง อย่างพวกเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ทำ แต่เราคนไทยจะไม่ยอมเพราะการขึ้นทะเบียนมรดกโลก นำมาซึ่งปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา นำมาซึ่งการสูญเสียดินแดนและเอกราชอธิปไตยของประเทศ ซึ่งประชาชนไทยยอมไม่ได้ และเรื่องนี้ เราจะไปแสดงเจตนารมณ์ต่อยูเนสโกที่ประเทศไทยด้วยครับ

นี่เป็นกิจกรรมอันหนึ่ง ที่คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรได้พิจารณาว่า เราต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ถึงที่สุด ข้อเรียกร้องเรื่องของขอให้ถอนจากมรดกโลกนั้น การไปวันที่ 17 และให้ อ.เทพมนตรี ไป ก็ไปภายใต้ข้อเรียกร้องข้อนี้ แต่ ยังมีข้อเรียกร้องอีกข้อ ที่เราเรียกร้องเอาไว้คือ เราเรียกร้อง ให้รัฐบาล กองทัพ ใช้กำลังกดดันคนกัมพูชา และทหารกัมพูชาที่มายึดครองแผ่นดินไทย ตลอดแนวชายแดน รวมทั้งพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ออกไป โดยเด็ดขาดและทันที นี่คือข้อเรียกร้องของเรา และเมื่อสัปดาห์ก่อน เราได้ส่งหนังสือ จดหมายไปถึงกองทัพ ถึงเหล่าทัพทุกเหล่าทัพแล้ว ให้ทำหน้าที่ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ แต่ว่า รัฐมนตรีกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับเพิกเฉย และยังให้ ผบ.เหล่าทัพ เหล่านั้นเก็บหนังสือของเราใส่ลิ้นชักไว้ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องฟังเสียงพี่น้องประชาชน นี่คือท่าทีของฝ่ายความมั่นคงและทหาร ครับพี่น้องครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ เมื่อบรรดาแม่ทัพนายกองที่มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ไม่ทำหน้าที่ เราส่งจดหมายไปแล้วยังเพิกเฉย เราก็คิดว่า ควรมีกิจกรรมอีกอัน ซึ่งเราหารือไป นั่นคือ เราจะส่งแม่ทัพตัวจริงของพวกเรา เอาเฉพาะแม่ทัพนะครับ ไม่เอาพ่อทัพนะครับ เอาเฉพาะผู้หญิงล้วนๆ อาจมีคุณป้าสำเนียง และพี่น้องคนอื่นๆ นะครับ ที่เป็นผู้หญิงเตรียมตัวไว้ เราจะต้องส่งแม่ทัพของเราไปเยี่ยมแม่ทัพบก กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อทวงถามการทำหน้าที่ปกป้องเอกราช ดินแดน และอธิปไตยของชาติ นี่เป็นกิจกรรมอีกอัน ซึ่งขณะนี้ ฝ่ายแม่ทัพกำลังเตรียมการไม่รู้ว่า จะใส่ผ้าถุงกันไปทั้งหมดทุกคน หรือจะไปทำกิจกรรมอย่างไรก็ตามแต่ แต่เจตนารมณ์อยู่ที่จะไปพูด บอก ฐานะที่กองทัพเป็นลูกหลาน เป็นที่พึ่ง เสาหลักของประชาชน

เมื่อวันนี้ ประชาชนเห็นว่า แผ่นดินถูกรุกราน กัมพูชายึดครองแผ่นดินไทย ท่านไม่ทำหน้าที่ เราจะไปบอกและกระตุ้นว่า พี่น้องประชาชนพร้อมตาย และอาสามาปกป้องชาติ ปกป้องแผ่นดินแล้ว พวกท่านทำอะไรอยู่ จึงไม่พร้อมปกป้องชาติ บ้านเมือง กับพี่น้องประชาชน และจะไปพูดบอกแบบฉันท์มิตร แบบประชาชนที่ห่วงใยและรักกองทัพ อยากให้กองทัพเรียกเกียรติภูมิ และศักดิ์ศรีตนคืนมาด้วยการทำหน้าที่ปกป้องชาติ เอกราช และอธิปไตยของตนเท่านั้น ที่จะทำให้เกียรติภูมิของกองทัพได้รับการชื่นชม ยอมรับจากพี่น้องประชาชนไทย วันนี้ กองทัพถูกพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ โทรศัพท์เข้าไปต่อว่า เข้าไปตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ ผู้บัญชาการเหล่าทัพแทบทุกวัน และประชาชนไม่สบายใจ ไม่พอใจ ทำให้ทหารจำนวนมาก เขาก็ไม่สุขใจ และเสื่อมเสียเกียรติยศศักดิ์ศรีของเขา ว่าทำไม ผู้บังคับบัญชาของเขา ฝ่ายนโยบายจึงไม่สั่งให้เขาทวงคืนและลุยเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาเสียทีครับพี่น้องครับ แต่ปัญหาพี่น้องก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้ พวกเราสงสัยคือ รัฐมนตรีกลาโหม กับ ผบ.ทบ. นั้น มีทัศนคติ และวิธีคิดที่แย่มากในการปกป้องผืนแผ่นดินของตน

ผมได้ฟังคนไทยที่เขาโทรศัพท์ไปคุยกับ ผบ.ทบ.ด้วยตนเอง เขาพูดด้วยความอิดหนาระอาใจ และแทบจะร้องไห้ ไม่เชื่อกับหูตนเองเลยว่า คนระดับ พล.อ.ประยุทธ์ จะพูดอย่างนี้กับประชาชนไทย เขามองว่า ประชาชนที่ออกมาเป็นพวกก่อความวุ่นวาย บ้านเมืองที่วุ่นวาย เป็นเพราะพวกแก๊งข้างถนนเหล่านี้ พี่น้องครับ และบอกให้คนไทยในอเมริกาอย่ามาฟังความเห็นคนข้างถนน มองเช่นเดียวกับนายสุเทพ เลยว่า บ้านเมืองวุ่นวายนั้น เป็นเพราะเหลืองกับแดง มองเช่นกันกับนายอภิสิทธิ์ ว่า ที่บ้านเมืองวุ่นวาย และตัวเองได้เป็นนายกฯ เพราะความวุ่นวายของสถานการณ์การเมือง ที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เอาดีแต่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ผมถึงบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และทัศนคติต่อคุณวีระ และราตรี ที่ถูกจับ ก็ไม่ดีครับ มีลักษณะพูดไม่ต่างอะไรกับ พล.อ.ประวิตร หาว่าคนไทยไปรุกล้ำดินแดนเขา พี่น้องครับ

ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะพี่น้องคนไทยเล่าให้ฟังอย่างนี้ ถ้ามันไม่จริง ท่านก็ออกมาแถลงอย่างชายชาติทหารซิว่า ท่านมีจุดยืนเรื่องชาติ บ้านเมือง แผ่นดินอย่างไร ครับพี่น้อง แต่ถ้าท่านหุบปากไม่กล้าแถลง ชี้แจงข้อเท็จจริง แสดงว่าคนไทยเขาว่า คุณคิดอย่างนี้จริงๆ ใช่ไหมครับพี่น้อง ถ้าคุณคิดแบบนี้ ก็ไม่เหมาะสมเป็น ผบ.ทบ. ควรลาออกได้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมคิดว่า น่าเสียใจที่สุด เป็น ผบ.ทบ. ที่น่าเสียใจที่สุด เพราะอะไร เราผิดหวังจาก พล.อ.อนุพงษ์ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ทำเป็นลิงละครแหกตา ผู้หลักผู้ใหญ่ วันที่อวยพรป๋าเปรม จำได้ไหม พล.อ.ประวิตร อนุพงษ์ อวยพรอยู่วงหนึ่ง ประยุทธ์ อวยอยู่ทำท่าเป็นวงหนึ่ง ทำท่าเหมือนไม่ใช่พวกเดียวกันกับอนุพงษ์ ประวิตร จนป๋าเปรม ชมว่า ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่ดี ปกป้องชาติ ราชบัลลังก์ ทำหน้าที่รบมา จำได้ไหมครับพี่น้อง มาถึงวันนี้ ได้เป็น ผบ.ทบ.แล้ว ไม่เห็นกำจัดพวกภัยเสื้อแดง ไม่เห็นกำจัดภัยจากการรุกรานจากเขมร ไม่เห็นปราบปรามคนโกง คนทุจริต และขบวนการล้มเจ้าเลย นอกจากให้ทหารไปแจ้งความและหายจ้อยไปเลยครับพี่น้อง แถมยังให้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ไปเบิกความเข้าข้างเป็นประโยชน์กับขบวนการล้มเจ้าซะอีก นี่หรือจุดยืนของคุณ ผมถึงบอกว่าวันนี้ ผมสิ้นศรัทธา และไม่นับถือคุณในฐานะคุณเป็น ผบ.ทบ.เลย จนกว่า คุณจะยึดแผ่นดินคืน ผมกล้าไปกราบเท้าคุณเลย ถ้ากล้าไล่เขมรออกไป แต่ถ้าคุณเป็นแบบนี้ ผมไม่นับถือความเป็นชายชาติทหารของคุณเลย คุณควรลาออกได้แล้ว เล่นละครแหกตาเท่านั้น ไม่ใช่ชายชาติทหารจริงครับ เอาแค่นี้ เรียกว่า พอแล้ว สำหรับพลเรือนอย่างผมที่พูดกับคุณ ส่วนทหารอาวุโส เขาสับคุณไปเละเทะแล้ว เขาส่งทั้งทหารรุ่นพี่ รุ่นน้อง ส่งทั้งทหารพี่เลี้ยง ที่เคยเป็นลูกพี่คุณโรงเรียนนายร้อย ไปคุยกับคุณ คุณยังมีท่าทีแบบนี้ และเพิกเฉยต่อการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ แล้วคุณสมควรจะเป็น ผบ.ทบ. ไหม

เพราะฉะนั้น ผมถึงบอกว่า วันนี้ บ้านเมืองระดับหัว 2-3 คนนี้ คือ ตัวปัญหาของชาติครับพี่น้อง พูดได้เต็มปากเลย ถ้าบ้านเมืองยังมีคนพวกเนี้เป็นใหญ่ และคุณยังคิดว่าคุณจะอยู่เป็น ผบ.ทบ.อีก ถึง 3-4 ปีเหรอ บ้านเมืองพินาศฉิบหายแน่ เชื่อถือไม่ได้หรอกนายคนนี้ เล่นละครลิง ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เอาแค่นี้ก็แล้วกันครับพี่น้อง เพราะฉะนั้น กิจกรรมหนึ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือ เราต้องการไปกระตุ้น และให้กำลังใจทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชา คนอื่นๆ เขาจะได้คิดและสำนึกว่า การที่นายไม่สั่ง นายมีเหตุผลอะไรจะชี้แจงกับลูกน้องและประชาชนครับ เราอยากฟัง ว่าทำไมคุณปล่อยให้เขายึดครองแผ่นดินไทยอยู่ และนายทหารที่เคยดูแลรักษาแผ่นดินไทยตลอดแนวนี้ ไล่มาตั้งแต่คนที่เขาเป็นนายร้อย นายพัน นายพล หรือวันก่อนที่ พ.อ.วินัยท่านพูด วินัย สมพงษ์ คนที่เคยอยู่แถวนี้เขาปกป้องแผ่นดินมาหมด ทำไมตกถึงยุคคุณ และยุคนายทหารยุคนี้ บ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้ คุณไปอ้าง MOU43 ไม่ได้ อ้างฝ่ายการเมืองก็ไม่ได้ ใช่ไหมครับพี่น้อง ไม่มีข้ออ้างด้วยประการทั้งปวง

ส่วนวันนี้ ที่พี่สนธิไม่มา ไม่ใช่อะไร คงไปเตรียมข้อมูลใหญ่ ผมคิดว่า มีประเด็นที่พี่สนธิชี้เอาไว้ และเป็นเรื่องใหญ่ ที่ผมจะเตรียมมาพูดกับพี่น้องในวันต่อไป นั่นคือ ในยุคสมัยที่ ทักษิณ เป็นนายก ทักษิณ ตั้งนายแพทย์พรหมมินทร์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ไปคุม ปตท. ช่วงนั้น พรหมมินทร์ ได้เซ็นใบอนุญาตให้บริษัท สำรวจขุดเจาะน้ำมันต่างชาติ 5 แปลง ซึ่งจดทะเบียนที่เกาะ ไม่ปรากฏว่า เป็นบริษัทสัญชาติใด ใครเป็นผู้ถือหุ้น อันนี้ เรากำลังหาข้อมูลสงสัยว่า ไอ้บริษัทที่ถูกอนุมัติให้ได้สัมปทานขุดเจาะสำรวจน้ำมันนั้น อยู่ในเวลาที่เรากำลังสืบค้นหาข้อมูล สงสัยว่า จะเป็นบริษัทในเครือข่ายของทักษิณ และระบอบทักษิณครับ ถ้าทักษิณ กลับมาเข้ามีอำนาจคราวนี้ และงานเรื่องทะเบียนมรดกโลก การปักปันเขตแดน ดำเนินการไป โดยยืมมือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทำไปเรียบร้อยแล้ว ผลประโยชน์ของชาติอันมหาศาล ที่จะทำให้การขีดเส้นแบ่งอาณาเขตนั้น กินล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ทางทะเลของเรานั้นยิ่งจะสมประโยชน์กับแปลงสัมปทานที่เขาได้ไปแล้ว ขนาดนี้ 5 แปลงที่ได้ไปแล้ว น่าเชื่อว่า เป็นกลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของทักษิณ และระบอบทักษิณ ซึ่งเรื่องนี้ เราจะตามเอาข้อมูลมาแฉให้พี่น้องรู้ว่า การเมืองวันนี้ มันไม่ใช่โกงทุจริตแค่ในบ้านในเมืองเท่านั้น มันขายชาติขายแผ่นดินกินกันเลยครับ พี่น้อง

นี่คือเรื่องหนึ่งที่เราจำเป็นต้องขุดคุ้ยต่อไปนะครับ ในฐานะพวกเราที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องดินแดนเอกราช และอธิปไตย และประโยชน์แห่งชาติ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน ผมถึงบอกว่า ที่คุณสนธิพูดวันนั้น ว่าเกมนี้ ไม่ใช่เกมเรื่องปลีกย่อย เรื่องเล็กน้อย มรดกโลกนะ ต้องมองทั้งหมดว่า มหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างหาก ที่เป็นเรื่องสำคัญ และ ทำไมประเทศไทยจึงไม่กล้าเลิก MOU 2543 ก็เพราะมันถูกครอบงำขี่คอโดยกลุ่มผลประโยชน์ขนาดยักษ์ ขนาดมหึมาอยู่ครับพี่น้อง ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะไม่เลิก ถ้ามันไม่ถูกผูกโยงกับเรื่องผลประโยชน์ที่ว่า และพี่น้องจำได้ไหม ในครั้งที่ทักษิณขายหุ้นให้ เทมาเส็ก ทักษิณประกาศ เขาจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจใหม่ นั่นคือ หันไปลงทุนในเรื่องแหล่งพลังงาน นี่จึงเป็นที่มาให้พรหมมินทร์ปูทางไว้ก่อน คือการได้แปลงสัมปทานน้ำมันในอ่าวไทย และทะเลไว้หมด นั่นหมายความว่า ถ้าเขากลับมามีอำนาจ น้ำมันในประเทศทั้งหมดที่มี 5.5 ล้านล้านบาร์เรล จริงๆ ตัวเลขอาจมากกว่านี้ ถึงแม้มีเท่าไร แต่ถ้าสัมปทานตกเป็นของเอกชนแล้ว ประเทศไทย ประชาชนจะได้อะไร เพราะนักการเมืองปล้นไปหมดแล้ว นี่คือเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดกับพี่น้อง และวันพรุ่งนี้ คุณสนธิคงมาพูดให้พี่น้องฟังในรายละเอียดต่อไป

กิจกรรมที่พูดไปเมื่อสักครู่ คงต้องรอการประสานจากแม่ทัพ ซึ่งมอบให้แม่ทัพติ๊ก มาลีรัตน์ นั่นแหละช่วยประสาน กับบรรดาแม่ทัพของเราทั้งหมด ที่จะไปเยี่ยมกองทัพบกซะที พี่น้องเห็นด้วยไหมครับ พร้อมจะไปไหมครับ อ้าว วันนั้น ขอเป็นงานแม่ทัพเขา พ่อทัพเฝ้าบ้าน อย่าไปไหน เขาเตรียมงานกัน อาจไปพร้อมๆ ไล่เลี่ยกับจะไปยูเนสโก พี่น้องจะได้ช่วยกันยืดเส้นยืดสาย ส่วนพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ท่านสะดวกมาร่วมกิจกรรมกับพวกเรา นะครับ ในช่วงที่จะไปยูเนสโกก็ดี ที่จะไป ทบ. ก็ดี หรือจะไปร่วมกิจกรรมรณรงค์โหวตโน ที่ อ.ปานเทพ ได้แจ้งไปแล้ว เพราะเราจะมีการไปทำขบวนแห่รณรงค์เดินโหวตโน พี่น้องไม่ต้องไปกลัว พวกเพื่อไทย พวกเสื้อแดง ก็รณรงค์โหวตเยส และทำไมลื้อไม่ไปจับเขา เราก็ไปรณรงค์โหวตโน นะครับ เขาก็ขึ้นป้ายรณรงค์โหวตโน

เพราะฉะนั้น วันนี้ เรื่องการรณรงค์โหวตโน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย และเราก็เอาตัวอย่างบัตรเลือกตั้งมาให้ดูแล้ว ในช่องบัตรเลือกตั้งจะอยู่ข้างล่าง มุมขวา ช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน วันนี้ ผมก็คุยกับเจ้าหน้าที่ กกต.หลายท่าน แลกเปลี่ยนความรู้ทางกฎหมายว่า เรื่องนี้ ขอเรียนว่า ท่าน กกต.ทั้งหลาย ท่านต้องใช้วิจารณญาณให้ดี อาจมีผู้มาร้องเรียนเยอะแยะ เป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งมีคนร้องเรียนเยอะ ยิ่งดี มีคนช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เรา ยิ่งมีนักการเมืองร้อนรนเท่าไร ให้ข่าววิพากษ์วิจารณ์วันนี้ โหวตโน กลายเป็นเรื่องพูดกันทั้งบ้านทั้งเมืองครับ และทุกคนเตรียมไปลงคะแนน ในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใคร ในกฎหมายเลือกตั้ง ประกาศระเบียบของ กกต.เอง ก็บอกแล้วว่า ระเบียบป้ายที่จะติด โฆษณาหาเสียงนั้น จะต้องมีป้าย มีข้อความ มีสัญลักษณ์พรรค ก็แล้วแต่ แต่ไม่ได้มีข้อห้าม มีรายละเอียดอื่นใด ว่า ห้ามใช้รู้นั้น รูปนี้ ใช้ภาพนั้น นี้ ไม่มี เพราะฉะนั้น การกระทำของพี่น้องในการณรงค์นั้น ถือว่า ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง และ 2 ในนิยามคำว่า หาเสียงนั้น การหาเสียงของพรรคการเมืองทำได้ ทั้งรณรงค์ให้เขาเลือกตัวเอง และถ้าพี่น้องประชาชน เห็นว่า ผมไม่ดีพอ ท่านก็ไม่ต้องเลือกกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน เขาก็รณรงค์ได้ หรือเราอาจจะไปรณรงค์ในเชิงความคิด อุดมการณ์ จุดยืนของพรรค ว่า พรรคเราส่งเสริมคนดี ปกครองบ้านเมือง ถ้าท่านเห็นว่า ยังไม่มีใครดีพอ ท่านก็ไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ป้ายหาเสียงของแต่ละพรรคก็ไม่จำเป็นต้องมีรูปหัวหน้าพรรค หรือมีเบอร์ผู้สมัคร ก็สามารถติดได้ เพียงแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายเท่านั้นเอง ครับ พี่น้อง ก็ไปติดได้เช่นเดียวกับป้ายรณรงค์หาเสียงพรรคอื่นๆ การณรงค์นี้ยังเป็นสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย และก็ไม่ได้เป็นการห้าม ทั้ง กกต. ก็ยังไม่เคยมีนิยามว่า การหาเสียงควรทำอะไร พูดอะไร ได้ไม่ได้ ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในการแสดงความคิดเห็น จุดยืน ความคิดอ่านทางการเมืองของประชาชน หรือของพรรคการเมือง ท่านจะไปตีความทึกทักเอาเอง ว่าอันนั้น ทำได้ อันนี้ไม่ได้ กกต.ต้องระวังให้ดี ท่านก็มีสิทธิ์อาจถูกฟ้องฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ

ณ วันนี้ คณะกรรมการ กกต.ทั้ง 5 ท่าน ยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยเลยว่า ป้ายของเราที่รณรงค์โหวตโน หรือของพรรคเพื่อฟ้าดิน นั้น เป็นการกระทำที่ผิด หรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร เพราะฉะนั้น ตำรวจก็ดี เทศกิจก็ดี เจ้าหน้าที่รัฐ ก็ดี ไม่มีอำนาจและไม่มีสิทธิ์ทำลายรื้อถอนป้ายเหล่านั้น ครับ และขณะนี้ กกต. และเจ้าหน้าที่ กกต.กรุงเทพฯ เฝ้าติดตามดูอยู่ และเห็นว่า มันยังไม่เป็นไป ในขณะที่เป็นการผิดกฎหมาย เขาจึงปล่อยให้เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพของประชาชน และทุกคนมีความเห็นว่า กกต. ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปเปิดฉากรบกับประชาชน และพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะเหลือเวลาเพียง 20 กว่า วันจะเลือกตั้งแล้ว ใช่ไหมครับ พี่น้อง หากจะมีปัญหากฎหมายเรื่องนี้ ก็ต้องให้ศาลวินิจฉัย และ กกต.หรือเจ้าหน้าที่ค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร ซึ่งแน่นอน ระยะเวลาเพียง 10 กว่าวัน 20 วัน ไม่ทันพอที่ใครจะวินิจฉัยหรอก และเท่าที่ดู การดำเนินการของทุกฝ่าย ทุกคน ก็เป็นการหาเสียงที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย และอยู่ในขอบเขตกฎหมายทั้งสิ้น พี่น้องมั่นใจและเดินหน้ารณรงค์โหวตโนได้เต็มที่ครับ พี่น้อง

พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดจะมาร่วมกิจกรรมกับพวกเรา ท่านไม่เดือดร้อน ไม่ขัดข้องในการเดินทาง ไม่มีปัญหาภาระหน้าที่การงาน ค่าใช้จ่าย มาร่วมกิจกรรมกับพี่น้องในช่วงโค้งสุดท้ายได้นะครับ เพราะว่า หยุดจากการชุมนุมรอบนี้แล้ว คงต้องพักยาวหลายเดือน เพื่อดูสถานการณ์ แต่มีพี่น้องแสดงความเห็นเหมือนกันว่า ก่อนจะปิดการชุมนุม ถึงโค้งสุดท้าย ควรมีกิจกรรมครั้งใหญ่ซักครั้งไหม เพื่อเรียกพี่น้องเรามาร่วมกิจกรรมกันเหมือนที่เราเคยรำลึก 193 วัน แต่เราจะร่วมชุมนุมเพื่อประกาศเจตนารมณ์ หรือมีกิจกรรมสำคัญร่วมกันก่อนแยกย้ายไป ถ้าวันนั้น มีผู้เสนอเหมือนกัน เอาไว้เป็นเรื่องที่เราจะหารือกับคณะกรรมการอีกครั้งว่า ก่อน ไหนๆ ถ้าจำเป็น เราจะเลิกชุมนุมวันใด ควรมีพิธีอำลาอาลัยบ้าง ควรมีสัญญาให้ไว้ต่อกันบ้าง เรายังต้องมีพันธกิจที่ทำร่วมกันในเรื่องใดบ้าง ควรต้องมีกิจกรรมที่จะสร้างความประทับใจและความผูกพันในหมู่พวกเราให้เหนียวแน่น พร้อมประกาศจุดยืนและภารกิจที่จะทำต่อไป อันนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่เราต้องหารือกันต่อไปนะครับ วันนี้ ผมก็เล่าเรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง เล่าเรื่องนู้นนี้ สู่พี่น้องฟัง เล่าข่าวให้พี่น้องฟัง เมื่อกี้ได้ตัวเลขหรือยังครับ ตัวเลขบริจาค ถ้าได้ขึ้นมาได้ เดี๋ยวประกาศให้

ก่อนถึงตรงนั้น ผมขออ่านจดหมายก่อน มีพี่น้องจากเพิร์ท อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ท่านเขียนจดหมายมา และร่วมบริจาคเงินมาด้วย เป็นเงินทั้งสิ้น 14,000 บาท นับเลย... มี 12,150 บาท ขอร่วมบริจาคสนับสนุนเครื่องนอน สิ่งของเครื่องใช้ช่วยพี่น้องชายแดน 4,000 บาท และยังสนับสนุนช่วย ASTV 2,000 บาท เขาพระวิหาร 2,000 บาท รณรงค์โหวตโน 1,000 บาท อีก พันบาท เป็นค่าส่งแผ่นซีดี คือให้ผมช่วยส่งแผ่นซีดี และท่านอยากได้หนังสืออะไรต่างๆ มาด้วย นี่เป็นน้ำใจจากพี่น้องชาวไทยที่เพิร์ท ปรบมือให้ท่านด้วยนะครับ และท่านก็บอกว่า ท่านติดตามเราทุกวัน และขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ที่ร่วมต่อสู้ครั้งนี้

สรุปในส่วนพี่น้องพันธมิตรอุดร ส่งบริจาคอย่างนี้ บริจาคให้กองทุนสู้คดี 10,000 บาท ให้มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน 50,000 บาท ทวงคืนเขาพระวิหาร 50,000 บาท ให้ ASTV 50,000 ครับ รวมแล้วเป็น 160,000 บาท ขอบคุณพี่น้องพันธมิตรอุดร เห็นไหม ใครอุดรมีแต่เสื้อแดง โถ่ คุณไม่รู้ พี่น้องครับ พรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่รู้ว่า คนที่เป็นพันธมิตรโดยไม่เปิดเผยตัว น่ากลัวที่สุดครับ และใจถึง ของเรามีพันธมิตร 3 ประเภท ประเภทหนึ่งคือ พันธมิตรหน้าเวที ไม่มีขาด นี่มีคนขอเบอร์ ขอชื่อแล้วนะ มีพันธมิตรหน้าจอคนหนึ่งหนุ่ม หน้าใส มาไม่ได้ขาด ไปไหนแล้วครับวันนี้ บอกนั่งอยู่แถวนี้ บอกเวลาร้องเพลงรำสวยมาก มีคนขอชื่อขอเบอร์แล้ว แล้วผมจะถามให้ เขาบอกมองมาทีไรหน้าเวที เห็นทุกที ไม่ไปไหน ไม่เคยขาดแม้วันเดียว คนนี้ก็ไม่เคยขาด และนี่หมวยก็ไม่เคยขาด คือมานี่จะเห็นพวกเรา และพี่น้องที่มาทั้งหมด ประเภทที่ 1 พันธมิตรหน้าจอ เมื่อไร ก็ยืนหยัดเหนียวแน่น ไม่มีถอย ระเบิดลงกี่ลูกกูก็ไม่ไปครับ พี่น้อง พันธมิตรประเภทที่ 2 คือ พันธมิตรหน้าจอ คือ เป็นพันธมิตรเต็มตัว กล้าประกาศกับทุกคน แต่ติดภารกิจบ้าง ดูอยู่ที่บ้าน และส่งเงินส่งทองมาบริจาคเสมอเหนียวแน่น ทั้งในและต่างประเทศ นี่ก็ปรบมือให้ประเภทที่ 2

ประเภทที่ 3 คือ พันธมิตรหน้าเงียบเลยครับ คือ กูเป็นพันธมิตรแบบไม่บอกใครครับ พี่น้องรู้ไหม เยอะจริงๆ ผมกลับจากกระบี่ ขึ้นเครื่องบิน จะลงเครื่องบิน มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาข้างๆ ผมก็นึกว่าทำไมเดินมากระแซะข้างๆ ผม แกก็บอก อิฉันก็พันธมิตรๆ ได้แบบนี้เยอะมาก และบอกว่า ไงครับ โหวตโนๆ ทั้งบ้านเลย บอกงี้ อยู่กระบี่ อยู่ใต้ และอีกคนมากับลูกน้อง ผมพันธมิตร ขอถ่ายรูปๆ คือจะพูดดังก็ไม่กล้า ไอ้แบบนี้เยอะจริงๆ ครับพี่น้อง และพร้อมโหวตโน พวกนี้พร้อมส่งเงินส่งทองและไม่บอกใคร ไอ้ที่ไม่บอก ไม่อยากให้ใครรู้เพราะอะไร 1 รำคาญ พวกเสียงนก เสียงกา เสียงหมู เสียงหมา เสียงแมว ไอ้พวกปากเสียทั้งหลายมาข้องแวะ 2 มาทำลายความเป็นส่วนตัว เขาไม่อยากมีเรื่องกับใคร ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับบัวใต้น้ำ 3 คือ เขาไม่อยากให้ใครมองเขา แล้วมาขัดขวางการทำงาน การทำมาหากิน การทำธุรกิจของเขา บางทีเขาไม่อยากกระทบกระเทือน แต่เขาเป็นพันธมิตรล้านเปอร์เซ็นต์ ผมไปเจอครอบครัวที่สนามบิน เพราะผมมีบัตรทองที่เข้าไปนั่งในเลาจ์ได้ ผมไปเจอ มี ครอบครัว พ่อแม่ อาแปะ อาซิ้ม ลูกสะใภ้ ประมาณ 7-8 คน เกือบ 10 คน ผมก็มอง ทำไมมองผมอยู่เรื่อย แต่เขาไม่กล้าทัก แต่พอผมเดินเฉี่ยวไปใกล้ๆ ให้กำลังใจอยู่ตลอด ดูตลอด แต่ไม่กล้าพูดดัง และปรากฏพี่น้อง ถ้าผมเอ่ยชื่อ พี่น้องจะแปลกใจ เป็นพ่อค้าขายทองอยู่เยาวราช รายใหญ่ ผมอ้อ

เพราะฉะนั้นแบบนี้ เยอะพี่น้อง พี่น้องไม่ต้องห่วง เรามีมิตรทั่วโลกมีมิตร ทั่วประเทศ มีคนเข้าใจเห็นใจ และร่วมกับพวกเรามากมาย เพราะไม่งั้นเราอยู่ไม่ได้ถึงทุกวันนี้หรอก เพราะฉะนั้น วันนี้ ไอ้จดหมายของคุณอภิสิทธิ์ที่เขียนมานี่ ที่แกโพสลงไปในเฟสบุ๊ค วันนี้ ฟังคุณปานเทพชำแหละหมดแล้ว พี่น้องจะหูตาสว่างหมด และคนที่มาแสดง ขนาดผมไปโรงแรมชั้นหนึ่ง 5 ดาว ไปทานข้าว คนซึ่งเรานึกว่า ไม่รู้จักผม แต่เขามาเป็นพันธมิตร และกล้าแสดงตัวเลย และเป็นที่มีฐานะมีความรู้ มีการศึกษา มีเงินทอง ว่างั้น และเป็นพันธมิตร 100% แต่ก่อนนี้ เขาจะพูดกับผมตรงๆ แต่ก่อนไม่ชอบคุณประพันธ์เลย ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณอภิสิทธิ์ แต่วันนี้ ไม่มีอะไรเลย ที่คุณประพันธ์พูดแล้วไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับคนๆ นี้ และผมไปเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เมื่อกลางวันนี้ ท่านพูดกับผมตรงๆ ว่า นี่นะ ผมไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ เมื่อก่อนฟังคุณพูด ผมไม่ชอบคุณเลย นี่พูดตรงๆ แต่วันนี้ ผมรู้ว่าคุณพูดตรงไปตรงมา และเป็นความจริง และในชีวิตผม ผมยังไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหน กล้าตอแหลประชาชนได้ขนาดนี้

พี่น้องฟังแล้วกันครับ นี่ไม่ใช่คำพูดผมนะครับ เป็นคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเห็นแล้ว เขาไม่น่าเชื่อ จะเป็นคนที่ทำได้ถึงเพียงนี้ เขางง เพราะเขาเคยเห็นแต่ภาพที่ สวยงาม ของคนๆ หนึ่ง แต่ยิ่งวันนี้ ไปดำนา ไปทำนู้นนี่ เขาบอกเห็นปุบ ปิดทีวีเลย เขาสะอิดสะเอียนมาก คือมันไม่เป็นของจริง แล้วมันพูดเอาแต่ตัวเอง ทั้งหมดนี้ เพื่อจะบอกพี่น้องว่า มีพี่น้องที่เขียนจดหมายมาถึงผมเยอะมาก ส่งเงินทองจดหมายเป็นตั้ง นี่มาจากการบินไทย การบินไทยพันธมิตรที่เชียงใหม่ แปลกนะครับ มาจากทุกภาค ภาคเหนือจากเชียงใหม่บอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งในการชุมนุมต่อสู้ของพี่น้องประชาชน บอกว่า ตอนอภิสิทธิ์อยู่ทำไม ไม่ทำเรื่องนู้น เรื่องนี้ คือไม่จัดการระบอบทักษิณ รวมทั้งเรื่องแผ่นดิน อธิปไตย คนไทยเหล่านี้เห็นการทำงานของคุณอภิสิทธิ์แล้ว แทบไม่น่าเชื่อ เขาเขียนมานะครับจากเชียงใหม่ พันธมิตรเชียงใหม่ แล้ววันนี้ พันธมิตรเชียงใหม่โทรมาหาผม พันธมิตรอยู่ทุกจังหวัดในประเทศไทยครับ

ส่วนอันนี้ ผมขออนุญาตอ่าน เป็นพันธมิตรจากยโสธร เห็นไหม ใครบอกอีสานเป็นดงเสื้อแดง พวกประเภทที่ไม่อยากให้ใครรู้จักอยู่อีสานเยอะครับ พี่น้อง แบบประเภทไม่อยากให้ใครรู้ เพราะเบื่อรำคาญพวกเสื้อแดง เพราะพวกเสื้อแดงบางทีระราน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ช่วงหลังดีขึ้นหน่อย มันไม่กล้าไปยุ่ง เพราะหลังจากฟังผมวิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์แล้ว มันก็รู้สึกเข้าใจคนเสื้อเหลืองมากขึ้น ครับพี่น้อง เท่านั้นเอง ว่า ทุกคนก็มีหัวอกเดียวกันคือ ไม่ชอบนักการเมืองโกง ไม่ว่าพรรคไหน เขาเลยเห็นว่า เราตรงไปตรงมา ท่าทีแข็งกร้าวแต่ดั้งแต่เดิมลดน้อยลง กลายเป็นบางที่บางแห่ง เสื้อเหลืองเสื้อแดงมานั่งฟังประพันธ์พูดร่วมกัน นี่เรื่องจริงนะครับ ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยยังมี ทีนี้ ยโสธร คนอีสานบ้านผม ใกล้กัน ผมเกิดอุบลฯ จังหวัดติดกัน ก็อย่าคิดว่าคนเขียนกลอน เขียนเป็นเฉพาะคนอยุธยา อ่างทอง คนภาคใต้นะ คนอีสานกวีดังๆ ก็มีเยอะ จะบอกให้ อย่างนายเปลื้อง วรรณศรี ก็เป็นกวีดังภาคอีสาน และนี่ ยโสธรเขียนมา เขียนว่า ...

" จะหน้าเหลี่ยม หน้าหล่อ ก็เลวล้วน จึงสมควร โหวตโน โอเคไหม พัฒนาชาติเก่า ไม่เข้าใจ ภูมิใจไผ พี่น้อง ลองใคร่ครวญ ประชาวิบัติ ดัดจริต ผิดสังเกต ทำประเทศ ย่ำต๊อก หลอกครบถ้วน ใครแยกถิ่น แยกไทย ให้ทบทวน มันสมควร ปฏิรูป ทุกการเมือง" ไม่ธรรมดาเห็นไหมครับ คนอีสานนี่เก่งนะ ใช้ได้ "เลือกซ้ำซาก หน้าเก่าๆ เฝ้าทูญเทิด คิดดูเถิด ชาติยับยู่ หรือฟูเฟื่อง ปลาแดกบอง ในกล่องคอมพ์ ย่อมมะเรือง แต่ว่าเรื่อง รสชาติ ทายามยี้" คือปลาแดกบอง คือปลาร้า แจ่วปลาร้า มันอยู่ในกล่องคอมพ์ ย่อมมะเรือง แต่ว่าเรื่องรสชาติ ทายาทยี้ ภูมิใจเหลือ เผื่อไผ ตรองให้ชัด ประชา ธีปัตย์ คร่ำคร่า เพราะทาสี จะหน้าซื่อ หน้าหล่อ ขอไปที ขายความดี แต่พูด พิสูจน์มา" แต่งใช้ได้ " ขายคำพูด สร้างภาพ อาบน้ำผึ้ง แต่พอถึง คราวภัย ไม่เห็นหน้า ตะวันเน่า เข้าขวดใหม่ ไล่ชาวนา นี่ละหนา อะเมซิ่ง แท้จริงเธอ" " เจ้าบิ๊กเริ่ม ขยับ กลับตำแหน่ง ปรับสีแสง เป็นกล่ำ ยังป้ำเป๋อ แต่คนดี ยังมีมาก ถ้าอยากเจอ ถอดความเซ่อ จากฤดี เห็นสีทอง" คุณเชียง ชาญณรงค์ นะครับ 161 หมู่ 4 บ้านหนองแวง ต.นาเวียง อ.ทรายมูล จ.ยโสธร นี่ถ้าคุณอภิสิทธิ์ จะไปมอบแหวนเพชรให้เขาก็ไปได้นะครับ ไม่ใช่ไปหลอกเอาแต่แหวนทองเหลืองพี่น้องผม

วันนี้ มีอารมณ์นะ ส่วนท่านนี้ก็เขียนมาดีมาก ท่านเป็นผู้หนึ่งที่รู้เรื่องปราสาทพระวิหารอย่างดี และเขียนจดหมายมาตั้ง ครม. ให้เรียบร้อย ผมไม่กล้าประกาศ เพราะประกาศแล้ว เดี๋ยวจะไม่ได้เป็น ตั้งให้คนนั้นเป็นนายกฯ รองนายกฯ คนนี้ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ น่าจะเหมาะ ก็ขอบคุณนะครับ ที่ท่านให้กำลังใจพวกเรา แต่ที่สำคัญ ท่านผู้นี้ส่งภาพมาเลย เห็นไหม เป็นภาพที่ท่านเคยขึ้นไปที่ปราสาทพระวิหาร และเคยไปทำหน้าที่ ผมเคยเข้าใจว่าท่านไปนั่งอยู่บนจุดสูงสุด สันปันน้ำ บนยอดเขาพระวิหาร ด้านเป็นเขมร เขามานั่งถ่ายรูปที่นี่แล้ว คนๆ นี้ และขึ้นไปกับเพื่อนร่วมงาน ไปเที่ยว หรือปฏิบัติงาน นี่ไม่ทราบ บางคนแต่งเครื่องแบบ แต่ที่สำคัญ ท่านไปนั่งถ่ายรูปกับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ที่ทหารไทยยิงตกที่มาบินอยู่ตรงนี้ ท่านก็ถ่ายรูปมา เพื่อยืนยันว่า แผ่นดินไทยตรงนี้ เคยขึ้นไป มันเป็นของคนไทย นั่งบนผา จุดสูงสุดสันปันน้ำ บนยอดเขาเลยครับ และยืนยันว่า แผ่นดินตรงนี้ เป็นของคนไทย และท่านรู้สึกเสียใจที่รัฐบาลทหารไม่ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินของตนเอง เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไม นายกฯ กับ ผบ.ทบ. และรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ในการยึดเอาแผ่นดินตนเองคืนมาก่อน ก่อนจะพูดอะไรทั้งสิ้น ต้องยึดเสียก่อน ใช่ไหมครับพี่น้อง

เอาละครับ นี่ก็คุยไปสัพเพเหระหลายเรื่อง ได้สาระอยู่นะ คงไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางเท่าไร ทีนี้เพลง กลอนก็มีหลายท่านเขียนมา แต่ไว้วันหลังค่อยว่าอีกที เพลงนี้ อยากให้ดูเพลงนี้ก่อน มีคนส่งเพลงเข้ามา เพลงไม่ยาวหรอกครับ เขาแต่งตอนที่บ้านเมืองถูกเผาโดยฝีมือคนไทยกลุ่มหนึ่ง และเขารู้สึกสะเทือนใจ น้องคนนี้ เป็นคนที่พูดง่ายๆ คือ ชอบ และนิยมพวกเรา และเป็นนักแต่งเพลงที่อยู่เบื้องหลังนักร้องหลายคน แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตนมาก เขาก็ส่งเทปเพลงนี้มาให้ เป็นเพลงชื่อเพลง คนไทยด้วยกัน หรือ We Are Thai Together ผมก็อยากให้พี่น้องฟังอันนี้ก่อน ก่อนจะฟังผมร้อง ผมพักดื่มน้ำก่อนนะครับ

(... เปิดเพลง We Are Thai Together ... )

นี่ก็เป็นเพลงของน้องๆ ที่เขาอยากส่งมาร่วมกับการชุมนุมของพวกเรา ท่านก็ส่งเข้ามาในเฟสบุ๊คผม และผมเห็นว่า เนื้อหาดี และเป็นอย่างน้อยคือ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิด่อชาติบ้านเมือง และเห็นว่า เราคนไทยด้วยกัน เราควรรักประเทศไทย เราเกิดในแผ่นดินไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ ครับ ที่ดีที่สุด เท่าที่ประเทศไทยเราเคยมีมา และเป็นที่ยกย่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เรามีทุกสิ่งทุกอย่างดีหมด เสียอย่างเดียวเท่านั้น คือเรามีนักการเมืองเลว เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนไทยทุกคนรักกัน อย่าไปตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง นักการเมืองหน้าเหลี่ยมก็ชักลอกชักใยประชาชนกลุ่มหนึ่ง ให้เป็นเครื่องมือตัวเอง ให้เป็นลูกค้าที่จงรักภักดี นักการเมืองหน้าหล่อ ก็พยายามจะให้ประชาชนหลงเคลิ้มกับตัวเอง แต่ไม่มีน้ำยา ฝีมือในการทำงาน ทั้ง 2 ฝ่าย ล้วนหลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เราประชาชนด้วยกันต้องรักกัน และเอาประเทศชาติบ้านเมืองเราคืนมา ใช่ไหมครับ พี่น้อง ศรัทธาของเรานี้ ต้องยิ่งใหญ่ และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น เพลงที่เราจะร้องคือ ศรัทธา นะครับ

(.. ร้องเพลง ศรัทธา .... )

ขอบคุณนะครับ.... พบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ