อดีต คตส. ผุดเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ ออกโรงเปิดเอกสาร “กล่าวโทษปู หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ในเฟซบุ๊คหลังหมอตุลย์ร้องดีเอสไอเอาผิด “ยิ่งลักษณ์” มีเอี่ยวคดียึดทรัพย์ทักษิณ ตั้งคำถามพี่ชายซุกหุ้นชิน-สั่งปล่อยกู้ซื้อสินค้าชินคอร์ป และสั่งปล่อยกู้อสังหาฯ แล้วมีเงินไหลเข้าบัญชีพี่ชาย-คนสนิทหรือไม่ ชี้คดียังค้างศาลและ ปปช. ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หวั่นกลายเป็นกฎหมู่ ตระกูลชินวัตรลอยตัวเหนือกฎหมายทันที เตรียมแถลงข่าว 7 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ในฐานะแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี พร้อมด้วยสมาชิกจากกลุ่มเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ออกมาเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 1 และเป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท จากกรณีที่ศาลได้ตัดสินให้ยึดทรัพย์คดีซุกหุ้นชินคอร์ป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกล่าวโทษกับผู้ที่อ้างถือหุ้นแทน ซึ่งรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (5 มิ.ย.) ได้มีการเคลื่อนไหวในชื่อ เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ (คนท.) นำโดยนายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการและอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้เผยแพร่เอกสารคำชี้แจงในหัวข้อ “ร่วมกล่าวโทษปู..หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ผ่านทางหน้าแฟนเพจที่ชื่อ “กล่าวโทษปู หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ค
ทั้งนี้ เนื้อหาคำชี้แจงดังกล่าวระบุว่า บ้านเมืองที่เจริญแล้วต้องปกครองทั้งโดยการเมืองและโดยกฎหมาย พรรคไหนได้เสียงเลือกตั้งข้างมากก็พาประเทศไปทางหนึ่งตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ผิดพลาดไปเลือกตั้งคราวหน้าเสียงข้างน้อยอาจขึ้นมาเป็นเสียงข้างมากพาประเทศไปอีกทางก็ได้ การเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางอย่างนี้เป็นเรื่องการเมืองที่เราท่านทุกคนต่างก็เสมอภาคกัน เลือกกันได้ต่างๆ นานาตามที่เห็นควร
“แต่ท่านที่เคารพ...เราจะเอาอำนาจที่ได้จากคะแนนเลือกตั้ง ได้จากความเสมอภาคทางการเมืองมาทำลายความเสมอภาคทางกฎหมายไม่ได้นะครับ ปัญหาทางคดีที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะซุกหุ้นธุรกิจชินคอร์ปจริงหรือไม่, พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้อนุมัติเงินกู้เพิ่มเติม 1 พันล้านบาท แก่รัฐบาลพม่า เพื่อให้พม่าซื้อสินค้าชินคอร์ปจริงหรือไม่ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจสั่งธนาคารกรุงไทยอนุมัติเงินกู้แก่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เกินหลักทรัพย์ไปกว่า 2 พันล้าน แล้วมีเงินนับร้อยล้านไหลเข้าบัญชีบุตรชายกับคนสนิทจริงหรือไม่” ในเอกสารระบุ
ทั้งนี้ คดีทั้งสามนี้ ศาลชี้ขาดยึดทรัพย์ไปแล้วหนึ่งคดี อยู่ในศาล 1 คดี อยู่ใน ปปช.1 คดี ทั้งหมดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกผิดอย่างไร ต้องตัดสินด้วยหลักฐานด้วยกระบวนการยุติธรรมที่ต่อสู้คดีกันในศาล ไม่ใช่ด้วยการให้ประชาชนลงคะแนนว่าทักษิณผิดหรือไม่ผิด หากยอมให้มีการใช้ประชามติอย่างนี้เมื่อใด ประชาธิปไตยจะล้ำแดนกฎหมายกลายเป็นกฎหมู่ ตระกูลชินวัตรจะเป็นตระกูลที่อยู่เหนือกฎหมายทำผิดไม่ได้ไปในทันที
“ต่อไปตระกูลไหนต้องคดีความก็ลงทุนตั้งพรรคการเมืองแก้กฎหมายนิรโทษกรรมตนเองได้อย่างนี้อีก ส่วนใครที่ทุจริตแต่ไม่มีเงินก็ปล่อยให้ติดคุกต่อไปอีก เราจะยอมให้เขาทำได้อย่างนั้นหรือ เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมให้เป็นเช่นนี้ “เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ”หรือ คนท.จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมมือกันขัดขวางมิให้“กฎหมู่ชินวัตร”สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม่ว่าท่านจะสีอะไรหรือไม่มีสีก็ตาม ไม่ว่าท่านจะลงคะแนนเลือกตั้งเลือกใครหรือไม่เลือกใครก็ไม่สำคัญ เพราะนั่นเป็นเรื่องการเมือง แต่นี่คือเรื่องของกฎหมายที่เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาไว้ เพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขไปชั่วลูกหลาน” ในเอกสารระบุ
เนื้อหาในคำชี้แจงยังระบุว่า เพื่อการนี้ เราจะใช้กฎหมายคุ้มครองกฎหมาย ไม่ว่าทางชินวัตรจะกลับคำอย่างไร บ่ายเบี่ยงไม่ขอพูดเรื่องนิรโทษกรรมอย่างไร เราจะไม่สนใจ เราจะยืนอยู่บนความจริงและความผิดที่เกิดขึ้นแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคพวกในตระกูล ได้ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ข้อมูลว่าตนและพวกได้ซื้อหุ้นชินคอร์ปจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว แต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กลับชี้ขาดไปแล้วว่าเป็นเท็จทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ความผิดฐานให้ข้อมูลเท็จ ทั้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่คือ คตส. และต่อศาลสถิตยุติธรรม จึงปรากฏเป็นจริงแล้ว คงรอแต่เพียงการกดปุ่มทางกฎหมายโดยการกล่าวโทษของอัยการสูงสุดหรือพวกเราเท่านั้น เราจะกล่าวโทษนางสาวยิ่งลักษณ์ และพวกต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ในการนี้เราจะไม่สนใจในความสวยใส ความน่ารักน่าคบของผู้ถูกกล่าวหา เพราะจำเลยสวยๆ น่ารักนั้นถ้าทำผิดก็ถูกศาลลงโทษติดคุกมามากแล้ว ส่วนจะขอลดโทษเพราะทำไปด้วยความรักพี่ชายและวงศ์ตระกูลนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แล้วแต่ศาลท่านจะเมตตาหรือไม่
ในตอนท้ายระบุว่า ในการนี้เราจะไม่สนใจเลยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่เราชอบหรือไม่? เราไม่สนใจเลยว่าเธอจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการกล่าวโทษของเรา? และแม้เธอจะชนะเลือกตั้งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำกล่าวโทษของเราจะทำให้เธอได้คิดและหยุดยั้งไม่ผลักดันแก้กฎหมายยุติคดีให้พี่ชายต่อไป และถ้าผู้ถูกกล่าวหายังดื้อดึงฝืนกระทำไป ก็จะกลายเป็นการปฏิบัติราชการโดยมิชอบ ใช้อำนาจเพื่อให้ตนเองได้พ้นคดีตามพี่ชายไปด้วย
“และถ้ายังฝืนไปถึงชั้นศาลโอกาสพ้นโทษของเธอก็จะเป็นศูนย์ เพราะประเด็นกล่าวเท็จนี้เป็นที่ยุติแล้วในคดียึดทรัพย์ หากในที่สุดศาลอาญาท่านลงโทษถึงจำคุก 6 เดือนขึ้นไป ผู้ถูกกล่าวหาก็จะพ้นตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งไปในทันที ทั้งหมดนี้คือการหยุดกฎหมู่ชินวัตร ด้วยมาตรการร่วมกันกล่าวโทษปู หากยังไม่ยอมหยุด ก็จะต้องตามมาด้วยมาตรการอื่นๆ ต่อไปอีก” ในเอกสารระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแฟนเพจดังกล่าวยังเผยแพร่เอกสารแบบฟอร์มลงชื่อคำกล่าวโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะนำไปยื่นต่อดีเอสไอ ทั้งนี้ คำกล่าวโทษนี้นายแก้วสรร เป็นผู้ยืนยันรับรองในความถูกต้องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และได้มอบหมายให้ นพ.ตุลย์ เป็นตัวแทนผู้มีอำนาจยื่นคำกล่าวโทษนี้ต่อดีเอสไอ โดยในวันอังคารนี้ (7 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ทางเครือข่าย คนท. จะเปิดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวที่รัฐสภา และจะรวบรวมเอกสารในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 ตึกอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์