xs
xsm
sm
md
lg

“มารไม่มี บารมีไม่เกิด” สนธิซัด“แก้ว-ตุลย์-เจิม”ผลงานปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“มารไม่มี บารมีไม่เกิด” คนเผาไทย จวก “หมอตุลย์-แก้วสรร” รังแกผู้หญิง เชื่อประชาชนสงสารเทคะแนนให้ “ยงยุทธ”ไม่ห่วง ยันมีการเตรียมแผนสองไว้แล้ว ส่วน “เจ๊ปู” ยัน พร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ แต่ต้องอยู่ภายใต้กติกา “เทือก”ปัดปชป.จับมือหมอตุลย์-แก้วสรร รุมปู ด้าน“สนธิ”ชี้“แก้วสรร-หมอตุลย์-เจิมศักดิ์” ผลงานปชป.

วานนี้(6 มิ.ย) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่1ของพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังจากลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดโพธิ์ชัย อ.เมือง จังหวัดหนองคาย โดยกล่าวถึงกรณีที่แก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส.เตรียมยื่นสอบเรื่องการซุกหุ้นนั้น ว่าตนมั่นใจว่าพร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบโดยอยู่ภายใต้กฎกติกา ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์บันได 4 ขั้นที่นำไปสู่การนิรโทษกรรม ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะเหยียบประชาชนเพื่อก้าวข้ามบันไดแต่ละขั้นนั้น โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมเป็นบันไดให้พตท.ทักษิณก้าวข้ามผ่านไปอย่างแน่นอน

ซึ่งขณะนี้ตนก็ไม่ต้องการให้พุ่งเป้าไปที่การนิรโทษกรรมและยืนยันว่าการนิรโทษไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพี่ชาย ซึ่งการจะเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรมเมื่อถึงเวลาจะต้องมากำหนดแนวทางร่วมกันและจะต้องมาฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย

ทั้งนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังระบุว่าตนไม่ทราบถึงเหตุที่ถูกพุ่งเป้าทางการเมืองแต่ยืนยันจะใช้ความอดทนทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและเดินหน้านำนโยบายเสนอประชาชนในทุกพื้นที่พร้อมทั้งมั่นใจตนเองมีความสามารถในการผลักดันให้ความปรองดองเกิดขึ้นในประเทศได้นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ยังได้ขอโอกาสกองทัพในการเข้าพบ เพราะตนเองมีความตั้งใจเพื่อจะทำให้ความปรองดองเกิดขึ้นในทุกภาคส่วน

** “มารไม่มี บารมีไม่เกิด”

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “มารไม่มี บารมีไม่เกิด” เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรที่น่าวิตก พรรคได้เตรียมตัวและทราบมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นขบวนการจ้องทำลายพรรคตลอดเวลา

“เราต้องพยายามทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังในการก้าวเดินแต่ละก้าว เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ ไม่ส่งผลกระทบทำให้พรรคได้รับคะแนนความนิยมลดลง ในทางกลับกันจะเพิ่มขึ้น ดูได้จากมวลชนที่เพิ่มขยายตัวอย่างรวดเร็วตั้งปปี 2547 เป็นต้นมา เพราะประชานส่วนใหญ่เข้าใจว่ากลุ่มคนที่เคลื่อนไหวมีเป้าหมายและมีจุดยื่นที่อยู่ฝั่งตรงข้างพรรคเพื่อไทย โดยพยายามข้องทำลายในทุกอย่าง”นายยงยุทธกล่าว

ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยให้กำลังใจ นส.ยิ่งลักษณ์ ให้รักษาความเป็นสุภาพสตรีเอาไว้ ไม่ให้นพ.ตุลย์ และ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งร่วมงานกันเป็นกระบวนการเกี่ยวโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จึงขอร้อง ปชป. อย่าใช้วิธีนี้ ควรมาแข่งขันกันเรื่องนโยบายดีกว่า และเชื่อว่า นส.ยิ่งลักษณ์จะได้คะแนนสงสารจากประชาชนเนื่องจากถูกรังแก

** พร้อมฉะ เชื่อ ปชช.รู้ดีว่าเป็นพวกของใคร

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคิดว่าเมื่อใกล้วันลงคะแนนเสียง ก็จะมีกลุ่มคนที่พยายามลดคะแนน และสกัดกั้นคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทย ตนคิดว่าประชาชนรู้ดีว่านพ.ตุลย์ และนายแก้วสรร สนิทกับพรรคการเมืองใด และมีแนวคิดทางการเมืองเช่นใด อีกทั้งการกระทำเช่นนี้ไม่มีความเป็นธรรม และไม่มีน้ำใจนักกีฬา นางแก้วสรรเคยเป็นถึงอาจารย์มาแล้ว น่าจะรู้ตัวว่าควรทำอะไร เนื่องจากอายุก็ไม่น้อยแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะเข้มแข็งพอที่จะต่อสู้และยินดีที่จะให้ตรวจสอบอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา และมีความเป็นสุภาพบุรุษ นอกจากนี้ตนยังเห็นว่าเรื่องคดีความดังกล่าวล่วงเลยมากว่า 2 ปี แต่ก็ไม่มีการตรวจสอบ แต่เพิ่งจะมีการเข้าตรวจสอบในช่วงเวลาที่ใกล้การเลือกตั้ง และก็เป็นการตรวจสอบเพราะหวังผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจดี

**ปัดปชป.จับมือหมอตุลย์-แก้วสรร รุมปู

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเครือข่าย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ถ้ามีอะไรก็ว่ากันตรง ๆ คนอื่น

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนอย่างไรกับสิ่งที่นพ.ตุลย์ออกมาดำเนินการเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ขอไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ และให้ความคิดเห็น เพราะถ้าให้ความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบก็จะมีคนมาหาเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการประชาชน ใครจะมีการเคลื่อนไหวหรือคิดอ่านอย่างไรก็เป็นสิทธิของประชาน ขอให้ว่ากันตามกฎเกณฑ์กติกา ไม่เอามาผูกพันเกี่ยวข้องกับการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ สื่อมวลชนต้องไปถามเรื่องนี้กับนพ.ตุลย์เพราะเขาแสดงตัวตนชัดเจน ตนคงให้ความเห็นไม่ได้

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการที่มิตรเก่าของพรรคประชาธิปัตย์อย่างนพ.ตุลย์ และนายแก้วสรรออกมาเคลื่อนไหวอย่างนี้จะยิ่งทำให้คะแนนสงสารเทไปให้พรรคเพื่อไทย นายสุเทพ กล่าวว่า การถามอย่างนี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย คงต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย มีคนหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวในบ้านเมือง บางครั้งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ บางครั้งคนละทิศคนละทาง

นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างกรณีที่ผ่านมาสื่อมวลชนพยายยัดเยียดว่ากลุ่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตย เป็นพวกเดียวกับตน แต่เวลานายสนธิด่าตน สื่อไม่เคยบอกเลยว่าอยู่คนละพวกกัน ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง

**“สนธิ”ชี้“แก้วสรร” ต้านนิรโทษแม้ว ผลงานปชป.

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวภายหลังเดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา คดีร่วมกันก่อการร้าย ว่าไม่เห็นด้วยหากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลจะออกกฏหมายนิรโทษกรรม และไม่แปลกใจที่กรณีนายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.ตั้งเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะ “นายแก้วสรร นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ล้วนเป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์”

**“ร่วมกล่าวโทษปู..หยุดกฎหมู่ชินวัตร”

รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการและอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้เผยแพร่เอกสารคำชี้แจงในหัวข้อ “ร่วมกล่าวโทษปู..หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ผ่านทางหน้าแฟนเพจที่ชื่อ “กล่าวโทษปู หยุดกฎหมู่ชินวัตร” ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ค

บ้านเมืองที่เจริญแล้วต้องปกครองทั้งโดยการเมืองและโดยกฎหมาย พรรคไหนได้เสียงเลือกตั้งข้างมากก็พาประเทศไปทางหนึ่งตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ผิดพลาดไปเลือกตั้งคราวหน้าเสียงข้างน้อยอาจขึ้นมาเป็นเสียงข้างมากพาประเทศไปอีกทางก็ได้ การเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางอย่างนี้เป็นเรื่องการเมืองที่เราท่านทุกคนต่างก็เสมอภาคกัน เลือกกันได้ต่างๆ นานาตามที่เห็นควร

“แต่ท่านที่เคารพ...เราจะเอาอำนาจที่ได้จากคะแนนเลือกตั้ง ได้จากความเสมอภาคทางการเมืองมาทำลายความเสมอภาคทางกฎหมายไม่ได้นะครับ ปัญหาทางคดีที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะซุกหุ้นธุรกิจชินคอร์ปจริงหรือไม่, พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้อนุมัติเงินกู้เพิ่มเติม 1 พันล้านบาท แก่รัฐบาลพม่า เพื่อให้พม่าซื้อสินค้าชินคอร์ปจริงหรือไม่ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจสั่งธนาคารกรุงไทยอนุมัติเงินกู้แก่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เกินหลักทรัพย์ไปกว่า 2 พันล้าน แล้วมีเงินนับร้อยล้านไหลเข้าบัญชีบุตรชายกับคนสนิทจริงหรือไม่”

ทั้งนี้ คดีทั้งสามนี้ ศาลชี้ขาดยึดทรัพย์ไปแล้วหนึ่งคดี อยู่ในศาล 1 คดี อยู่ใน ปปช.1 คดี ทั้งหมดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกผิดอย่างไร ต้องตัดสินด้วยหลักฐานด้วยกระบวนการยุติธรรมที่ต่อสู้คดีกันในศาล ไม่ใช่ด้วยการให้ประชาชนลงคะแนนว่าทักษิณผิดหรือไม่ผิด หากยอมให้มีการใช้ประชามติอย่างนี้เมื่อใด ประชาธิปไตยจะล้ำแดนกฎหมายกลายเป็นกฎหมู่ ตระกูลชินวัตรจะเป็นตระกูลที่อยู่เหนือกฎหมายทำผิดไม่ได้ไปในทันที

“ต่อไปตระกูลไหนต้องคดีความก็ลงทุนตั้งพรรคการเมืองแก้กฎหมายนิรโทษกรรมตนเองได้อย่างนี้อีก ส่วนใครที่ทุจริตแต่ไม่มีเงินก็ปล่อยให้ติดคุกต่อไปอีก เราจะยอมให้เขาทำได้อย่างนั้นหรือ เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมให้เป็นเช่นนี้ “เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ”หรือ คนท.จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมมือกันขัดขวางมิให้“กฎหมู่ชินวัตร”สำเร็จลุล่วงไปได้

ไม่ว่าท่านจะสีอะไรหรือไม่มีสีก็ตาม ไม่ว่าท่านจะลงคะแนนเลือกตั้งเลือกใครหรือไม่เลือกใครก็ไม่สำคัญ เพราะนั่นเป็นเรื่องการเมือง แต่นี่คือเรื่องของกฎหมายที่เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาไว้ เพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขไปชั่วลูกหลาน”

... เพื่อการนี้ เราจะใช้กฎหมายคุ้มครองกฎหมาย ไม่ว่าทางชินวัตรจะกลับคำอย่างไร บ่ายเบี่ยงไม่ขอพูดเรื่องนิรโทษกรรมอย่างไร เราจะไม่สนใจ เราจะยืนอยู่บนความจริงและความผิดที่เกิดขึ้นแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคพวกในตระกูล ได้ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ข้อมูลว่าตนและพวกได้ซื้อหุ้นชินคอร์ปจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว แต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กลับชี้ขาดไปแล้วว่าเป็นเท็จทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ความผิดฐานให้ข้อมูลเท็จ ทั้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่คือ คตส. และต่อศาลสถิตยุติธรรม จึงปรากฏเป็นจริงแล้ว คงรอแต่เพียงการกดปุ่มทางกฎหมายโดยการกล่าวโทษของอัยการสูงสุดหรือพวกเราเท่านั้น

เราจะกล่าวโทษนางสาวยิ่งลักษณ์ และพวกต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ในการนี้เราจะไม่สนใจในความสวยใส ความน่ารักน่าคบของผู้ถูกกล่าวหา เพราะจำเลยสวยๆ น่ารักนั้นถ้าทำผิดก็ถูกศาลลงโทษติดคุกมามากแล้ว ส่วนจะขอลดโทษเพราะทำไปด้วยความรักพี่ชายและวงศ์ตระกูลนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แล้วแต่ศาลท่านจะเมตตาหรือไม่

ในการนี้เราจะไม่สนใจเลยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่เราชอบหรือไม่? เราไม่สนใจเลยว่าเธอจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการกล่าวโทษของเรา?

และแม้เธอจะชนะเลือกตั้งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำกล่าวโทษของเราจะทำให้เธอได้คิดและหยุดยั้งไม่ผลักดันแก้กฎหมายยุติคดีให้พี่ชายต่อไป และถ้าผู้ถูกกล่าวหายังดื้อดึงฝืนกระทำไป ก็จะกลายเป็นการปฏิบัติราชการโดยมิชอบ ใช้อำนาจเพื่อให้ตนเองได้พ้นคดีตามพี่ชายไปด้วย

ถ้ายังฝืนไปถึงชั้นศาลโอกาสพ้นโทษของเธอก็จะเป็นศูนย์ เพราะประเด็นกล่าวเท็จนี้เป็นที่ยุติแล้วในคดียึดทรัพย์ หากในที่สุดศาลอาญาท่านลงโทษถึงจำคุก 6 เดือนขึ้นไป ผู้ถูกกล่าวหาก็จะพ้นตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งไปในทันที

ทั้งหมดนี้คือการหยุดกฎหมู่ชินวัตร ด้วยมาตรการร่วมกันกล่าวโทษปู หากยังไม่ยอมหยุด ก็จะต้องตามมาด้วยมาตรการอื่นๆ ต่อไปอีก”
กำลังโหลดความคิดเห็น