แกนนำพันธมิตรฯ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีชุมนุมสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา ยันไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ขณะที่อัยการนัดฟังคำสั่ง 8 ก.ค.สิบโมง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ กองปราบปราม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันก่อการร้าย กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยนายสนธิ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งภายหลังการรายงานตัวแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสนธิไปส่งฟ้องต่อนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ซึ่งอัยการได้นัดฟังคำสั่งวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ สำหรับคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมสนามบินทั้งสองแห่งนั้น คณะพนักงานสอบสวน นำโดย พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 114 คน แต่มีบางส่วนที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องในข้อหาก่อการร้าย เช่น นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหาให้เข้ารายงานตัว เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งคงเหลือผู้ต้องหาเพียงบางส่วนที่ขอเลื่อนนัดรายงานตัว
นอกจากนี้ นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ว่า ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ก็ตาม หากพรรคเพื่อไทย ได้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลต้องไม่มีการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม
ส่วนกรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตั้งเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชั่นทักษิณ หรือ คนท.นั้น นายสนธิ กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะนายแก้วสรร นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการณรงค์โหวตโน นายสนธิ กล่าวว่า เป็นสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งคนที่ออกมาต่อต้านก็เป็นผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์มากกว่าเพราะในบัตรลงคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังมีช่องให้กาโหวตโน แล้วเหตุใดพันธมิตรฯ จึงจะมีป้ายโหวตโนไม่ได้
ต่อมาเวลา 09.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมแกนนำ พธม. ก่อการร้าย กรณีนำผู้ชุมนุมบุกล้อมสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน พ.ย.51 เดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการคดีอาญา ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนายสนธิให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา นัดสั่งคดีในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น
ส่วนความคืบหน้าการสั่งคดีในส่วนของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม.และแนวร่วมที่ได้เข้ารายงานตัวต่ออัยการก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ พธม.กับพวกรวม 114 คน คดีบุกยึดสนามบินส่งมอบให้นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ซึ่งนัดสั่งคดีวันที่ 9 มิ.ย.นี้
นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 กล่าวว่า คงต้องรอดูการประชุมในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ช่วงบ่าย ซึ่งคณะทำงานอัยการชุดใหญ่ที่นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ตั้งขึ้นรับผิดชอบสำนวนคดีจะประชุมภายในเพื่อวางแนวทางการพิจารณา ซึ่งจะตรวจดูภาพรวมทั้งหมดตั้งแต่พฤติการณ์ในการชุมนุมล้อมทำเนียบ และอาคารรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีบุกยึดสนามบินดังกล่าวพนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 114 คนในข้อหากันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก, บุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ ฯลฯ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
โดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง แกนนำ พธม.15 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทอง กุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายนรัณยู หรือศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นายศิริชัย ไม้งาม, นายสำราญ รอดเพชร, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์, พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์, นายชนะ ผาสุกสกุล, นายสุรวิชช์ วีรวรรณ และนายรัชต์ชยุตม์ หรืออมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ ในข้อหาก่อการร้าย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ กองปราบปราม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันก่อการร้าย กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยนายสนธิ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งภายหลังการรายงานตัวแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสนธิไปส่งฟ้องต่อนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ซึ่งอัยการได้นัดฟังคำสั่งวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ สำหรับคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมสนามบินทั้งสองแห่งนั้น คณะพนักงานสอบสวน นำโดย พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 114 คน แต่มีบางส่วนที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องในข้อหาก่อการร้าย เช่น นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหาให้เข้ารายงานตัว เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งคงเหลือผู้ต้องหาเพียงบางส่วนที่ขอเลื่อนนัดรายงานตัว
นอกจากนี้ นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ว่า ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ก็ตาม หากพรรคเพื่อไทย ได้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลต้องไม่มีการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม
ส่วนกรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตั้งเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชั่นทักษิณ หรือ คนท.นั้น นายสนธิ กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะนายแก้วสรร นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการณรงค์โหวตโน นายสนธิ กล่าวว่า เป็นสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งคนที่ออกมาต่อต้านก็เป็นผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์มากกว่าเพราะในบัตรลงคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังมีช่องให้กาโหวตโน แล้วเหตุใดพันธมิตรฯ จึงจะมีป้ายโหวตโนไม่ได้
ต่อมาเวลา 09.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมแกนนำ พธม. ก่อการร้าย กรณีนำผู้ชุมนุมบุกล้อมสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน พ.ย.51 เดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการคดีอาญา ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนายสนธิให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา นัดสั่งคดีในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น
ส่วนความคืบหน้าการสั่งคดีในส่วนของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม.และแนวร่วมที่ได้เข้ารายงานตัวต่ออัยการก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ พธม.กับพวกรวม 114 คน คดีบุกยึดสนามบินส่งมอบให้นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ซึ่งนัดสั่งคดีวันที่ 9 มิ.ย.นี้
นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 กล่าวว่า คงต้องรอดูการประชุมในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ช่วงบ่าย ซึ่งคณะทำงานอัยการชุดใหญ่ที่นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ตั้งขึ้นรับผิดชอบสำนวนคดีจะประชุมภายในเพื่อวางแนวทางการพิจารณา ซึ่งจะตรวจดูภาพรวมทั้งหมดตั้งแต่พฤติการณ์ในการชุมนุมล้อมทำเนียบ และอาคารรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีบุกยึดสนามบินดังกล่าวพนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 114 คนในข้อหากันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ , เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก, บุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ ฯลฯ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
โดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง แกนนำ พธม.15 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทอง กุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายนรัณยู หรือศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นายศิริชัย ไม้งาม, นายสำราญ รอดเพชร, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์, พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์, นายชนะ ผาสุกสกุล, นายสุรวิชช์ วีรวรรณ และนายรัชต์ชยุตม์ หรืออมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ ในข้อหาก่อการร้าย