“เพื่อแม้ว” เต้น กลุ่มหลากสียื่นดีเอสไอเอาผิด “ยิ่งลักษณ์” ให้การเท็จต่อศาลคดีซุกหุ้นพี่ชาย อ้างเจตนาเตะตัดขา “เจ๊ปู” เตรียมยื่น กกต.เอาผิด “หมอตุลย์” ฐานมีเจตนาจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ได้ยื่นคำร้องต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สอบสวนเกี่ยวกับการการให้การเท็จต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเกี่ยวกับการถือครองหุ้นในคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าน่าจะเป็นวงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่ต้องการทำลายล้างทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากสังคมก็รู้ว่า นพ.ตุลย์เป็นใคร ยืนอยู่ฝ่ายไหน
“วันนี้สังคมควรตั้งคำถามว่า ทำไม นพ.ตุลย์ถึงได้ออกมาร้องเรียนเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเคลื่อนไหวใดๆ ในเรื่องนี้ เจตนาจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากการหวังผลทางการเมืองเพื่อหวังเตะตัดขา ตัดคะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เพราะผลโพลสำรวจความนิยมต่างๆ ที่ออกมานั้นพรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ดังนั้นกระบวนการทำลายล้างดังกล่าว จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เจตนาที่บริสุทธิ์ และไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้น่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน”
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนจะเป็นใครนั้นเชื่อว่าประชาชนคงมองออก เพราะผู้ที่น่าจะได้รับผลประโยชน์จากการทำลาย หรือดิสเครดิต น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย ย่อมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่เป็นพวกเดียวกับ นพ.ตุลย์ ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ พิจารณาการกระทำของ นพ.ตุลย์ในครั้งนี้ด้วย เพราะไม่ใช่การกระทำเยี่ยงสุภาพบุรุษ หรือในฐานะประชาชนทั่วไปที่สุจริตใจ แต่น่าจะเป็นการรังแกผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตั้งใจอาสาที่จะนำความรู้ความสามารถมาแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ ดังนั้นขอเรียกร้องกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ให้ยุติการกระทำที่ใช้วิธีการสกปรกเช่นนี้ อย่าหวังดึงอำนาจของประชาชนไว้เฉพาะเพียงกลุ่มของตนเอง ด้วยการทำลายฝ่ายตรงข้าม ควรแข่งขันกันด้วยนโยบาย และความรู้ความสามารถ แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดในวันที่ 3 กรกฎาคม จะชอบคนที่ทำงาน หรือชอบคนที่ทำลาย
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การกระทำของ นพ.ตุลย์ แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้ได้มาซึ่ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (5) ด้วยการทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท รวมถึงเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้ง 10 ปี ดังนั้นตนและทีมกฎหมายจะยื่นต่อ กกต.ให้เอาผิดต่อ นพ.ตุลย์ ในสัปดาห์หน้า
