xs
xsm
sm
md
lg

ชทพ.เตรียมทัพใหญ่ช่วยลูกทีมหาเสียง ชพน.เปิดนโยบายเงินออมเด็ก 1 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัชระ กรรณิการ์  (แฟ้มภาพ)
ชทพ.เตรียมจัดทัพใหญ่หาเสียงช่วย ส.ส.เก่า ถ้ามีโอกาสจะลงพื้นที่ “สมรักษ์-เขาทราย-มนต์สิทธิ์” หาเสียง หวังเพิ่มคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ก่อนปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายที่นครปฐม ด้าน ชพน. เปิดนโยบายเงินออมเด็ก 1 ล้าน ไม่สน “ชูวิทย์” จ้องหาเรื่อง

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า การปราศรัยหาเสียงของพรรคจะมุ่งเน้นพื้นที่ที่มี ส.ส.เดิม เพื่อช่วยผู้สมัคร ยกเว้นบางพื้นที่ที่ผู้สมัครมีความเข้มแข็ง เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง และพิจิตร อาจไม่จำเป็นต้องไปช่วยเพราะผู้สมัครสามารถบริหารจัดการเองได้ แต่ถ้ามีความจำเป็นและมีเวลามากพอทัพใหญ่ก็จะลงไปช่วย นอกจากนี้พื้นที่ผู้สมัครหน้าใหม่ถ้ามีโอกาสพรรคก็จะลงไปช่วย เช่น นายมนต์สิทธิ์ คำสร้อย แก้วศรีนวล เขต 2 มุกดาหาร นายสุระ แสนคำ หรือเขาทราย กาแล็กซี่ เขต 2 เพชรบูรณ์ นายสมรักษ์ คำสิงห์ เขต 10 ขอนแก่น แม้จะมีความเชี่ยวชาญทางการเมืองไม่มากพอแต่ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชน ถ้าหากลงไปช่วยก็มีสิทธิ์จะได้รับชนะ

สำหรับพื้นที่ กทม.ปรากฏว่าหลังจากพรรคประกาศนโยบายปรองดองก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ดังนั้นทางพรรคอาจจะจัดปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ กทม.เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รูปแบบในการรณรงค์หาเสียงทั้ง กทม.และต่างจังหวัด จะไม่เน้นการปราศรัยใหญ่และเกณฑ์คนมา แต่จะเป็นการปราศรัยย่อยและพบประชาชนตามความเหมาะสมในพื้นที่ ซึ่งพรรคได้ให้แนวทางในการหาเสียงของผู้สมัครให้เน้นตัวตนและความเป็นกลาง และพรรคปฏิบัตินิยม มีสัจจะทางการเมือง

“พรรคจะเน้นคะแนนพรรคมากขึ้น แม้จะมั่นใจใน ส.ส.เขต แต่ควรจะมีคะแนนระบบบัญชีรายชื่อมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้กระแสเลือกคน­ของพรรค แต่ระบบบัญชีรายชื่อเลือกพรรคการเมืองอื่น อย่างไรก็ตาม ในวัน 1 ก.ค.ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายในการหาเสียงได้กำหนดปิดปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นประเพณีที่พรรคปฏิบัติมาตลอดในการเลือกตั้ง โดยคำว่าปฐมถือว่าเป็นอันดับหนึ่ง”

ที่โรงพยาบาลเด็ก ราชวิถี วันนี้ (1 มิ.ย.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) พร้อมด้วยนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้จัดเปิดตัวนโยบาย “เงินออม X 2” เกิดวันนี้ 20 ปีมีเงินล้าน โดยให้เด็กหญิงสาววัยรุ่นแต่งตัวในชุดคลุมท้อง อุ้มหุ่นเด็กจำลองร่วมรณรงค์เปิด นโนบาย ซึ่งสร้างสีสันและเป็นจุดสนใจต่อประชาชนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวนมาก

นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า เป็นนโยบายส่งเสริมการออมของบุตรกับกองทุนเด็กเงินล้าน ที่การบริหารงานแบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบในจำนวนเท่ากับยอดเงินฝากในแต่ละงวด ประมาณการตลอดการออม 20 ปี เฉลี่ยเดือนละ 900 บาท คิดอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 8 จะมีเงินฝากประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับทำให้ประชาชนมีวินัยการออม เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยังนำเงินก้อนดังกล่าวไปเริ่มต้นลงทุนทำกิจการของตัวเองได้ ขณะเดียวกันทำให้รัฐมีเงินทุนมากขึ้น สามารถบริหารเงินทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้ประเทศ

จากนั้น นพ.วรรณรัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ขู่ว่าจะฟ้องบรรดาแกนนำที่อยู่เบื้องหลังการเมือง อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองนั้น คิดว่าเป็นสิทธิของบุคคลที่มีสิทธิแสดงความเห็นทางการเมืองได้ และการบริหารงานของพรรคที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย เราก็ทำของเราไป แล้วนายชูวิทย์ จะเอาอะไรไปฟ้อง

ด้าน นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง กล่าวว่า ที่ผ่านมาสื่อและสังคมล้วนใหญ่ให้ความสนใจแต่กับ 2 พรรคใหญ่ ซึ่งยังมีปัญหาแตกแยกอยู่ แต่คนอีกเกือบ 70% ที่ยังไม่ตัดสินใจตนก็อยากให้คนเหล่านี้มองปัญหาประเทศชาติ หากต้องการความสมานฉันท์ก็ขอให้สนับสนุนพรรคขนาดกลางหรือเล็ก เพื่อเป็นทางเลือกทางออกในความปรองดองสมานฉันท์ของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น