วานนี้(1 มิ.ย.)ที่โรงพยาบาลเด็ก ถ.ราชวิถี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) พร้อมด้วย แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค อาทิ น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือน้องวิว เป็นต้น จัดงานเปิดตัว “นโยบายเงินออมคูณ 2 เกิดวันนี้ 20 ปีมีเงินล้าน” โดยให้หญิงสาววัยรุ่นแต่งกายในชุดคลุมท้องหุ้มหุ่นเด็กจำลอง ร่วมรณรงค์เปิดนโนบาย ซึ่งสามารถสร้างสีสัน และเป็นจุดสนใจต่อประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวนมาก
โดย นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า เป็นนโยบายส่งเสริมการออมของบุตรกับกองทุนเด็กเงินล้าน ที่การบริหารงานในรูปแบบเดียวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบในจำนวนเท่ากับยอดเงินฝากในแต่ละงวด ประมาณการตลอดการออม 20 ปี เฉลี่ยเดือนละ 900 บาท คิดอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 8 จะมีเงินฝากประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับทำให้ประชาชนมีวินัยการออม เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยังนำเงินก้อนดังกล่าวไปเริ่มต้นลงทุนทำกิจการของตัวเองได้ ขณะเดียวกันทำให้รัฐมีเงินทุนมากขึ้น สามารถบริหารเงินทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้ประเทศ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมช. คลัง คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หลังจากที่พรรคได้ประสพความสำเร็จอย่างมากในนโยบายบัตรสินเชื่อเพื่อเกษตรกรหรือ เครดิตการ์ดชาวนา โดยผลสำรวจปรากฏว่า ชาวนา 85.5% อยากได้บัตรเครดิตการ์ดชาวนานี้และจะเลือกพรรคที่มีนโยบายนี้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงได้ออกนโยบายใหม่เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง และ รถตู้สาธารณะ ด้วยนโยบายบัตรเครดิตพลังงาน โดยจะเป็นบัตรเครดิตให้กับประชาชนผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว เพื่อใช้ในการเติมน้ำมัน และก๊าซ สำหรับยานพาหนะ โดยมีวงเงินเท่ากับหนี่งเดือนในการใช้น้ำมันหรือก๊าซ ขึ้นกับแต่ละประเภทของยานพาหนะ ทั้งนี้เพื่อเป็นวงเงินให้กับพี่น้องที่ประกอบอาชีพนี้ได้ใช้หมุนเวียนยามฉุกเฉิน ซึ่งสามารถจะมีเงินเติมน้ำมันและก๊าซเพื่อประกอบอาชีพต่อไปได้โดยไม่ต้องไม่วิ่งหยิบยืมเงินใคร โดยเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะสามารถดำเนินเรื่องนี้ได้ทันที เพราะเห็นความสำคัญของพี่น้องที่ประกอบอาชีพนี้ ที่เป็นเหมือนกับการให้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับประชาชน
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังได้มีแผนงานที่จะเจรจาขอลดราคาพลังงานดังกล่าวจากบริษัทพลังงาน และเก็บสะสมไว้เป็นแต้มในบัตรเครดิตพลังงานนี้ ซึ่งเหมือนกับการสะสมแต้มในบัตรเครดิตทั่วไป เพื่อที่จะทำเป็นสวัสดิการสำหรับพี่น้อง แท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รถตู้สาธารณะได้ใช้เมื่อเกษียณอายุ โดยเมื่อประกอบอาชีพนานมีการชำระเงินตามเวลาก็จะได้รับเงินสะสมไว้ในอนาคตเมื่อเกษียณอายุ ทั้งนี้ระบบสะสมแต้มนี้ก็จะมีสำหรับนโยบายบัตรสินเชื่อเพื่อเกษตรกร หรือ เครดิตการ์ดชาวนาเช่นกัน ซึ่งจะเป็นระบบสวัสดิการให้กับชาวนาเมื่อเกษียณอายุโดยที่ชาวนาไม่ต้องควักเงินอออกมาเลย แต่รัฐจะต่อรองราคากับบริษัทที่ผลิตปัจจัยการผลิตเพื่อให้ลดราคาเพื่อเก็บเป็นเงินสะสมให้กับชาวนาในอนาคต ซึงเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยได้คิดไปล่วงหน้าเพื่อประโยชน์ของพี่น้องเกษครกรและพี่น้องแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง และ รถตู้สาธารณะ อย่างเต็มที่ และอยากให้รักษาเครดิตของตัวเองเพื่อได้รับประโยชน์ในระบบสวัสดิการเมื่อเกษียณอายุในอนาคต
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. แถลงว่า พ.ร.บ.กรุงเทพฯ ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เกิดปัญหาที่ไม่สามารถใช้ได้จริง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องแท่งเงินเดือนของ กทม. ซึ่งไม่มีผลย้อนหลัง ดังนั้น หากเป็นรัฐบาลจะเข้าไปดูแล พ.ร.บ.ฉบับนี้อีกครั้ง.
โดย นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า เป็นนโยบายส่งเสริมการออมของบุตรกับกองทุนเด็กเงินล้าน ที่การบริหารงานในรูปแบบเดียวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบในจำนวนเท่ากับยอดเงินฝากในแต่ละงวด ประมาณการตลอดการออม 20 ปี เฉลี่ยเดือนละ 900 บาท คิดอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 8 จะมีเงินฝากประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับทำให้ประชาชนมีวินัยการออม เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยังนำเงินก้อนดังกล่าวไปเริ่มต้นลงทุนทำกิจการของตัวเองได้ ขณะเดียวกันทำให้รัฐมีเงินทุนมากขึ้น สามารถบริหารเงินทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้ประเทศ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมช. คลัง คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หลังจากที่พรรคได้ประสพความสำเร็จอย่างมากในนโยบายบัตรสินเชื่อเพื่อเกษตรกรหรือ เครดิตการ์ดชาวนา โดยผลสำรวจปรากฏว่า ชาวนา 85.5% อยากได้บัตรเครดิตการ์ดชาวนานี้และจะเลือกพรรคที่มีนโยบายนี้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงได้ออกนโยบายใหม่เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง และ รถตู้สาธารณะ ด้วยนโยบายบัตรเครดิตพลังงาน โดยจะเป็นบัตรเครดิตให้กับประชาชนผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว เพื่อใช้ในการเติมน้ำมัน และก๊าซ สำหรับยานพาหนะ โดยมีวงเงินเท่ากับหนี่งเดือนในการใช้น้ำมันหรือก๊าซ ขึ้นกับแต่ละประเภทของยานพาหนะ ทั้งนี้เพื่อเป็นวงเงินให้กับพี่น้องที่ประกอบอาชีพนี้ได้ใช้หมุนเวียนยามฉุกเฉิน ซึ่งสามารถจะมีเงินเติมน้ำมันและก๊าซเพื่อประกอบอาชีพต่อไปได้โดยไม่ต้องไม่วิ่งหยิบยืมเงินใคร โดยเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะสามารถดำเนินเรื่องนี้ได้ทันที เพราะเห็นความสำคัญของพี่น้องที่ประกอบอาชีพนี้ ที่เป็นเหมือนกับการให้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับประชาชน
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังได้มีแผนงานที่จะเจรจาขอลดราคาพลังงานดังกล่าวจากบริษัทพลังงาน และเก็บสะสมไว้เป็นแต้มในบัตรเครดิตพลังงานนี้ ซึ่งเหมือนกับการสะสมแต้มในบัตรเครดิตทั่วไป เพื่อที่จะทำเป็นสวัสดิการสำหรับพี่น้อง แท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง รถตู้สาธารณะได้ใช้เมื่อเกษียณอายุ โดยเมื่อประกอบอาชีพนานมีการชำระเงินตามเวลาก็จะได้รับเงินสะสมไว้ในอนาคตเมื่อเกษียณอายุ ทั้งนี้ระบบสะสมแต้มนี้ก็จะมีสำหรับนโยบายบัตรสินเชื่อเพื่อเกษตรกร หรือ เครดิตการ์ดชาวนาเช่นกัน ซึ่งจะเป็นระบบสวัสดิการให้กับชาวนาเมื่อเกษียณอายุโดยที่ชาวนาไม่ต้องควักเงินอออกมาเลย แต่รัฐจะต่อรองราคากับบริษัทที่ผลิตปัจจัยการผลิตเพื่อให้ลดราคาเพื่อเก็บเป็นเงินสะสมให้กับชาวนาในอนาคต ซึงเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยได้คิดไปล่วงหน้าเพื่อประโยชน์ของพี่น้องเกษครกรและพี่น้องแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง และ รถตู้สาธารณะ อย่างเต็มที่ และอยากให้รักษาเครดิตของตัวเองเพื่อได้รับประโยชน์ในระบบสวัสดิการเมื่อเกษียณอายุในอนาคต
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. แถลงว่า พ.ร.บ.กรุงเทพฯ ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เกิดปัญหาที่ไม่สามารถใช้ได้จริง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องแท่งเงินเดือนของ กทม. ซึ่งไม่มีผลย้อนหลัง ดังนั้น หากเป็นรัฐบาลจะเข้าไปดูแล พ.ร.บ.ฉบับนี้อีกครั้ง.
