เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร และร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า มติของพรรคเพื่อไทย มีลักษณะขัดต่อสถานะและหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ หรือขัดหรือแย้งกับหลักการพื้นฐานแห่งการปกครองระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 65 วรรค 3 ซึ่งศาลได้วินิจฉัยคำร้องทั้ง 2 คดี เห็นว่า มติของพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้อง เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2553 ที่ให้นายจุมพฎ และร.ต.ปรพล ผู้ร้อง พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น มิได้มีลักษณะขัดต่อสถานะและการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ของนายจุมพฏ และร.ต.ปรพล ตามรัฐธรรมนูญ หรือขัดหรือแย้งกับหลักการพื้นฐานแห่งการปกครองระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามมาตรา 65 วรรค 3 ให้ถือว่าสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายจุมพฏ และร.ต.ปรพลสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สำหรับมติพรรคเพื่อไทย ที่มีมติขับนายจุมพฏ และร.ต.ปรพล พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้นเนือ่งจากทั้ง 2 ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ที่ไปร่วมกิจกรรมและปฏิบัติตัวเหมือนเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
ด้านนายจุมพฏ และร.ต.ปรพล ซึ่งมาฟังคำวินิจฉัยของศาลด้วยตัวเอง มีสีหน้าเรียบเฉยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ขณะที่ร.ต.ปรพล กล่าวยอมรับคำวินิจฉัยของศาล และว่าหลังจากนี้ ตนจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
**กกต.ชี้ไม่ต้องเลือกซ้อมหากยุบสภาก่อน
ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการเลือกตั้งด้านบริหารงารเลือกตั้ง กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาล แต่เบื้องต้นต้องดูว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 คนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ แต่หากคำวินิจฉัยระบุว่าพ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ตามกฎหมายจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ และมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม แต่ให้ถือว่าเลือกตั้งใหม่ไปพร้อมกัน
** เผาไทยส่อตัด“ไพจิต”ลงนครพนม
ส่วนการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย หลังจากมีรายงานว่า คณะยุทธศาสตร์การเลือกตั้งได้ตัดชื่อนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน และนายสุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานี ออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 ระบบแล้ว
มีรายงานว่า ยังมีชื่อนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม อยู่ระหว่างการพิจารณาของแกนนำ สืบเนื่องจากมีความพยายามรวบรวม ส.ส.ของพรรค ออกไปร่วมสร้างพรรคใหม่กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
สำหรับนายมิ่งขวัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตัดชื่อออก โดยให้แกนนำพรรคและคนใกล้ชิดปรับความเข้าใจกับนายเสนาะ กลับมาร่วมงาน
“ที่ผ่านมานายมิ่งขวัญ ได้ให้ปัจจัยสนับสนุน ส.ส.ทำกิจกรรมในพื้นที่และจนถึงปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำพรรคก็ยังไม่ทราบว่าทุนดังกล่าวที่ให้การสนับสนุนพรรคผ่านนายมิ่งขวัญนั้นมาจากฝ่ายใด รวมถึงนโยบายของพรรคหลายเรื่องนายมิ่งขวัญเองก็มีส่วนร่วมคิด จึงให้รอดูการตัดสินใจของนายมิ่งขวัญก่อน”
**ปลอดฯอ้างจนท.ทำชื่อ“ชวลิต”หาย
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายชวลิต ซึ่งไม่พอใจที่ไม่มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ว่าหลังเกิดปัญหาขึ้นตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของพรรคแล้วพบว่า เกิดจากความเข้าใจผิดและสับสนของเจ้าหน้าที่ของพรรค เนื่องจากที่ผ่านมามีกรรมการบริหารพรรคหลายคนได้ทยอยกันลาออก ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ในส่วนของรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น เมื่อนายชวลิตซึ่งเป็นอดีตคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะไปเซ็นชื่อร่วมงานเปิดตัวนโยบายพรรค จึงไม่เห็นรายชื่อของตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วในใบรายชื่อดังกล่าวเป็นเพียงแค่ผู้ที่แสดงความจำนงเสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น นอกจากนี้ พรรคยังมีมติให้นายชวลิตเป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครพนมในนามพรรคไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
**“แม้ว” นัดวีดีโอลิงค์อีก
ผู้สื่อข่าวรายว่า ภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกประชุมคณะทำงานด้านนโยบายและทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทย เพื่อกำหนดทิศทางการปราศรัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปผ่าน ระบบสไกป์ (โปรแกรมสำหรับคุยโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ท)ให้ทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทยปราศรัยเน้นประเด็นเศรษฐกิจการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก พักการโจมตีประเด็นทางการเมืองชั่วคราว เน้นปราศรัยนโยบายกับความต้องการของท้องถิ่นนั้นๆ เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องชูนโยบายการสร้างเมืองใหม่ และนโยบายรถไฟฟ้าความเร็วสูง 10 สาย ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดเน้นเรื่องการรับจำนำราคาสินค้าเกษตร เครดิตการ์ดชาวนาฯลฯ
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้มอบหมายให้ทีมปราศรัยแบ่งกลุ่มปราศรัยตามหัวข้อ ซึ่งในบางจุด พ.ต.ท.ทักษิณจะวิดีโอลิงก์เข้าเวทีปราศรัยด้วย โดยในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ที่ จ.เชียงใหม่ และขอนแก่น
**เย้ยเพื่อไทยถูกแดงเทคโอเวอร์
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนอยากถามจุดยืนและความชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนปช.เพราะขณะนี้นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ออกมาเรียกร้องให้ส.ส.พรรคอย่าแบ่งแยกจากกลุ่ม นปช.เพื่อพรรคพื่อไทยอยู่ได้มาจนทุกวันนี้ก็เพราะกลุ่มนปช. เพราะเหมือนปลากับน้ำที่อยู่ด้วยกัน จากการที่นายจาตุรณต์ ฉายแสง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน และบ้านเลขที่ 111ออกมาวิจารณ์ทางการเมืองทำให้นายจุพรไม่พอใจ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยถูกเทคโอเวอร์จากแกนนำ นปช.รวมถึงนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาระบุเสมอว่าการแสดงความคิดเห็นที่หมิ่นสถาบันของกลุ่มนปช.นั้นไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยน่าจะบอกไปเลยว่าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่ม นปช.เป็นพวกเดียวกันเพียงแต่แบ่งหน้ากันเล่นเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งที่จะมีถึงนี้พรรคเพื่อไทยได้ไว้ใจให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่สอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ นปช.นายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำนปช.และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย มีบทบาทในการเลือกตั้ง แสดงว่าการเลือกตั้งล้วนมีแต่แกนนำ นปช.ควบคุมทั้งสิ้น
สำหรับมติพรรคเพื่อไทย ที่มีมติขับนายจุมพฏ และร.ต.ปรพล พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้นเนือ่งจากทั้ง 2 ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ที่ไปร่วมกิจกรรมและปฏิบัติตัวเหมือนเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
ด้านนายจุมพฏ และร.ต.ปรพล ซึ่งมาฟังคำวินิจฉัยของศาลด้วยตัวเอง มีสีหน้าเรียบเฉยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ขณะที่ร.ต.ปรพล กล่าวยอมรับคำวินิจฉัยของศาล และว่าหลังจากนี้ ตนจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
**กกต.ชี้ไม่ต้องเลือกซ้อมหากยุบสภาก่อน
ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการเลือกตั้งด้านบริหารงารเลือกตั้ง กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาล แต่เบื้องต้นต้องดูว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 คนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ แต่หากคำวินิจฉัยระบุว่าพ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ตามกฎหมายจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ และมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม แต่ให้ถือว่าเลือกตั้งใหม่ไปพร้อมกัน
** เผาไทยส่อตัด“ไพจิต”ลงนครพนม
ส่วนการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย หลังจากมีรายงานว่า คณะยุทธศาสตร์การเลือกตั้งได้ตัดชื่อนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน และนายสุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานี ออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 ระบบแล้ว
มีรายงานว่า ยังมีชื่อนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม อยู่ระหว่างการพิจารณาของแกนนำ สืบเนื่องจากมีความพยายามรวบรวม ส.ส.ของพรรค ออกไปร่วมสร้างพรรคใหม่กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
สำหรับนายมิ่งขวัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตัดชื่อออก โดยให้แกนนำพรรคและคนใกล้ชิดปรับความเข้าใจกับนายเสนาะ กลับมาร่วมงาน
“ที่ผ่านมานายมิ่งขวัญ ได้ให้ปัจจัยสนับสนุน ส.ส.ทำกิจกรรมในพื้นที่และจนถึงปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำพรรคก็ยังไม่ทราบว่าทุนดังกล่าวที่ให้การสนับสนุนพรรคผ่านนายมิ่งขวัญนั้นมาจากฝ่ายใด รวมถึงนโยบายของพรรคหลายเรื่องนายมิ่งขวัญเองก็มีส่วนร่วมคิด จึงให้รอดูการตัดสินใจของนายมิ่งขวัญก่อน”
**ปลอดฯอ้างจนท.ทำชื่อ“ชวลิต”หาย
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายชวลิต ซึ่งไม่พอใจที่ไม่มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ว่าหลังเกิดปัญหาขึ้นตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของพรรคแล้วพบว่า เกิดจากความเข้าใจผิดและสับสนของเจ้าหน้าที่ของพรรค เนื่องจากที่ผ่านมามีกรรมการบริหารพรรคหลายคนได้ทยอยกันลาออก ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ในส่วนของรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น เมื่อนายชวลิตซึ่งเป็นอดีตคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะไปเซ็นชื่อร่วมงานเปิดตัวนโยบายพรรค จึงไม่เห็นรายชื่อของตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วในใบรายชื่อดังกล่าวเป็นเพียงแค่ผู้ที่แสดงความจำนงเสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น นอกจากนี้ พรรคยังมีมติให้นายชวลิตเป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครพนมในนามพรรคไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
**“แม้ว” นัดวีดีโอลิงค์อีก
ผู้สื่อข่าวรายว่า ภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกประชุมคณะทำงานด้านนโยบายและทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทย เพื่อกำหนดทิศทางการปราศรัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปผ่าน ระบบสไกป์ (โปรแกรมสำหรับคุยโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ท)ให้ทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทยปราศรัยเน้นประเด็นเศรษฐกิจการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก พักการโจมตีประเด็นทางการเมืองชั่วคราว เน้นปราศรัยนโยบายกับความต้องการของท้องถิ่นนั้นๆ เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องชูนโยบายการสร้างเมืองใหม่ และนโยบายรถไฟฟ้าความเร็วสูง 10 สาย ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดเน้นเรื่องการรับจำนำราคาสินค้าเกษตร เครดิตการ์ดชาวนาฯลฯ
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้มอบหมายให้ทีมปราศรัยแบ่งกลุ่มปราศรัยตามหัวข้อ ซึ่งในบางจุด พ.ต.ท.ทักษิณจะวิดีโอลิงก์เข้าเวทีปราศรัยด้วย โดยในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ที่ จ.เชียงใหม่ และขอนแก่น
**เย้ยเพื่อไทยถูกแดงเทคโอเวอร์
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนอยากถามจุดยืนและความชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนปช.เพราะขณะนี้นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ออกมาเรียกร้องให้ส.ส.พรรคอย่าแบ่งแยกจากกลุ่ม นปช.เพื่อพรรคพื่อไทยอยู่ได้มาจนทุกวันนี้ก็เพราะกลุ่มนปช. เพราะเหมือนปลากับน้ำที่อยู่ด้วยกัน จากการที่นายจาตุรณต์ ฉายแสง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน และบ้านเลขที่ 111ออกมาวิจารณ์ทางการเมืองทำให้นายจุพรไม่พอใจ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยถูกเทคโอเวอร์จากแกนนำ นปช.รวมถึงนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาระบุเสมอว่าการแสดงความคิดเห็นที่หมิ่นสถาบันของกลุ่มนปช.นั้นไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยน่าจะบอกไปเลยว่าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่ม นปช.เป็นพวกเดียวกันเพียงแต่แบ่งหน้ากันเล่นเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งที่จะมีถึงนี้พรรคเพื่อไทยได้ไว้ใจให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่สอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ นปช.นายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำนปช.และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย มีบทบาทในการเลือกตั้ง แสดงว่าการเลือกตั้งล้วนมีแต่แกนนำ นปช.ควบคุมทั้งสิ้น
