xs
xsm
sm
md
lg

โพล 73 นักเศรษฐศาสตร์ ชี้นโยบายปชป.ขี่ “เพื่อไทย” 7 ต่อ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(21 มิ.ย) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) ได้ดำเนินการสำรวจเรื่อง“เปรียบเทียบนโยบายหาเสียง 2 พรรคใหญ่ พรรคใดเป็นต่อ ทำได้ทำไม่ได้ ” โดยสำรวจความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 26 แห่ง จำนวน 73 คน พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ได้ประเมินนโยบายหาเสียงเชิงเปรียบเทียบ (นโยบายที่มีความคล้ายคลึงกัน) ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย จำนวน 9 นโยบายพบว่า นักเศรษฐศาสตร์ให้นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคเพื่อไทยจำนวน 7 นโยบาย ส่วนนโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าพรรคเพื่อไทยเหนือกว่ามี 1 นโยบาย คือ นโยบายปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน 12 เดือน ขณะที่นโยบายขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3G อินเทอร์เน็ตชุมชนสู่ทุกตำบลทั่วประเทศภายใน 4 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์ กับ นโยบาย Free WIFI เล่น Internet ในที่สาธารณะของพรรคเพื่อไทยนั้น นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าเป็นนโยบายที่ดีพอๆ กัน
สำหรับการนำนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติว่านโยบายใดทำได้ นโยบายใดทำไม่ได้ พบว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ 9 นโยบายมี 7 นโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าทำได้จริง ขณะที่อีก 2 คือ นโยบายจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 2,500 นาย และนโยบายขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3G อินเทอร์เน็ตชุมชน สู่ทุกตำบลทั่วประเทศภายใน 4 ปี เป็นนโยบายที่เชื่อว่าไม่สามารถทำได้จริง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย 9 นโยบายมี 5 นโยบายที่เชื่อว่าทำได้จริง ขณะที่อีก 4 นโยบายเชื่อว่าไม่สามารถทำได้จริง คือ นโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท , นโยบายปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน 12 เดือน , นโยบายทำรถไฟความเร็วสูงไปเชียงใหม่ โคราช ระยอง และขยายแอร์พอร์ตลิงส์ ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพัทยา นโยบายขยายรถไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 สาย แต่ละสายเก็บ 20 บาท
ส่วนนโยบายที่น่าสนใจอื่นๆ ของทั้ง 2 พรรค ซึ่งเลือกมาพรรคละ 3 นโยบายพบว่า นักเศรษฐศาสตร์มองว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นโยบายที่ดีทั้ง 3 นโยบาย ขณะที่นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นนโยบายที่ดี 2 นโยบาย และเป็นนโยบายที่แย่ 1 นโยบาย คือ เครดิตการ์ดพลังงาน เพื่อเติมน้ำมันหรือก๊าซ NGV สำหรับคนขับแท็กซี่ สามล้อ รถตู้ และมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
จากที่กล่าวมาพบว่านโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นนโยบายที่ดีที่สุด และสามารถทำได้จริงมี 2 นโยบายที่มีเปอร์เซ็นต์เท่ากัน คือ นโยบายเชื่อม กทม.-ปริมณฑล (นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ) ด้วย รถไฟฟ้าระยะทาง 166 กม. ภายใน 5 ปี และนโยบายจัดให้มีบำนาญประชาชนหลังอายุ 60 ปี โดยรัฐร่วมสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นนโยบายที่แย่มากที่สุด และไม่สามารถทำได้จริง คือ โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร หรือเครดิตการ์ดชาวนา ควบคู่กับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าเกวียนละ 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 20,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย

**พท.จวกนักเศรษฐศาสตร์อยู่แต่ในห้องแอร์
นายพิชัย นริพทะพันธ์ ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของกรุงเทพโพลล์ที่พบว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยทำไม่ได้จริงมากกว่าพรรคประชาธิปัตยว่า อยากให้นักเศรษฐศาสตร์เหล่านั้นเชิญพรรคเพื่อไทยมาซักถามเป็นรายนโยบาย เพราะนโยบายแต่ละด้านที่ออกมานั้นพรรคได้ศึกษารอบคอบแล้วว่าทำได้จริง
“นักเศรษฐศาสตร์ไม่ควรอยู่บนหอคอยหรือห้องแอร์ จึงไม่รู้ความจริง ซึ่งพรรคมองอนาคตไม่ได้มองอดีต ไม่อยากคิดเหมือนที่คอลัมนิสต์ในสื่อบางฉบับออกมาบอกว่าให้ระวังในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีนักวิชาการออกมาถล่มนโยบายทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย”นายพิชัย กล่าวพร้อมเห็นว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มนี้มองว่าทำไม่ได้ เช่น บัตรเครดิตเกษตรกรนั้น ความจริงที่ประเทศอินเดียทำสำเร็จมาแล้ว และพรรคก็ต้องการให้เกษตรกรไม่โง่จนเจ็บเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเรื่องโครงการจำนำนั้น นโยบายของพรรคยืนยันว่าจะไม่ใช่โครงการจำนำแบบเดิม แต่เป็นโครงการจำนำแบบ 2.0 ที่เอาข้อดีของระบบจำนำและระบบประกันมารวมกันที่สามารถควบคุม supplyได้ มีการจดทะเบียนที่ไม่สามารถทำสต๊อกลมหาประโยชน์ได้
ส่วนนโยบายเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ทำได้แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการคอรัปชั่น เช่นเดียวกับ การสร้างเขื่อนป้องกันกรุงเทพฯ ที่เรื่องนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ อาจให้บริษัทต่างชาติมาลงทุนและสร้างเป็นเมืองใหม่ ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นสุดยอดความคิดที่ในกรุงอัมสเตอร์ดัมทำสำเร็จมาแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น