"ปานเทพ" แนะโหวตโน ยุติความสูญเสียอย่างสันติ สร้างชาติเป็นของคนไทยทุกคน

"ปานเทพ" วอน ปชช.ร่วมโหวตโน ปฏิรูปปท.ด้วยแนวทางสันติวิธี ไม่ต้องนองเลือด ชี้กาเลือกพรรคใดจะต้องยอมจำนนในระบบอย่างไม่มีกำหนดเวลา ด้าน"ดร.ประยูร" อัด รบ.ไม่ทำตาม 3 ข้อเรียกร้องพธม. แล้วยังไม่ฉลาดมีที่ไหนคดี 50 ปี ไม่ขาดอายุความ ขณะที่ "เทพมนตรี" เตือนทูต"ดร.วีรชัย" ระวังทนายฟรั่งเศสของไทย-เขมร ทั้งคู่สนิทสนมกัน แนะใช้เอกสารANNEX 2 Counter หมายเลข 49 ยันเขมร กรณีแผนที่ 1:200000


วันที่ 30 พ.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีรณรงค์โหวตโน ว่า 1 ประท้วงนักการเมืองทุกฝ่ายด้วยแนวทางสันติวธิ ว่าเป็นคนใช้ไม่ได้ 2.ส่งสัญญาณปฎิรูปครั้งใหญ่ว่า เราต้องการการเปลี่ยนแปลง สำหรับพี่น้องบางคนที่กลัวพรรคเพื่อไทย ต้องจำใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยากทำความเข้าใจว่ายิ่งเลือกฝ่ายตรงข้ามเพื่อไทยมากเท่าไรยิ่งสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายทักษิณมากขึ้น ทั้งนี้คนเสื้อแดงบางกลุ่มมองออกว่าโหวตโนอย่างไร พรรคเพื่อไทยก็ได้เป็นรัฐบาล แต่โหวตโน คืออำนาจต่อรองของประชาชนที่จะต้านทานระบอบทักษิณได้ ซึ่งเขาต้องทลายทิ้ง จึงเห็นภาพออกมารณรงค์ให้ประชาชนไปโหวตYES สวนกับเรา

“หากทุกคนเคารพในระบบหมด พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เขาจะคอร์รัปชั่น โกงกิน แก้กฎหมายนิรโทษกรรมอย่างไรก็ได้ จะเป็นแบบพวกมากลากไปเพราะมีเสียงข้างมาก แม้ฝ่ายค้านยกมือค้านหรือจะอภิปรายเก่งแค่ไหนก็ไม่เป็นประโยชน์ และเราต้องยอมรับซึ่งไม่ใช่แค่ 4 ปี แต่ไม่มีกำหนดเวลา”

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นดังนี้ ก็อยากถามพี่น้องประชาชาชนว่า ไว้วางใจใครมากกว่ากันมากกว่ากันในการรับมือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในอนาคต ระหว่างไว้ใจนายอภิสิทธิ์ ซึ่งอยู่ในสภาและกำลังเป็นผู้แพ้ หรือไว้วางใจ 4 แกนนำพันธมิตรฯในการรับมือกับพ.ต.ท.ทักษิณ หากคะแนนเสียงของเราแทให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ยกมือค้านอย่างไรก็แพ้ เท่ากับไม่มีอำนาจต่อรองเลย กลับกันหากโหวตโน ไว้ใจแกนนำพันธมิตรฯ เราเห็นผลชัดเจนมาตลอด ทั้งนี้หากคนโหวตโนมากพอ จะทำให้แม้ไม่มีการชุมนุม แค่เอ่ยปากทำหนังสือเพียงฉบับเดียวก็มีพลังแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว คิดอย่างเดียวเลือกตั้งไม่ว่าจะเลือกพรรคใดถือเป็นคะแนนสร้างความชอบธรรมให้ระบอบทักษิณ โอกาสเดียวที่จะต้านทานพ.ต.ท.ทักษิณและปฎิรูปประเทศได้ คือ โหวตโน

การเมืองที่ทุจริตเลือกตั้งไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย เมื่อ กกต.ไม่สามารถจับทุจริตเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องลงมือเอง เหลือเวลาอีกไม่มากก่อนการเลือกตั้ง อยากชวนพี่น้องรณรงค์โหวตโนให้เต็มที่ 1.เราตองช่วยกันเพิ่มจำนวนคนโหวตโน ด้วยการพูดคุยคนที่ยังไม่รู้ให้ได้วันละ 5 คน แล้วให้ 5 คนไปบอกต่อ 2. เป็นหูเป็นตาจับคนโกงเลือกตั้งครั้งนี้ หากพบเห็นช่วยถ่ายคลิป หรือวีดีโอไว้ แล้วส่งหลักฐานไปให้ กกต.จังหวัด

นายปานเทพ กล่าวย้ำสำหรับพี่น้องประชาชนทุกคน ว่า 1. สำหรับคนที่เป็นพันธมิตรฯ ถ้าอยากให้มีอำนาจต่อรอง ไม่อยากให้มีการชุมนุม ต้องช่วยสร้างอำนาจต่อรองด้วยการโหวตโน ซึ่งเป็นหลักประกันสุดท้ายในการทานอำนาจทักษิณ 2 สำหรับคนที่ยังลังเลเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะกลัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลัวพรรคเพื่อไทยจะกลับมา นั้น ไม่ต้องสงสัยเลย เลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยชนะอยู่แล้ว หากท่านเลือกประชาธิปัตย์เข้าไป เท่ากับยอมจำนนต่อระบบกลายเป็นผู้แพ้ในสภา แล้วท่านจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงอีกต่อไป จะไม่เหลือหลักประกันอะไรเลยในการทานอำนาจกับพ.ต.ท.ทักษิณ 3. โหวตโนเท่านั้นที่จะยุติความรุนแรง การปะทะ นองเลือด 4.หากเบื่อนักการเมืองขี้โกง และต้องการการเปลี่ยนแปลงต้องโหวตโนเท่านั้นแก้ไขได้ พี่น้องที่รักเสื้อแดง รักพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย นิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาชนจอีกจำนวนมากจะต่อต้านไม่รู้จบ หากกลับใจมาโหวตโน จะไม่มีการเผชิญหน้าปะทะระหว่างคนไทยด้วยกัน ไม่มีรัฐประหาร 5.ทหารที่ตัดสินใจทำรัฐประหารเมื่อปี 49 หรือล๊อบบี้พลิกขั้วเมื่อปี 51 เป็นที่เห็นแล้วว่าแก้ปัญาไม่ได้ ภายใต้รัฐบาลหน่อมแน้มแบบนี้ 6.ตำรวจ ซึ่งดูแลการชุมนุมไม่ว่าพันธมิตรหรือเสื้อแดง ท่านโดนคดีไม่น้อย ถูกบังคับจากการเมือง ดังนั้นหากท่านไม่อยากให้มีการชุมนุมที่ทำให้ท่านต้องซวยเช่นนี้ ต้องโหวตโนปฏิรูปการเมืองท่านถึงรอด 7.ตุลาการ หากระบอบทักษิณกลับมา เป็นไปได้สูงระบบหลักนิติรัฐจะถูกทำลายแล้วศาลท่านอาจอยู่ไม่ได้ หรือใช้กฎหมายไปหักกับเขาเพื่อให้ประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล เสื้อแดงก็จะชุมนุมต่อไป

“ประเทศจะรอดต้องโหวตโนเท่านั้น อยากให้ทุกอาชีพ ทุกชนชั้น ทุกสังคม เดินหน้าปฎิรูปการเมือง แบบสันติวิธี ไม่ต้องนองเลือด ใครมีเหตุผลดีในการปฎิรูปประเทศมากกว่ากัน ฝ่ายนั้นจะได้รับการตอบสนองจากคนไทยทั้งชาติไม่ใช่สีใดสีหนึ่ง หากเลือกการปะทะตามต้องถนน เลือกข้างผลักดันเป็นรัฐบาล จะไม่มีทางได้รับชัยชนะมีแต่สูญเสียมากขึ้นทุกวัน”

ด้าน ดร.ประยูร อัครบวร อดีตรองเลขาฯ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า น่าเศร้าสำหรับสังคมไทยมีนักกฎหมายที่เป็นศรีธนญชัยทั้งประเทศแต่ไม่มีปัญญาสู้กับเขมร มีคดีความที่ไหนต่อสู้มา 50 ปียังไม่หมดอายุความ แนะนำให้รัฐบาลไปถามสถาบันที่สอนกฎหมายระหว่างประเทศ ว่า มีคดีไหนบ้างที่ไม่สิ้นอายุความ ถ้าไม่มีช่วยบอกด้วย กรณีประเด็นเขาวิหาร ศาลโลกตัดสินแล้ว เราล้อมรั้วกั้นไว้ กษัตริย์กัมพูชาเองก็ขึ้นชมปราสาททางช่องบันไดหัก ถือว่าไทยได้ทำตามคำสั่งศาลโลกทุกอย่างแล้ว อย่างไรก็ดีเมื่อเราถลำมาถึงขั้นนี้ หากรัฐบาลทำตาม 3 ข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ เรื่องก็จบตั้งนานแล้ว จะไม่มีการชุมนุมแถมได้คะแนนเสียงจากพันธมิตรฯอีกต่างหาก

ดร.ประยูร กล่าวถึงประเด็น โหวตโน ว่า ยืนยันไม่มีแกนนำคนไหนชี้นำให้ตนพูด หากชี้นำตนคงไม่มาหรอก โหวตโนไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เป็นพันธสัญญาของคนรักชาติบ้านเมือง เป็นการส่งสัญญาณเตือน หากรัฐบาลปล้านชาติเข้ามาบริหารประเทศอีกเดี๋ยวก็ต้องเจอพันธมิตรฯ รัฐบาลยุบสภาไม่ใช้การหาทางออกของประชาธิปไตย แต่เป็นเพราะหนีพันธมิตรฯ นายอภิสิทธิ์ เคยพูดบอกจะยุบสภาเมื่อเศรษฐกิจดี สังคมปรองดอง ตอนนี้ข้าวยากหมากแพง ยังไม่ปรองดอง พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่สมควรได้รับการเลือกเข้าไปนั่งในสภา สุดท้ายขอให้พวกเราหนักแน่นแล้วชัยชนะจะเป็นของเรา

ขณะที่ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวฝากถึง ดร.วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่าทนายฝรั่งเศสที่ไทยจ้าง มีความสนิทสนมกับทนายฝรั่งเศสที่เขมรจ้าง ดังนั้นขอให้ระมัดระวังไว้ อีกอย่างขอให้ท่านไปค้นเอกสาร ANNEX 2 Counter หมายเลข 49 มีอยู่แล้วในห้องสมุดศาลโลก เป็นบันทึกท้ายคำฟ้องและคำแก้ต่างของฝ่ายไทย และมีแผนที่ 1:10000 อยู่ด้วย เราควรเอาข้อมูลนี้ไปงัดกับเขมรกรณีแผนที่ 1: 200000 ใช้เอกสารให้เป็นประโยชน์ อย่าหลบหรือเอาใจเขมร และต้องใช้สิทธิ์แทรกแซงทนายฝรั่งเศสตัวเองด้วยหากจำเป็น เพราะประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคมเขมรมาก่อน ผลประโยชน์ในเขมรเยอะมาก

นายปานเทพ กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ ว่าดูเหมือนไม่ค่อยพอใจการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่ต้องเข้าใจว่าที่ได้ท่านได้เป็นนายกฯ ก็เป็นเพราะข้อมูลจากเวทีนี้แหละ ในฐานะที่ตนก็เป็นคนหนึ่งที่เคยให้ข้อมูลไปอภิปรายมีส่วนทำให้ได้เป็นนายกฯ ก็อยากบอกว่า ท่านไม่ควรเป็นนายกอีกแล้ว ประเทศให้โอกาสท่านมามากแล้ว ท่านไม่ใช่ตระบัติสัตย์อย่างเดียวยังไม่รู้จักบุญคุณด้วย ข้อมูลของเรา ส่วนหนึ่งได้จาก ดร.สมปอง สุจริตกุล ท่านไปใช้ในการปภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ท่านไม่ให้เครดิตเราเลย ดังนั้นตนถือว่าท่านเนรคุณ ขาดคุณสมบัติพื้นฐานไม่เหมาะเป็นนายกฯ