xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.สมปอง” ชี้ ผอ.ยูเนสโก เล่นละครตบตาไทยหวังช่วยเขมรเคลม “พระวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล (ภาพจากแฟ้ม)
อดีตทีมสู้คดีพระวิหารศาลโลก-ผู้เชี่ยวชาญมรดกโลก ชี้ “นางโบโกวา” ผอ.ยูเนสโก เอนเอียงมาฝ่ายไทยให้ตายใจ แท้ที่จริงหวังช่วยเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยเร็ว หวั่นหากขัดแย้งมากกว่านี้ จะผิดธรรมนูญของยูเนสโก แนะควรโต้แย้งเขมรใช้ปราสาทซ่องสุมอาวุธรุกรานไทย จนต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเอง

(26 พ.ค.) ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะอดีตทนายความผู้ทำคดีปราสาทพระวิหารปี พ.ศ.2502-2505 อดีตหัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำยูเนสโก และเป็นอดีตที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกเรื่องมรดกโลก ได้ตีพิมพ์บทความใน เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ โดยตั้งข้อสังเกตต่อการเข้าร่วมประชุมนอกรอบเรื่อง มรดกโลกระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กรุงปารีส ของ นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการยูเนสโกโดยไม่ได้รับเชิญ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ศ.ดร.สมปอง ระบุว่า ท่าทีของนางนางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการยูเนสโก ซึ่งดูเหมือนเอนเอียงมาทางฝ่ายไทยนั้น หากพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้ว จะเห็นได้ว่าแท้ที่จริงนั้น นางโบโกวา มีวัตถุประสงค์เพียงรักษาผลประโยชน์ของฝ่ายตน เพื่อให้การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกสำเร็จลุล่วงไปในที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายถอยโดยขอให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องพื้นที่บริหารจัดการออกไปแทนที่จะโต้แย้งขั้นเด็ดขาดมิให้มีการขึ้นทะเบียนตั้งแต่แรก

“นางโบโกวา รู้ดีว่า หากยอมให้มีการโต้เถียงยืดเยื้อถึงขั้นรุนแรงกว่านี้ ก็จะเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีปัญหาขัดแย้งซึ่งผิดธรรมนูญของยูเนสโกว่าด้วยการรักษาสัมพันธภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศภาคี และไม่ส่งเสริมให้มีการขัดแย้งอันอาจนำมาซึ่งการใช้กำลัง” ศ.ดร.สมปอง ระบุ

ศ.ดร.สมปอง ระบุอีกว่า สรุปได้ว่า นางโบโกวา พยายามช่วยกัมพูชาให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยใช้กุศโลบายที่แนบเนียน และละมุนละม่อมเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ ท่าทีที่แสดงว่าเข้าข้างไทยน่าเป็นละครฉากหนึ่ง เพราะในส่วนลึก สิ่งที่น่าหวั่นเกรงมากที่สุดของยูเนสโกคือไทยถอนตัวจากอนุสัญญามรดกโลก เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเคยถอนตัวจากยูเนสโกแล้วถึงสองครั้ง

ทั้งนี้ การที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยทำความเสียหายโดยยิงปืนใส่ซากปราสาทพระวิหารนั้น ไทยควรโต้แย้งว่ากัมพูชาต่างหากเป็นฝ่ายใช้ปราสาทเป็นที่มั่นซ่องสุมกำลังทหารและสรรพาวุธรุกรานฝ่ายไทยโดยใช้อาวุธสงครามยิงบ้านเรือนและราษฎรไทยจากจุดดังกล่าว ไทยจึงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้กำลังตอบโต้เพียงเพื่อป้องกันตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น