บรรยากาศ การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ วันที่ 5 พ.ค. มวลชนหนักแน่นในจุดยืน ชูมือตบ ออกมาแสดงความรักชาติ ด้านบนเวทีบรรดาแกนนำ ผู้เชียวชาญ ทยอยขึ้นเวทีตอกย้ำความล้มเหลวในการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล อย่างไม่ขาดสาย
โดยในช่วงเสวนาราชอาณาจักไทยกำลังเสียดินแดน ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงเรื่องดินแดน ว่า อยากเรียนผู้มีอำนาจในบ้านเมือง บรรพบุรุษของเราใด้ใช้สติปัญญา ความกล้าหาญ เหนื่่อยยากในการต่อสู้กับฝรั่งเศส จนมีที่ยืนอยู่ถึงทุกวันนี้ ดังนั้น คนไทยทั้งหลายมีหน้าที่ต้องรักษาดินแดนที่บรรพบุรุษต่อสู้ หากไม่ทำถือว่าท่านกำลังฆ่าตัวตายทางการเมือง ทรยศต่อแผ่นดิน
ส่วนกรณีที่ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ วิเคราะห์โหวตโนทำให้เกิดการรัฐประหาร นั้น เป็นความคิดที่ไร้เดียงสาทางวิชาการ ขาดข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการรัฐประหารเกิดจากโหวตโน การเกิดรัฐประหารทุกครั้งมีสาเหตุมาจาก ความขัดแย้งของรัฐบาล ดังนั้นกรุณาอย่างบิดเบือน ย้ำโหวตโน เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง หากทุกคนต้องการเห็นการเมืองเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้้น ขอให้มาร่วมกันโหวตโน
ด้าน นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า หากเราไปศาลโลก ทีมทนายที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งเป็นทีมที่ไม่เก่ง เป็นทีมเดียวกับที่นายนพดล ปัทมะ เคยใช้งาน เป็นทีมที่กลัว แผนที่1:200000 ซึ่งจะทำให้เราแพ้ หากนายอภิสิทธิ์ ต้องการเรียกคะแนนคืน ให้เอาตัวปราสาทเขาวิหารคืน ตามคำแนะนำของดร.สมปอง สุจริตกุล แล้วเราจะพลิกจากโหวตโน เป็นเทคะแนนให้ นายอภิสิทธิ์ เป็นคนตระบัตสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ไม่รู้จักกาลเทศะในยามที่ ในหลวง ทรงประชวร แพททย์ออกมาบอกงดพระราชกรณียกิจระยะหนึ่ง ก็ยังดื้อดึงที่จะยุบสภา ถือว่านายอภิสิทธิ์ เลือกข้างที่จะเล่นการเมือง มากกว่าจะผู้สนองรับพระราชโองการ ดังนั้น ควรลาออกจาการเป็นนายกได้แล้ว
