ออกมาวาดลวดลายตีฝีปากข่มชาวบ้านเป็นรายวัน คุยโวโม้แหลกพรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่งเท่านั้นเท่านี้ จะได้เป็นกอบเป็นกำเกิน 200 เก้าอี้สูสีกับพรรคเพื่อไทย เท่านั้นไม่พอยังแกทับบลัฟแหลกคู่แข่ง พูดจาเสียดสีชนิดสนุกปาก
สมัยเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลความมั่นคง มีอำนาจใหญ่โต เลยกร่าง ก้าวร้าวติดเป็นนิสัย พอเข้าช่วงเลือกตั้งก็ยังไม่หยุด ด่ากราดระรานไปทั่ว
ล่าสุดโดนดีเข้าจนได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบนายสุเทพพูดจาเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ใส่ร้ายป้ายสีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
โดนตอกกลับเล่นถึงขั้นยุบพรรค โอษฐภัยแท้ๆ!!
ลีลากร่างที่ใครต่อใครยอมก้มหัวซูฮกยามมีอำนาจ แผ่กระจายไม่เว้นแม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคต้นสังกัดของ ฯพณฯ เอง วางขุมกำลังเครือข่าย กวาดต้อนส.ส.เข้ามาอยู่ในสังกัด แบบไม่เกรงใจใคร ทำตัวเป็นพี่บิ๊กพี่เบิ้มสุดๆ
พอถึงฤดูกาลเลือกตั้งก็จัดแจงวางจัดตัวผู้สมัคร ส.ส. วางคนในคอนโทรลลงเต็มพรืดไปหมด ที่น่าเกลียดจนทำให้คนในพรรคด้วยกันเองต้องออกมาโวยวาย เป็นข่าวครึกโครม “เทพเทือก” เล่นเอา “ขิง” เอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ลูกบุญธรรมมาลงสมัคร ส.ส.กทม.ทับที่สัมปทานคนเก่ากันดื้อๆ
ทั้งๆ ที่พื้นเพดั้งเดิมของตระกูลนายสุเทพก็ไม่ได้อยู่ในเขตทวีวัฒนา หนองแขม แต่อย่างใด เพิ่งย้ายมาปลูกบ้านอยู่ไม่ทันไร ก็คิดจะลงหลักปักฐานเสียแล้ว
ทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดง สุดท้าย ส.ส.ตัวเล็กๆ อย่าง “วัชระ เพชรทอง” ต้องเป็นฝ่ายหลีกทางให้ผู้สมัครโนเนมหน้าใหม่เสียบลงพื้นที่แทนด้วยความจำใจ
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กหน้าใหม่ เปิดซิงมาเลย “เอกณัฐ” ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปหาเสียงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ครั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัย เคาะประตูบอกชาวบ้าน ก็เกรงว่าจะโดนเอาไม้กวาดไล่ส่ง นึกว่ามาขายประกัน??
สุดท้ายก็มีข่าวเมาท์แตกว่า “เทพเทือก” ต้องใช้เกมใต้ดินช่วยลูกชาย ไปหาหัวคะแนน ทั้งขอให้สมัครใจมา ทั้งล็อกคอตีเข่าให้มาช่วย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายราชการ ตำรวจ อิทธิพลมืด ถึงขนาดต้องไปเอาเจ้าของผับ ก๊วน แกงค์ลักเลงท้องถิ่นต่างๆ มาช่วยเลยทีเดียว
แน่นอนว่า เครือข่ายคนเหล่านี้ย่อมหนีไม่พ้นที่จะพัวพันไปถึงขบวนการค้ายาเสพติด เครือข่ายขูดรีดประชาชน ปล่อยกู้เก็บดอกมหาโหด ก็ไม่แน่ใจว่า “เทพเทือก” จะหาเสียงหาคะแนนกันถึงขั้นนี้เลยเชียวหรือ
อย่างว่า เมื่อไปจี้ปล้นเอาโควตาเขามาแล้ว ถ้าทำให้เสียของ เสียพื้นที่นั่ง ส.ส.เดิมไป คงหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ แถมยังต้องโดนด่าตะพึดตะพือจากทั้งคนในพรรค และนอกพรรคแน่นอน
ดังนั้น จึงต้องเดินเกมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู มีวิทยายุทธ์วิชาเทพ วิชามารอะไรที่พอจะนึกออก ก็งัดมาใช้ทุกกระบวนท่า เพราะสนามนี้แพ้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ การเดินเกมเดินหมากของ “เทพเทือก” ครานี้ คิดสะระตะแล้วมันไม่ได้ใจ ไม่ได้ความเคารพจากเพื่อนฝูงน้องพี่แวดวงการเมืองด้วยเลย มีแต่สร้างความกระอักกระอ่วน ศัตรูก็หยามหยัน มิตรก็มองด้วยหางตา
นักการเมืองที่เลือกทางเดินที่คิดถึงตัวเอง คิดถึงแต่ครอบครัว ไม่คำนึงถึงส่วนรวมเช่นนี้ ตายจากไปโดยไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ก็มีให้เห็นหลายคนแล้ว ทำไมไม่จำเป็นบทเรียนบ้างเล่า!!
สมัยเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลความมั่นคง มีอำนาจใหญ่โต เลยกร่าง ก้าวร้าวติดเป็นนิสัย พอเข้าช่วงเลือกตั้งก็ยังไม่หยุด ด่ากราดระรานไปทั่ว
ล่าสุดโดนดีเข้าจนได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบนายสุเทพพูดจาเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ใส่ร้ายป้ายสีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
โดนตอกกลับเล่นถึงขั้นยุบพรรค โอษฐภัยแท้ๆ!!
ลีลากร่างที่ใครต่อใครยอมก้มหัวซูฮกยามมีอำนาจ แผ่กระจายไม่เว้นแม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคต้นสังกัดของ ฯพณฯ เอง วางขุมกำลังเครือข่าย กวาดต้อนส.ส.เข้ามาอยู่ในสังกัด แบบไม่เกรงใจใคร ทำตัวเป็นพี่บิ๊กพี่เบิ้มสุดๆ
พอถึงฤดูกาลเลือกตั้งก็จัดแจงวางจัดตัวผู้สมัคร ส.ส. วางคนในคอนโทรลลงเต็มพรืดไปหมด ที่น่าเกลียดจนทำให้คนในพรรคด้วยกันเองต้องออกมาโวยวาย เป็นข่าวครึกโครม “เทพเทือก” เล่นเอา “ขิง” เอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ลูกบุญธรรมมาลงสมัคร ส.ส.กทม.ทับที่สัมปทานคนเก่ากันดื้อๆ
ทั้งๆ ที่พื้นเพดั้งเดิมของตระกูลนายสุเทพก็ไม่ได้อยู่ในเขตทวีวัฒนา หนองแขม แต่อย่างใด เพิ่งย้ายมาปลูกบ้านอยู่ไม่ทันไร ก็คิดจะลงหลักปักฐานเสียแล้ว
ทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดง สุดท้าย ส.ส.ตัวเล็กๆ อย่าง “วัชระ เพชรทอง” ต้องเป็นฝ่ายหลีกทางให้ผู้สมัครโนเนมหน้าใหม่เสียบลงพื้นที่แทนด้วยความจำใจ
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กหน้าใหม่ เปิดซิงมาเลย “เอกณัฐ” ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปหาเสียงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ครั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัย เคาะประตูบอกชาวบ้าน ก็เกรงว่าจะโดนเอาไม้กวาดไล่ส่ง นึกว่ามาขายประกัน??
สุดท้ายก็มีข่าวเมาท์แตกว่า “เทพเทือก” ต้องใช้เกมใต้ดินช่วยลูกชาย ไปหาหัวคะแนน ทั้งขอให้สมัครใจมา ทั้งล็อกคอตีเข่าให้มาช่วย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายราชการ ตำรวจ อิทธิพลมืด ถึงขนาดต้องไปเอาเจ้าของผับ ก๊วน แกงค์ลักเลงท้องถิ่นต่างๆ มาช่วยเลยทีเดียว
แน่นอนว่า เครือข่ายคนเหล่านี้ย่อมหนีไม่พ้นที่จะพัวพันไปถึงขบวนการค้ายาเสพติด เครือข่ายขูดรีดประชาชน ปล่อยกู้เก็บดอกมหาโหด ก็ไม่แน่ใจว่า “เทพเทือก” จะหาเสียงหาคะแนนกันถึงขั้นนี้เลยเชียวหรือ
อย่างว่า เมื่อไปจี้ปล้นเอาโควตาเขามาแล้ว ถ้าทำให้เสียของ เสียพื้นที่นั่ง ส.ส.เดิมไป คงหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ แถมยังต้องโดนด่าตะพึดตะพือจากทั้งคนในพรรค และนอกพรรคแน่นอน
ดังนั้น จึงต้องเดินเกมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู มีวิทยายุทธ์วิชาเทพ วิชามารอะไรที่พอจะนึกออก ก็งัดมาใช้ทุกกระบวนท่า เพราะสนามนี้แพ้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ การเดินเกมเดินหมากของ “เทพเทือก” ครานี้ คิดสะระตะแล้วมันไม่ได้ใจ ไม่ได้ความเคารพจากเพื่อนฝูงน้องพี่แวดวงการเมืองด้วยเลย มีแต่สร้างความกระอักกระอ่วน ศัตรูก็หยามหยัน มิตรก็มองด้วยหางตา
นักการเมืองที่เลือกทางเดินที่คิดถึงตัวเอง คิดถึงแต่ครอบครัว ไม่คำนึงถึงส่วนรวมเช่นนี้ ตายจากไปโดยไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ก็มีให้เห็นหลายคนแล้ว ทำไมไม่จำเป็นบทเรียนบ้างเล่า!!