พันธมิตรฯ สงขลา วอน ปชช.ก้าวให้พ้นคนที่ชอบ-พรรคที่ใช่ อย่าหลงกลกับดักการเมืองล่อด้วยเงิน-นโยบายสวยหรู ท้ายสุด รบ.-ฝ่ายค้าน จับมือกันโกง ระบุประเทศตกอยู่ในมือคนชั่วโกงกินนานเกินไปแล้ว แนะมวลชนใช้สิทธิรวมพลัง ร่วมกันปูทางใหม่ให้ลูกหลาน ชี้ “โหวตโน” คือพลังจับตา รบ. พร้อมพัฒนาไปสู้การปฎิรูปประเทศในที่สุด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสุมิตร นวลมณี”
วันที่ 18 พ.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุมิตร นวลมณี พันธมิตรฯ สงขลา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก เป็นศึกชิงอำนาจหวังสานต่อการโกง เพราะมีงบประมาณสองล้านล้านบาทรออยู่ ขณะที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะเช่นนี้ แล้วรัฐบาลหนีปัญหาไปเลือกตั้ง เท่ากับเอาปัญหาไปซุกไว้ใต้พรม ให้เป็นดินพอกหางหมู เหมือนระเบิดเวลาที่ต้องกลับไปแก้ อย่างนายชวน หลีกภัย วางระเบิดด้วยเอ็มโอยู 43 ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วางระเบิดด้วยมวลชนคนเสื้อแดง เราไม่เอาทางเลือกซึ่งเป็นทางลงนรก เวลาเช่นนี้พี่น้องอย่าหวังพึ่งใคร ต้องลุกขึ้นมาพึ่งตัวเอง
อย่างไรก็ดี เมื่อมีรัฐบาลเข้ามาบริหาร เราก็ให้โอกาส แต่โอกาสเหล่านั้นของรัฐบาลหมดแล้ว ต่อไปเราจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับลูกหลานในอนาคต พี่น้องอย่าให้งบประมาณเลือกตั้งสูญเปล่า มองให้ไกล อย่ามองการเลือกตั้งทำได้เพียงเลือกพรรคที่รัก เลือกคนที่ชอบ เพราะเราคือผู้สร้างทาง หนทางย่อมขลุขละก่อนจะราบเรียบให้ลูกหลานเดินในอนาคต การโหวตโน อย่างน้อยก็เป็นตัวคานอำนาจอันพึงทำได้ในฐานะประชาชนมือเปล่า
นายสุมิตรกล่าวต่อว่า เราทอดทิ้งสังคมให้โดดเดี่ยว เราปล่อยให้ประเทศตกอยู่ในมือนักการเมืองโกงกิน เราปล่อยให้สงคมฟอนแฟะนานเกินไปแล้ว ไม่ต่างจากเราปล่อยให้ไฟไหม้บ้านจนเหลือห้องนอนเราเพียงห้องเดียว หากเราไม่ลุกออกมาดับไฟเดี๋ยวนี้ ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว การต่อสู้เที่ยวนี้ขอให้พี่น้องยอมเหน็ดเหนือย ตนเชื่อไม่สูญเปล่า และอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เรามาเหนื่อยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ทั้งนี้ อำนจอยู่ในมือพี่น้องเพียงแต่พี่น้องไม่เคยใช้อำนาจ ให้ออกมาเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ บางคนหายใจทิ้งไปวันๆ พวกนี้เป็นคน ไม่เห็นโรงศพไม่หลังน้ำตา หากวันใดที่ไม่มีสถาบันที่เคารพรัก ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีร่มเงาแห่งบรรพบุรุษให้สักการะ วันนั้นเราจะใช้ชื่อความเป็นคนไทยอยู่ได้อย่างไร
พันธมิตรฯ สงขลา กล่าวว่า นักการเมืองมองเราเป็นสัตว์ทดลอง เลือกตั้งเขาก็เอากับดักมาวาง เช่น หลอกล่อด้วยการเอาเงินไปซื้อ เอานโยบายไปให้ สุดท้ายนโยบายสวยหรูก็ทำไม่ได้ นักการเมืองพวกนี้เมื่อเข้าไปเป็น ส.ส. สิ่งแรกที่คิด คือ จะแบ่งตำแหน่งโยงผลประโยชน์เดิมได้อย่างไร ดังนั้น หากพี่น้องคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นสัตว์ทดลอง ที่จะไปอยู่ในกับดักนั้น ก็จงอย่างหลงเชื่อให้ออกมาจากกับดักเสีย
เมื่อถึงเทศกาลเลือกตั้ง ทุกพรรคต่างเสดงบทอัศวินขี่ม้าขาว ออกนโยบายสวยหรู ขอพี่น้องอย่าลืมว่านี่เป็นเพียงสีสันทางการเมือง สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็ร่วมจับมือกัน อย่างที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเป็นนายหน้าให้กับรัฐบาล ซื้อเกาะทั้งเกาะ ความทรงจำเหล่านี้พี่น้องเจ็บปวดกันบางหรือไม่ ในเร็วๆ นี้เราจะได้เห็นสัตว์ผสมพันธ์กัน ดังนั้นพี่น้องต้องไม่ให้สัตว์เข้าสภา ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องระลึกไว้เสมอว่า ที่เราออกมาลำบากครั้งนี้เป็นการกู้บ้านกู้เมืองครั้งสำคัญ อย่าไปสนว่าใครจะว่าโหวตโน สูญเปล่าเอาคะแนนไปทิ้งน้ำ โดยเฉพาะพวกอีแอบพันธมิตรฯเพื่อประชาธิปัตย์ ที่เคยแฝงตัวอยู่กับเรา พวกนี้เป็นตัวดึงขาของเราให้เกิดความแตกแยก
“พันธมิตรฯ พูดแรงๆ ก็บอกสังคมรับไม่ได้ ก็เพราะไม่พูดความจริงกันไง ถึงเวลาสังคมต้องยอมรับความจริง อย่าทำเป็นสังคมลูบหน้าปะจมูก นั่งทับขี้ตัวเอง พอพันธมิตรพูดตรงๆ บอกรับไม่ได้กักขฬะ ไม่มีหลักการ ขอถามพวกที่อ้างตัวเองมีหลักการ ทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง ที่บอกพันธมิตรฯไม่มีหลักการ อย่างน้อยก็ไล่คนจัญไรออกจากประเทศได้”
นายสุมิตรกล่าวว่า โหวตโนครั้งนี้จะเป็นคะแนนเสี่ยงฝ่ายค้านที่มากที่สุด มากกว่าฝ่ายค้านจริงที่อยู่ในสภาฯ ทำให้ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล ต้องเกรงกลัวอำนาจของพลังโหวตโน ที่จะจับจ้องการทำงานของรัฐบาลตลอด หากทำดีพวกเราจะสนับสนุน แต่หากทำชั่วจะเผชิญกับพวกโหวตโนทันที
นายสุมิตรเล่าประวัติตัวเอง หลังมีคนกล่าวหาว่าเป็นพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าหากินกับพันธมิตรฯ พร้อมวอนให้คนพวกนี้หุบปาก ทั้งนี้ ตนต่อสู้มากับพันธมิตรฯ 6 ปีแล้ว และไม่เคยคิดเปลี่ยนอุดมการณ์ การมุ่งร้ายตนไม่ท้อ หากท้อคงถอยไปนานแล้ว เชื่อพี่น้องหลายคนคงเจอเช่นเดียวกับตน โดยเฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ นี่ตัวแสบจริงๆ พี่น้องต้องระวัง ใช้ขบวนการกล่าวอ้างทำลายกัน “เงินของพี่น้องพันธมิตรฯ แม่แต่บาทเดียวก็คือเงินของชาติ หากใครโกงสักสตางค์เดียวก็ฉิบหายไปทั้งโคตรแล้ว” อย่างไรก็ดี หากยังสงสัยว่าตนเอาเงินมาจากไหนนั้น 1.มีพี่น้องทำสวนยาง 2.ทำงานโปรเจกต์เป็นปี ปลายปีจะมีงานประจำปี ซึ่งเขียนโปรเจกต์ไว้ตั้งแต่ปีนี้แล้วไปทำปีหน้า ตนคิดงานไกลมากกว่านายอภิสิทธิ์ด้วยซ้ำ
“คนสงสัยโหวตโนได้อะไร คนพวกนี้ถามอยู่ได้ ทั้งที่เขาตอบจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว เอเอสทีวีก็กรอเทปให้ดูทั้งคืน หนังสือพิมพ์ก็มี พวกนี้ไม่ติดตามข่าวสารติดอยู่ในกับดักได้ง่าย คนที่ตกอยู่ในกับดักแล้วไม่ยอมออกมาถือเป็นน่าเศร้าของแผ่นดิน ส่วนที่ถามโหวตโนเยอะแล้วใครจะเป็นนายกฯ ตรงนี้เป็นคำถามโง่ๆ โหวตโนยังไม่มีผลทางกฎหมาย แต่เป็นพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องประชาชน ที่จะพัฒนาไปสู้การปฎิรูปใหญ่ต่อไป” นายสุมิตรกล่าว