xs
xsm
sm
md
lg

ก็แค่ “บริษัทชินวัตร” ส่ง ยิ่งลักษณ์ มาชิงอำนาจให้ ทักษิณ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดก็มีความชัดเจนเป็นทางการเสียทีกับการที่พรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (มีสามีและมีลูกแล้วแต่ใช้นางสาวนำหน้า) น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีทุจริต ลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอเป็นตัวแทนในการเสนอตัวลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แข่งกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศตัวไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี มติของพรรคเพื่อไทยดังกล่าวเมื่อบ่ายวานนี้( 16 พ.ค.) ก็ไม่ได้น่าแปลกใจหรือฮือฮาอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะชาวบ้านเขารู้กันมาตั้งนานแล้ว และคนในพรรคเพื่อไทยเองก็เคยนำเรื่องมาเปิดเผยเป็นระยะว่าต้องเป็นคนนี้ ดังนั้นมติของพรรคที่ว่าก็เป็นเพียงแค่ “พิธีกรรม” อำพรางเพื่อตบตา หรือเพื่อดูให้สมจริงสมจังเท่านั้น ว่านี่คือระบบพรรคการเมืองที่ต้องมีการประชุม มีการลงมติเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วพรรคเพื่อไทยในสายตาของคนทั่วไปที่ติดตามความเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ต้น ต่อเนื่องมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เรื่อยมาจนถึงพรรคพลังประชาชนจนถึงวันนี้ ไม่ต่างจาก “บริษัทชินวัตร” และยังเป็น “บริษัทจำกัด” เสียอีกไม่ใช่บริษัทมหาชน แต่อย่างใด เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่อง “เงิน” ในการบริหารจัดการภายใน มาจนถึงความคิด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ล้วนมาจากการกำหนดของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น หรือผ่านทางเครือญาติ เช่น ลูกเมีย พี่น้องอีกทอดหนึ่ง ส่วนสมาชิกพรรคคนอื่นๆเป็นเพียงแค่ลูกจ้างหรือบางครั้งมีบทบาทไม่ต่างจาก “คนรับใช้” ในบ้านก็มี

เพราะแม้แต่หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ลองไปถามสังคมทั่วไป หรือให้ถามพวกเดียวกันเองก็ได้ว่ามีบารมี มีวิสัยทัศน์ได้รับการยอมรับแค่ไหน หรือว่าเป็นแค่รับคำสั่งให้มาเป็นหัวหน้าพรรคของครอบครัวเท่านั้น

ดังนั้น การที่ ยิ่งลักษณ์ลาออกจากประธานบริษัท เอสซีแอสเสทฯ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพื่อลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ถือว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะรู้กันมาตั้งนานแล้ว

สิ่งที่ต้องติดตามก็คือ หากชนะการเลือกตั้ง โดยที่คนไทยทั้งประเทศคิดว่าชาตินี้จะขาดคนใน “ครอบครัวทักษิณ” ไม่ได้ คิดว่าถ้าไม่มีคนในตระกูลนี้เข้ามาสู่วงการเมืองแล้วจะทำให้ความเป็นอยู่ของตัวเอง ล่มจ่ม ธุรกิจเจ๊ง เหมือนกับที่เคยเห็นสติ๊กเกอร์โหยหาตลอดเวลา เช่น “เจ๊ง คิดถึง ทักษิณ” หรือ “จน เครียด คิดถึงทักษิณ” ฯลฯ มันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ

แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหากมองในแง่ดี การลงมาสู่การเมืองเต็มตัวจะต้องถูก “เอกซเรย์” อย่างละเอียดมากขึ้น ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในวงธุรกิจทำให้ถูกมองผ่านไป หรือเป้าหมายอาจยังไปอยู่ที่ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ที่เป็นทุกอย่างของคนในตระกูลนี้ก็เป็นได้

เพราะเชื่อว่าการตรวจสอบจะเริ่มตั้งแต่เรื่องส่วนตัว การดำเนินธุรกิจ ทุกอย่างจะต้องเข้มข้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งก็เชื่อว่ามีเรื่องชวนให้สงสัยอีกมากมาย ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่แต่งงานมีลูก มีสามีแล้ว ทำไมยังใช้คำว่า “นางสาว” นำหน้า แม้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ทำไมถึงไม่เหมือนคนทั่วไปที่ใช้คำว่า “นาง” หรือใช้นามสกุลตามสามี หรือตามกฎหมายใหม่ก็ใช้ทั้งสองนามสกุลต่อเรียงกันไปก็ได้ ซึ่งเรื่อง “หยุมหยิม” แบบนี้มันก็ต้องถูกตั้งข้อสงสัย ซึ่งล่าสุดฝ่ายประชาธิปัตย์ก็เริ่มสงสัยเข้ามาแล้ว

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องตั้งคำถามต่อไปก็คือ หากคนไทยตัดสินใจเลือก “น้องทักษิณ” คนนี้จนได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจริงๆ หนึ่งในภารกิจสำคัญก็คือ “นิรโทษกรรม” ให้กับพี่ชายใช่หรือไม่ แม้ว่าคำแรกที่พูดออกมาหลังมีมติพรรคว่าจะต้อง “ปรองดอง” ก็ตาม เพราะหากมีเรื่องแบบนั้นจริง รับรองว่าความหมายจะตรงกันข้ามแน่นอน ที่สำคัญจะเป็นการทำร้ายบ้านเมืองให้ดำดิ่งลงไปอีก ทำให้กลายเป็นว่าบ้านเมืองมีปัญหาเพราะคนในตระกูล “ชินวัตร” มีปัญหา

การที่พรรคเพื่อไทยส่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับหนึ่งเพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มันก็ไม่ต่างจากการเป็นตัวแทนของ “ตระกูล” หรือของครอบครัวเพื่อมาชิงอำนาจให้กับ ทักษิณ ที่เป็นพี่ชายเท่านั้น เพราะเป้าหมายสุดท้ายที่วางเอาไว้เป็นขั้นตอนทั้งระยะสั้นระยะยาวก็คือเริ่มจาก นิรโทษกรรม จากนั้นก็ “ปลดล็อก” เพื่อเดินกลับเข้ามาสู่อำนาจอีกครั้ง

อย่างไรก็ดีภาพที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ต่างจากการเมือง “น้ำเน่า” มองชาวบ้านทั่วไปเหมือน “พวกไพร่” ในความหมายที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นวาทะกรรมบิดเบือนผ่านทางแกนนำคนเสื้อแดงอย่างที่เป็นอยู่ เพราะ ไพร่ในความหมายนี้กำลังถูกต้มอีกรอบจาก “บริษัทพรรคเพื่อไทย” ของ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง!!

กำลังโหลดความคิดเห็น