“มาร์ค” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.รักษาการ บอกรู้สึกสบายใจขึ้น เตรียมชี้แจง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ปฏิทินเลือกตั้ง และหลักปฏิบัติราชการระหว่างเลือกตั้ง ขณะเดียวกันจะรายงานผลหารือปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชาให้ที่ประชุมได้รับทราบ พร้อมขอความเห็นด้านคมนาคมเสนอขอบรรจุอัตรากำลังของการรถไฟฯ เพิ่มอีกกว่า 2,400 อัตรา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังคงทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ หลังจากที่มีการประกาศยุบสภา ซึ่งจะมีผลในวันนี้ (10 พ.ค.) โดยนายกฯ เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เวลา 08.00 น.และเดินจากตึกไทยคู่ฟ้าไปยังตึกเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และพูดคุยกับสื่อมวลชนตามปกติ และกล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้น
มีรายงานว่าก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายอภิสิทธิ์ใช้โอกาสนี้ชี้แจงพระราชกฤษฎีกายุบสภาและปฏิทินวันเลือกตั้ง พร้อมบอกกล่าว ครม.ถึงหลักปฏิบัติราชการฝ่ายบริหารระหว่างการเลือกตั้ง โดยเฉพาะระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องศึกษาให้รอบคอบ อย่างกรณีปฏิบัติราชการคาบเกี่ยวหาเสียงพ้นเวลาราชการต้องไม่ใช้เครื่องไม้ เครื่องมือราชการเอื้อต่อการหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่ง หรือการใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งการเมืองสั่งการใดๆ
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์จะรายงานถึงผลการเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาต่อ ครม.ให้ได้รับทราบ หลังได้หารือกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซียที่ผ่านมา พร้อมรายงานผลการเจรจาระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กับนายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดน และข้อเสนอเงื่อนไขในการนำผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่พิพาทที่ได้พูดคุยกันเมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยเสนอให้กัมพูชาต้องถอนทหารออกจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาปฏิเสธ แต่ผลการพูดคุยล่าสุดทางกัมพูชามีท่าที่อ่อนลง โดยจะนำผลการหารือล่าสุดของ รมว.ต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศมารายงานให้ ครม.รับทราบและข้อความเห็น
สำหรับวาระ ครม.ทั้งหมดวาระเพื่อทราบเป็นข้อมูล วาระเพื่อทราบปกติ ส่วนวาระพิจารณาอาจแทรกเล็กน้อยแต่ต้องดูว่าขัดต่อระเบียบหรือไม่เพราะขณะนี้ ครม.มีสถานะรักษาการเท่านั้น เริ่มจาก กระทรวงคมนาคม จะเสนอเรื่องการขอบรรจุอัตรากำลังพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพิ่มอีก 2,400 อัตรา ให้ ครม.พิจารณาตามผลการศึกษาเรื่องกำลังคน หลัง รฟท.ปรับโครงสร้างเป็นหน่วยธุรกิจ ทั้งนี้ พนักงาน ร.ฟ.ท.ขาดแคลนส่วนใหญ่เป็นพนักงานช่างกล โดยจะเริ่มทยอยรับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554
วาระเพื่อทราบเป็นข้อมูลดังนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2554 ครั้งที่ 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอรายงานสถานการณ์น้ำในรอบสัปดาห์ (วันที่ 26 เม.ย.- 2 พ.ค.54 ) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เสนอการนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ (3-9 พ.ค.)
กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศ เดือน ม.ค.54 พร้อมกับรายงานข้อมูลเตือนภัยสินค้าเกษตรประจำเดือน เม.ย.54 ด้านกระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และสถานการณ์ภัยอันเนื่องมาจากกองกำลังนอกประเทศ บริเวณ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ และจ.ศรีสะเกษ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พ.ค.)
ส่วนวาระเพื่อทราบปกติ จำนวน 1 เรื่อง ได้แก่ รายงานผลการดำเนินการตามมติ ครม. เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณระยะ 3 ปี (พ.ศ.2554-2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ.2552-2556
พร้อมกันนี้จะมีการรายงานผลการดำเนินงานของ ครม. ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี่ที่ 2 ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. 52 - 30 ธ.ค. 2553 รายงานปัญหาอาชญากรรม 2554 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลโครงการ การจัดการเพลี้ยมันสำปะหลัง ระยะที่ 2 รายงายผลการดำเนินของศูนย์ป้องกันการทุจริตและละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับทางหลวงตามคำสั่งนายกฯ เป็นต้น