xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” เตือนนายกฯ กำหนดวันยุบสภามิบังควร ล่วงเกินพระราชอำนาจ “ในหลวง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” เอือมรัฐบาลหากินด้วยการเร่งอนุมัติโครงการแสนล้านในวันเดียวทิ้งทวนก่อนยุบสภา ซัดตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมาไม่มีรัฐบาลไหนตอแหล หน้าด้านกล้าทำแบบนี้ พร้อมเตือน “อภิสิทธิ์” วันยุบสภาเป็นพระราชวินิจฉัย “ในหลวง” ฝ่ายการเมืองมีอำนาจแค่เสนอไปเท่านั้น การกำหนดวันเท่ากับเป็นการบีบบังคับ อีกทั้งไม่เคารพศาล รธน.อีกด้วย เพราะกฎหมายลูก 3 ฉบับ ยังไม่วินิจฉัยเสร็จสิ้น


วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวาลาประมาณ 22.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ปัญหาเรื่องการยุบสภาวันนี้ รัฐบาลมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่บังควร

ทำไมถึงกระเหี้ยนกระหือรือจะยุบสภาให้ได้ เหตุผลก็เป็นอะไรไม่ได้นอกจากรู้ตัวเองว่าถ้าบริหารประเทศต่อไปสุ่มเสี่ยงที่จะถูกรัฐประหาร รู้ตัวดีว่าทหารและประชาชนจำนวนมากไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์และพวกจึงรีบยุบสภา เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ลดกระแสความไม่พอใจ อีกเหตุผลก็เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเอาโครงการต่างๆเข้าครม.ให้อนุมัติเป็นแสนล้าน ร้อยๆ วาระในวันเดียวกัน

“ตั้งแต่ประเทศไทยตั้งมา มี ครม.ชุดไหนบ้างหน้าด้าน ประชุมเช้า ประชุมเย็น ผ่านโครงการให้พรรคร่วมและพวกตัวเองได้ไปแสวงหาประโยชน์ มหาดไทยได้ไป 5 หมื่นกว่าล้าน คมนาคม 3 หมื่นกว่าล้าน สาธารณสุข 1.1 ล้าน  กอ.รมน. 293 ล้าน การท่องเที่ยว 382 ล้าน กระทรวงการคลังมีโครงการชดเชยผลกระทบจากการชุมนุมเสื้อแดงและกู้บ้านหลังแรก 500 ล้าน และยังจะมีโครงการต่อเนื่องจากโครงการนี้เป็นหมื่นล้าน  

กระทรวงศึกษาฯ 1.6 หมื่นล้าน กระทรวงเกษตรฯ 1.6 พันล้าน สำนักนายกฯ 58 ล้าน สตช.740 ล้าน กลาโหม 7,200 ล้าน นี่ยังนับไม่หมดนะ มันจะผลาญประเทศอย่างย่อยยับในวันเดียว”

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่าการยุบสภาอาจล่าช้าออกไป จะยุบสภาหลังวันที่ 10 พ.ค.เล็กน้อย นี่ก็ว่าวันที่ 10 พ.ค. จะมีประชุม ครม.อีก เทกระจาดอนุมัติทิ้งทวนอีกรอบ มันมีรัฐบาลไหนตั้งแต่ประเทศไทยก่อตั้งมา มีแต่รัฐบาลหน้าด้านตอแหลแบบนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้ เกิดมาไม่เคยเจอว่าจะมีคนหน้าด้านตอแหลแบบนี้

ไร้ยางอายพิจารณาอนุมัติงบแบบนี้ แล้วออกมาบอกว่าพิจารณาด้วยความรอบคอบไม่ได้เร่งรัดไม่ได้ทิ้งทวน มีอย่างที่ไหน เป็นร้อยโครงการในวันเดียว นี่มันหน้าด้านตอแหลจริงๆ แล้วยังอาศัยสื่อของรัฐอ้างว่าไม่ได้เป็นการทิ้งทวน ประชาชนไม่ได้กินแกลบ รีบอนุมัติเพราะกลัวว่ายุบสภาแล้วตามรัฐธรรมนูญจะอนุมัติโครงการที่มีผลผูกพันกับรัฐบาลที่จะตามมาไม่ได้ ถึงรีบประชุมและอนุมัติ ดูสิความอัปยศที่เกิดขึ้น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทั้งนั้น ที่นายเจิมศักดิ์ไม่กล้าวิจารณ์ เพราะเป็นพวกเชลียร์พวกเดียวกัน

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า เรื่องการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้สื่อข่าวเคยถามนายอภิสิทธิ์ครั้งแรกว่ากฎหมายลูก 3 ฉบับ ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ยังไม่ผ่านการพิจารณาจะยุบสภาได้หรือ นายอภิสิทธิ์บอกว่าไม่ต้องรอ สามารถเสนอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภาได้ ฟังเผินๆ เหมือนว่านายอภิสิทธิ์ปรึกษาฝ่ายกฎหมายมาดีแล้ว

แต่ความจริงมันทำไม่ได้ และยังไม่บังควรที่จะทำเพราะศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินความในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ และระหว่างที่กฎหมายลูก 3 ฉบับอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น โดยหลักแล้วฝ่ายบริหารต้องเคารพดุลยพินิจของศาสรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะประชุมและพิจารณาเมื่อไหร่นั้นก็ยังไม่ทราบ แต่ต้องให้เสร็จสิ้นก่อนจึงนำเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อลงพระปรมาภิไธยให้ยุบสภา จึงจะเป็นการกระทำที่สมควรและเหมาะสมตามหน้าที่ของนายกฯ ที่พึงปฏิบัติ แต่นายอภิสิทธิ์มาพูดอย่างนี้แสดงว่าไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญในพระปรมาภิไธยเลย

ประการต่อม าในหลวงทรงพระอาการประชวรอยู่ และเมื่อเสนอเรื่องไปเมื่อใดก็ตามก็ยังอยู่ในพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทะลึ่งมาบอกว่าจะยุบวันนั้นวันนี้ เท่ากับเป็นการบีบบังคับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว กรณีนี้ไม่ต่างจากนายทักษิณเลย ที่เคยเสนอชื่อแต่งตั้งทหาร พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร บอกว่าถ้าทักษิณเสนอชื่อไปแล้วใครก็แก้ไม่ได้ หรือกรณีที่เสนอกฎหมายไป นายทักษิณก็บอกว่าอีกไม่กี่วันคงกลับมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการพูดแบบนี้ไม่เหมาะสมและไม่บังควร ไม่เคารพต่อพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวฯ

นายประพันธ์กล่าวต่ออีกว่า การยุบสภาวันไหนอย่างไรต้องเป็นไปตามพระราชวินิจฉัย ซึ่งเป็น เป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกฯ แค่สนองพระบรมราชโองการเท่านั้นอย่าทะลึ่งบอกก่อน กำหนดก่อน และระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัย จะเสนอไปรอไว้ก่อน ตนคิดว่าไม่บังควรและไม่สมควร

“จะยุบสภาหรือไม่ วันนี้นายอภิสิทธิ์ควรรู้ว่าควรทำอย่างไร ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายลูก 3 ฉบับว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะวินิจฉัยวันไหนก็กำหนดไม่ได้ คุณอย่าไปทะลึ่งกำหนดวันยุบสภาล่วงหน้า ถ้าเป็นอย่างนี้ศาลจะถูกมองว่าเป็นตรายางให้ฝ่ายบริหาร อำนาจฝ่ายการเมืองทำได้แค่เสนอเท่านั้นแต่เป็นอำนาจของพระมหากษัตริย์ จึงอยากเตือนสุเทพและอภิสิทธิ์ อย่ากลัวจนขี้ขึ้นสมอง ถ้าไม่ได้ทำชั่วก็ได้ยุบสภา แต่ถ้าทำเลวทำชั่วก็อาจจะไม่ได้ยุบ” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า ทีนี้การยุบสภามันก็มีอาการอิหลักอิเหลื่ออยู่ เพราะหากยุบวันนี้สภาจบเลย ไม่มีผู้ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา เนื่องจาก พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ยังไม่ได้รับราชโองการแต่งตั้งให้เป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ มันก็อาจเกิดสุญญากาศ เพราะหากมีเหตุอะไรขึ้นมา เช่นจำเป็นต้องประชุมรัฐสภา ต้องประชุมเพื่อทำสงครามกับเขมรมันก็ทำไม่ได้

สถานการณ์ยุบสภาต้องรอดูความเคลื่อนไหวจากศาลรัฐธรรมนูญ และติดตามว่ารัฐบาลควรเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาเมื่อไหร่  แต่ว่าจะยุบหรือไม่ได้ยุบก็ต้องติดตามเช่นกัน ถ้าในระหว่างที่ในหลวงทรงพระประชวรอยู่ รัฐบาลไม่ควรเสนอเรื่องใดอันเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก และกราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้าน และที่รับชมอยู่ต่างประเทศครับ ส่วนจะสวัสดีเป็นภาษาเขมรผมพูดไม่ได้ พูดได้คำเดียวว่า บอง สรัน โอน อะไรอย่างนี้ แปลว่าสาวเขมรที่สวยน่ารัก เหมือนพูดภาษาจีน พูดได้แค่ หว่ออ้ายหนี่ เลิฟยู

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ก็พี่น้องคงได้ฟังการเสวนาทางวิชาการ และคงได้ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงถึงความคืบหน้าของสถานการณ์ปัญหาข้อพิพาท ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ที่มันได้พัฒนาไป โดยรัฐบาลนี้แก้ไขปัญหาจนกระทั่งสามารถทำให้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา พัฒนาหมุนวนการกลับไปขึ้นศาลโลกอีกครั้งหนึ่งนะครับ ทั้งๆที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ก็ถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว ในยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ขึ้นศาลโลกไปแล้ววนกลับมาจนถึงพรรคประชาธิปัตย์ตั้งมาครบ 65 ปี นี่กำลังจะขึ้นศาลโลก แสดงว่าอภิสิทธิ์ แก้ปัญหาเก่งมากครับ

สถานการณ์รายละเอียดความเป็นไปเป็นมามันมีพัฒนาการ และมีความคืบหน้าไปอย่างไร ทั้ง 2 เทพ อ.ปานเทพ และ อ.เทพมนตรี คงได้สรุปให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทราบแล้ว แต่ผมก็อยากจะพูดเพิ่มเติมในบางมุม บางประเด็นพี่น้องครับว่า วันนี้ปัญหาสถานการณ์ไทย - กัมพูชา นั้น มันได้พัฒนามาจากที่ไม่เคยมีปัญหาด้วยข้อพิพาทกันมาก่อนเลย ระหว่างไทย และกัมพูชา ในยุคใดๆมาตั้งแต่กัมพูชาเป็น 3 ฝ่าย 4 ฝ่าย หรือก่อนหน้านั้นนับตั้งแต่ปี 2505 หลังจากที่มีปัญหาคดีพิพาทกันเรื่องปราสาทพระวิหารแล้ว เรากับกัมพูชายังไม่เคยมีปัญหาข้อพิพาทใดๆต่อกัน และกัมพูชาก็ไม่เคยมีความอหังการที่จะกล้าใช้กำลังทหารกับพี่น้องประชาชนไทย แต่มาถึงวันนี้ เราได้มีปัญหา และมีผลกระทบ พัฒนาไปทั้ง 4 ด้าน ด้านที่ 1 ก็คือ เรามีปัญหาพิพาทเรื่องเขตแดน ตลอดแนวชายแดนไทย ทั้งหมด ทั้งทางบก และทางทะเลครับพี่น้อง ตลอดแนวชายแดนไทยกลายเป็นประเด็นที่มีปัญหาระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา นี่ก็ต้องถือว่าเป็นผลงานและการบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณ กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ ที่มีส่วนรับผิดชอบร่วมกันใช่ไหมครับ เพราะมีผลสืบเนื่องกัน

จากปัญหาข้อพิพาทดินแดนพัฒนามาเป็นการสู้รบกัน วันนี้มีการสู้รบกันตามแนวชายแดนแล้ว มีทหารไทยบาดเจ็บล้มตาย และมีทหารและคนกัมพูชา เข้ามายึดครองแผ่นดินไทย นี่ก็เป็นผลงานที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้ง 2 ช่วงรัฐบาล คือ ทักษิณ กับอภิสิทธิ์ ประเด็นที่ 3 ก็คือ ปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย - กัมพูชา ขยายตัวมาเป็นการก่อปัญหาความเดือดร้อนมาถึงพี่น้องประชาชนในประเทศ เดือดร้อนอย่างไรครับ คนไทยถูกจับไปขึ้นศาลกัมพูชา ติดคุกอยู่ทุกวันนี้ยังไม่ได้ออกมาเลยคือคุณวีระ กับคุณราตรีครับ คนไทยที่มีที่ดินทำมาหากิน เป็นเจ้าของที่ดินอยู่บริเวณบ้านโนนจาน หนองจาน และบ้านอื่นๆ ตลอดแนวชายแดน ต้องเสียสละ ต้องสูญเสียที่ดินที่ทำกิน ที่เคยทำมาหากินมาแต่ก่อนสมัยบรรพบุรุษ และประชาชนศรีษะเกษ อุบลฯ สุรินทร์ เดือนร้อน ต้องอพยพลี้ภัยสงคราม นี่กระทบมาถึงพี่น้องประชาชนแล้ว ก็เป็นผลงานการบริหารประเทศทั้งทักษิณ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ ร่วมกันปฏิเสธไม่ได้ครับ

และประการที่ 4 คือ มันขยายตัวพัฒนาไปกลายเป็นว่า ปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย - กัมพูชา จากที่เคยเป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ เป็นปัญหาทวิภาคี เป็นปัญหาที่ 2 ประเทศสามารถเจรจาและมีกรอบการเจรจาที่จะตกลงกันได้ พัฒนากลายเป็นว่ามีประเทศในกลุ่มอาเซียน มีประเทศในสหประชาติ พัฒนาไปจนกระทั่งกำลังจะลากดึงประเทศไทยไปศาลโลก และประเทศไทยก็ทะลึ่งพร้อมไปขึ้นศาลโลกกับเขาด้วย มันน่าอายไหมครับพี่น้อง ผมถึงบอกว่า จากปัญหาที่เราไม่เคยมีปัญหา และกัมพูชาไม่เคยมีปัญหาที่จะอหังการลุกรานประเทศไทยได้เลยโดยศักยภาพไม่ว่าด้านใด กลับพัฒนามาจนถึงปัญหาขนาดนี้ และสุดท้ายวันนี้กลายเป็นว่าวันนี้เขมรไปยื่นคำร้องต่อศาลโลก และประเทศไทยก็กำลังจะเต้นแร้งเต้นกา กำลังจะไปกับเขาที่ศาลโลกด้วย ไม่รู้มันจะเสียค่าโง่รอบสองทำไมในยุคประชาธิปัตย์หรือไม่ครับพี่น้องครับ

ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ก็เคยอยู่ในยุคที่ทำให้ประเทศไทยเสียค่าโง่มาแล้ว นี่ก็จะเอาอีกรอบหนึ่งแล้ว ผมถึงบอกว่า นี่เป็นปัญหาของบ้านเมืองที่พรรคการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ยังไม่เคยเสนอแนวทางที่จะแก้ไขปัญหานี้ และไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็แก้ปัญหานี้ได้เลวพอๆกันครับพี่น้องครับ เพราะฉะนั้นปัญหาไทย - กัมพูชา วันนี้เราจะฝากความหวังให้รัฐบาลที่จะมาใหม่ หรือรัฐบาลที่อยู่ที่นี่ และเป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้แก้ไขดูเหมือนว่ามันจะมองไม่เห็นอนาคตและมืดมนไปหมด และผมก็ไม่เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย กลับมาเป็นรัฐบาล หรือประชาธิปัตย์กลับมาเป็นแกนตั้งรัฐบาล ปัญหาไทย - กัมพูชา ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ครับ เพราะทั้ง 2 ฝั่งนั้น มีจุดยืนที่สยบยอมและก้มหัวให้กับรัฐบาลกัมพูชา และนายฮุนเซนครับพี่น้อง

วันก่อนผมได้พูดถึงแล้วครับว่า ทำไมฮุน เซน ถึงก่อปัญหาข้อพิพาทและกล้าก่อสงครามกับประเทศไทย ผมบอกแล้วว่า ฮุนเซนใช้ปัญหาเรื่องข้อพิพาทกับไทย และการก่อสงครามกับประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศกัมพูชาเองครับพี่น้อง และวันนี้พี่น้องก็ได้ฟังจากปากของคนกัมพูชาเอง ซึ่งลี้ภัยหนีสงครามหนีสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดไปอยู่ในอเมริกา และหนีการสังหารโหดของขบวนการต่อสู้ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มเขมรแดง หรือเขมรฮุนเซน ที่สนับสนุนโดยเวียดนามก็ตาม คนกัมพูชาอยู่ไม่ได้ ต้องหนีออกไปครับ และวันนี้คนกัมพูชามีกำลังใจมากขึ้นที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลนายฮุนเซน ครับพี่น้อง

เหตุที่คนกัมพูชาตื่นตัวขึ้นมาวันนี้เพราะ 1.การปกครองของระบอบฮุนเซนนั้น เป็นการปกครองแบบเผด็จการที่รวบอำนาจ เอาประโยชน์เฉพาะตนกับครอบครัว และพวกพ้องที่ใกล้ชิดเท่านั้น ผลประโยชน์สำคัญทั้งหมดในประเทศ ฮุนเซนกับครอบครัวยึดเอาไว้หมด เช่นเดียวกับระบอบทักษิณครับพี่น้องครับ แตกต่างจากระบอบอภิสิทธิ์ตรงระบอบอภิสิทธิ์นั้นเป็นระบอบคณาธิปไตย คือ แบ่งกันรับประทานครับ แบ่งกันหากิน แบ่งกันโกงกินครับ แต่ก็โกงเหมือนกัน ระบอบทักษิณโกงโดยรวบอำนาจไว้ที่ตัวคนเดียว ระบอบฮุนเซนก็โกงคนเดียว ขณะนี้คนกัมพูชาได้ตื่นตัวขึ้นมาแล้ว นี่หนึ่ง และ 2 คนกัมพูชา ที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทย ที่เดินทางไปทำงานลี้ภัยแล้วไปอยู่ในกัมพูชาไปอยู่ต่างประเทศ วันนี้เขารวมกลุ่มกันแล้วครับ เตรียมก่อตั้งขบวนการที่จะล้มระบอบฮุนเซนแล้ว เขาได้รับกำลังใจจากการลุกขึ้นสู้ของพี่น้องประชาชนไทย ประชาชนอียิปต์ ประชาชนลิเบีย ประชาชนตูนีเซีย และการลุกขึ้นสู้ของประชาชนทั่วประเทศ เขาจะลุกขึ้นสู้เพื่อหาผู้นำใหม่ และโค่นล้มระบอบฮุนเซนลงให้จงได้

นี่คือกระแสของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาขณะนี้ นอกจากประชาชนกัมพูชาได้ก่อตั้งขบวนการที่จะต่อสู้กับระบอบฮุนเซนแล้ว บรรดาพวกเขมรแดงที่เคยต่อสู้กับรัฐบาลนายฮุนเซน หรือต่อสู้กับรัฐบาลลนนอนเมื่อก่อน และพ่ายแพ้โดยถูกฮุนเวนยึดอำนาจไว้แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ฝ่ายเขมรแดงก็เป็นพวกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ตลอดแนวชายแดนไทย และพร้อมที่จะร่วมกับคนกัมพูชาลุกขึ้นโค่นระบอบฮุนเซนเช่นเดียวกันครับพี่น้อง นี่คือพวกที่จะมาโค่นระบอบฮุนเซน อีกส่วนหนึ่งคือพวกนักการเมืองฝ่ายค้านที่นำโดยนายสมรังสี ก็รวบรวมสมัครพรรคพวก แต่สู้ในระบอบรัฐสภา และเป็นปฏิปักษ์กับนายฮุนเซน ที่นายฮุน เซน พยายามทำลายล้างฝ่ายค้านอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่ก็เป็นกำลังส่วนหนึ่งที่จะรวมกับประชาชน และกลุ่มเขมรที่ไม่พอใจระบบฮุนเซน รวมกันสร้างกองกำลัง สร้างพลังประชาชน สร้างขบวนการขึ้นมาล้มระบอบเผด็จการฮุนเซนในวันนี้ครับพี่น้อง และที่สำคัญตอนนี้คนกัมพูชารู้แล้ว ว่านายฮุนเซนกำลังใกล้จะตาย เพราะนายฮุนเซน มีโรคประจำตัว ซึ่งคนเชื่อว่า และการข่าวเชื่อว่า นายฮุนเซนเป็นโรคมะเร็งครับพี่น้อง นายฮุนเซนจึงมีความพยายามที่จะผลักดันลูกชายของตัวเองให้ก้าวขึ้นมามีอำนาจ สืบทอดอำนาจแทนตัวเขา เพราะเขาเชื่อว่าวันเวลาที่เขาจะอยู่ในอำนาจมีไม่นาน ประกอบกับนายฮุนเซน หวาดกลัววิตกกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากากรลุกขึ้นสู้ของประชาชนครับพี่น้อง

การที่ฮุนเซนกล้ามาก่อสงครามกับไทยขนาดนี้เพื่อที่จะกลบเกลื่อนการเป็นเผด็จการ ทุจริต คดโกง การรวบอำนาจของนายฮุนเซน ไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว และเบี่ยงเบนปัญหาการเมืองในประเทศที่คนกัมพูชา กำลังเพ่งมองและมองว่าฮุนเซนนั้นเป็นศัตรูของประชาชน ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่ทำให้ประชาชนกัมพูชามีอยู่มีกินอย่างแท้จริงครับพี่น้อง ที่สำคัญก็คือ อย่างที่คนกัมพูชาพูดเมื่อกี้ว่า รัฐบาลนายฮุนเซนนั้น ถูกครอบงำโดยพรรคคอมมิวนิสต์และระบอบคอมมิวนิสต์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เพราะเวียดนามเป็นผู้ให้การสนับสนุนกำลังฝ่ายฮุนเซน ในการยึดอำนาจโค่นล้มเขมรฝ่ายต่างๆ และสถาปนาตัวเองขึ้นมามีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น ได้รับการสนับสนุนทางกำลังทหารจากฝ่ายเวียดนาม เวียดนามจึงมีอิทธิพลครอบงำรัฐบาลนายฮุนเซนอยู่ในขณะนี้ครับพี่น้อง

ทั้งตัวนายฮุนเซนก็มีเชื้อสายเป็นคนเวียดนาม ภรรยาก็เป็นคนเวียดนาม นายฮุนเซนจึงหวาดกลัวและกลัวอิทธิพลของฝ่ายเวียดนามมากกว่าชายแดนฝ่ายที่ติดกับเวียดนาม นายฮุนเซนนั้นได้ถูกเวียดนามล่วงล้ำยึดครองแผ่นดินกัมพูชา นายฮุนเซนก็ไม่กล้าหือ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่นายฮุนเซน จึงพยายามมาเปิดแนวรบฝั่งไทยเพื่อกลบเกลื่อนและสร้างความมีศักดิ์ศรีหลอกลวงคนกัมพูชา นายฮุนเซนจึงได้ประโยชน์จากการก่อสงครามครั้งนี้ พี่น้องครับ แต่ที่มันน่าเศร้าใจก็คือ มันยังมีนักธุรกิจไทยบางคนมีทหารพาณิชย์ ทหารไทยที่ทำมาค้าขายหากินกับฮุนเซน ทหารการเมืองในประเทศไทยที่มันยังขายชาติขายแผ่นดินสมคบคิดกันทำมาหาประโยชน์ร่วมกับนายฮุนเซนจนมาทำลายชาติไทย ทำลายพี่น้องคนไทยด้วยกัน นี่คือความอัปยศ และการทรยศชาติของทหารบางคน และนักการเมืองบางคนในประเทศไทยครับพี่น้อง ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว นายฮุนเซนไม่สามารถที่จะกร่างได้อย่างทุกวันนี้

เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวโดยสรุปแล้ว ปัญหาไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ที่มันล้มเหลวแล้วเราแก้ไขไม่ได้นั้น ต้องโทษใครครับ สำหรับผม ผมโทษรัฐบาล และโทษผู้นำกองทัพไทยครับพี่น้อง ที่โทษรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คืออะไรครับ เดี๋ยวผมจะเปรียบเทียบให้ดู ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์และนายทักษิณ รัฐบาลที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลทักษิณนั้น มีความเลวพอๆกัน ไม่ใช่เลวน้อยเลวมาก เลวพอๆกันครับพี่น้อง ความผิดพลาดของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ในกัมพูชา เป็นอย่างไรเดี๋ยวผมจะพูดในช่วงเวลาต่อไป เพื่อเปรียบเทียบให้พี่น้องเห็นว่า ระหว่างรัฐบาลยุคทักษิณกับยุคอภิสิทธิ์ นั้นเป็นอย่างไร แล้วจะชี้ให้เห็นว่า ความรับผิดชอบนั้น ตกอยู่ที่นายอภิสิทธิ์ กับผู้นำกองทัพไทยคนไหนบ้าง ที่สมควรจะต้องรับผิดชอบต่อปัญหที่เกิดขึ้นในขณะนี้ครับพี่น้อง

โดยก่อนจะเปรียบเทียบอะไรนั้น ผมอยากจะพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องวันนี้ในปัญหาเรื่องการยุบสภา ซึ่งผมเห็นว่าวันนี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น ได้แสดงพฤติกรรมอันไม่บังควรไม่เหมาะสมหลายเรื่องในการยุบสภา ไม่เหมาะสมอย่างไรครับ 1.ทำไมรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงกระเหี้ยนกระหือรือ และกุลีกุจออยากจะรีบยุบสภา เหตุที่อยากรีบยุบสภานั้น มีอยู่ 2 ประการครับ ม่ได้มีเหตุผลอะไรอื่นเลย 1.คือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นั้นรู้ตัวเองแล้ว ว่าถ้าบริหารงานชาติบ้านเมืองไปภายใต้สถานการณ์แบบนี้ และลากดึงประเทศไปในลักษณะนี้ สุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จะถูกปฏิวัติรัฐประหารครับ อันนี้พูดตรงๆเลย นายอภิสิทธิ์รู้ตัวดีว่า ทหารในกองทัพและประชาชนจำนวนมากไม่พอใจการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลชุดนี้ ที่ปล่อยให้ประเทศทุกย่ำยีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี และรัฐบาลเต็มไปด้วยการโกงการทุจริต นายอภิสิทธิ์ และพวก จึงพยายามที่จะรีบยุบสภาเพื่อจะอาศัยการยุบสภา การเลือกตั้งมาเป็นเครื่องลดกระแสความไม่พอใจของประชาชน เพื่อที่จะเป็นโล่กำบังว่า เพื่อจะทำให้ทหารและประชาชนที่คิดจะลุกขึ้นสู้หรือโค่นล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยอมหรือไม่กล้าที่จะโค่นล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หรือดึงความสนใจของประชาชนส่วนใหญ่ว่า มันจะเลือกตั้งจะยุบสภาอยู่แล้ว ก็อย่าไปไล่ หรืออย่าไปโค่นล้มมันเลย ปล่อยให้มันไปสู่ขบวนการ พยายามจะเอาเกมแบบนี้มา แต่ผมเชื่อว่า คนมันจะถูก ถ้าคนมันจะถูกเขาโค่นนะครับ ต่อให้มันเอาอะไรมาห้าม มันก็ห้ามไม่อยู่ใช่ไหมพี่น้อง เพราะคนมันทำชั่ว เพราะคนมันอยู่ไปวันๆไม่ได้บริหารให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้นเลย และ 2.ที่รีบจะยุบสภานั้น ก็เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการที่จะเข็นโครงการต่างๆเข้ามา และประชุม ครม.เช้าเย็น และจะได้อนุมัติโครงการทั้งหลายออกไปเป็นแสนๆล้าน เป็นร้อยวาระในวันเดียวกันครับพี่น้อง

ซึ่งขณะนี้พี่น้องรู้แล้วใช่ไหมครับ ที่ติดตามข่าว ว่ามันมี ครม.ที่ไหนตั้งแต่ประเทศไทย เรามีประเทศไทยมา มีครม.ชุดไหนบ้างที่หน้าด้านประชุมเช้า-เย็น เพื่อผ่านโครงการให้กับพรรคร่วมรัฐบาลและพวกมันได้เอาไปแสวงหาประโยชน์ครับ มีรัฐบาลที่ไหนบ้าง และนี่พี่น้องยังไม่หมดนะครับ ที่ผ่านโครงการมหาดไทยไป 3 หมื่นกว่าล้าน ไม่ว่าจะพัฒนาระบบสายส่งการไฟฟ้าภูมิภาค 31,170 ล้าน ซ่อมแซมเทศบาลอุดรฯ 212 ล้าน สำรองจ่าย จ.บึงกาฬ ตั้งจังหวัด 530 ล้านอะไรเนี้ย เฉพาะมหาดไทย 5 หมื่นกว่าล้านไปแล้ว คมนาคม รวมแล้วก็ 3 หมื่นกว่าล้าน สาธารณสุขรวมแล้วก็ 11,000 กว่าล้าน กอ.รมน. 290 ล้าน การท่องเที่ยว 382 ล้าน คลังมีโครงการที่จะชดเชย และโครงการกู้บ้านหลังแรก 500 ล้าน และยังจะมีโครงการต่อเนื่องจากโครงการนี้เป็นหมื่นล้านอีกครับพี่น้อง กระทรวงศึกษาอีก 16,000 ล้าน กระทรวงเกษตรฯ 1,600 ล้าน สำนักนายกฯ 20 ล้าน 58 ล้าน ศตช.อีก 740 ล้า นกระทรวงกลาดหม 7,200 ล้าน นี่มันจะผลาญประเทศอย่างย่อยยับในวันเดียวเลยครับพี่น้อง ผมนับมายังไม่หมด วันเดียวเป็นแสนล้าน แล้ววันนี้ นายสุเทพ มาให้สัมภาษณ์แล้วว่ายุบสภาอาจจะล่าช้าไปหลังวันทีา 10 เล็กน้อย พี่น้องรู้ไหมครับเพราะอะไร เพราะวันที่ 10 วันอังคาร มันจะประชุม ครม.อีก เทกระจาดอนุมัติงบฯ ทิ้งทวนอีกรอบครับพี่น้อง มันมีรัฐบาลประเทศไหนครับ รัฐบาลประเทศไทยตั้งแต่ก่อตั้งมา มีไหมครับที่มันทำแบบนี้ มีแต่รัฐบาลหน้าด้านตอแหลอย่างนายอภิสิทธิ์ ที่กล้าทำเรื่องอย่างนี้ครับ เกิดมาผมไม่เคยเจอเลยครับพี่น้องประชาชนครับ ว่าจะมีคนหน้าด้านตอแหลอย่างนี้ ทำหมผมถึงบอกว่า หน้าด้านตอแหล 1 หน้าด้าน คือ ไร้ยางอายครับพี่น้อง การพิจารณา และประชุมอนุมัติงบแบบนี้

ตอแหลไงครับ พอผ่านงบฯ แล้วมันมาแถลงข่าวบอกว่าที่ผ่านมานี้ด้วยความรอบคอบไม่ได้เร่งรัดทิ้งทวน โธ่ไอ้ตอแหล มีที่ไหน คุณพิจารณาโครงการเป็นแสนล้านในวันเดียวครับพี่น้อง หน้าด้านตอแหลจริงๆครับพี่น้อง ผมไม่เคยเห็นใครหน้าด้านตอแหลขนาดนี้ ออกมาเดินแถว ชักแถว อาศัยใช้สื่อของรัฐ ที่ตัวเองกุมอยู่ มาแถลงว่า ไม่ได้เป็นการทิ้งทวน พี่น้องครับ ประชาชนไม่ได้กินแกลบ .รีบอนุมัติเพราะกลัวว่ายุบสภาแล้วตามรัฐธรรมนูญมันไปอนุมัติงบประมาณโครงการใดๆที่มีผลผูกพันต่อรัฐบาลที่จะตามมาไม่ได้ มันถึงรีบประชุมและอนุมัติ พี่น้องดูซิครับ ความอัปยศที่เกิดขึ้นนั้น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทั้งนั้น ที่นายเจิมศักดิ์ ไม่กล้าวิจารณ์เลย เพราะว่ามันเป็นพวกเชลียร์เหมือนกันครับพี่น้อง อัปยศขนาดนี้ยังไม่กล้าวิจารณ์เลย

ทีนี้ปัญหาเรื่องการยุบสภาพี่น้องครับ ยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวฯ นะครับ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาหรือไม่ยุบสภาตามรัฐธรรมนูญ พอจะยุบสภา นายอภิสิทธิ์มันให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไรครับ ผู้สื่อข่าวไปถามครั้งแรกบอกว่า นี่กฎหมายลูก 3 ฉบับ ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอยู่ ยังไม่ผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ท่านจะยุบสภาได้อย่างไรนะครับ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ไม่มีปัญหา ไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตีความก็ได้ สามารถเสนอเพื่อลงพระปรมาภิไธย เพื่อมีพระราชกฤษฎีกาเพื่อยุบสภาได้ พี่น้องครับ พี่น้องฟังดูเผินๆ เหมือนว่านายอภิสิทธิ์ คงปรึกษาฝ่ายกฎหมายของทำเนียบรัฐบาล มาดีแล้ว แต่ความเป็นจริงครับ มันทำไม่ได้ และยังไม่เป็นเหตุที่ยังไม่บังควรที่จะทำด้วยครับพี่น้อง เพราะอะไรครับ ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินความในพระปรมาภิไธยใช่ไหมครับพี่น้องครับ ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์และระหว่างที่กฎหมาย 30 ฉบับ อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น โดยหลักแล้ว ฝ่ายบริหารต้องเคารพดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะประชุม และพิจารณาเมื่อไหร่นั้น ต้องให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะนำเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อลงพระปรมาภิไธยให้ยุบสภาจึงเป็นการกระทำที่สมควรและเหมาะสมตามหน้าที่ที่นายกฯพึงปฏิบัติใช่ไหมครับ

แต่นายอภิสิทธิ์ มาพูดอย่างนี้ แสดงว่า 1.คุณไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญในพระปรมาภิไธยเลย และ 2.ในเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระประชวรอยู่ และ 2 แม้ว่าคุณจะเสนอเรื่องไปเมื่อไหร่ก็ตามแต่ ก็ยังเป็นเรื่องที่อยู่ในพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ใช่ว่าคุณจะทะลึ่งมาบอกว่า ผมจะยุบวันที่เท่านั้น วันที่เท่านี้ เท่ากับเป็นการไปบีบบังคับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ใช่ไหมครับพี่น้อง กรณีนี้และพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ ไมต่างจากนายทักษิณ นายทักษิณพอเสนอชื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายทหารไป พล.อ.ชัยสิทธิ์ บอกว่า ถ้าทักษิณเขาเสนอชื่อไปแล้ว ใครก็แก้ไม่ได้ มันว่างั้น ใช่ไหมครับพี่น้อง เสนอกฎหมายไป ยังไม่ทันที่ท่านได้ลงพระปรมาภิไธยเลย มันบอกว่า เสนอไปแล้วอีกไม่กี่วันก็คงต้องกลับมา คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคงกลับมาในวันเท่านั้นเท่านี้ ไอ้ทักษิณมันก็พูดเหมือนกันกับนายอภิสิทธิ์เนี้ยแหล่ะครับพี่น้อง ผมถึงบอกว่าไอ้พฤติกรรมการพูดอย่างนี้ของนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่เหมาะทั้งเป็นการไม่เคารพศาล ไม่บังควรทั้งกับไม่เป็นกรเคารพต่อพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่งครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้นการจะยุบสภาวันไหนหรืออย่างไร มันต้องเป็นไปตามพระราชวินิจฉัยซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คุณมีหน้าที่สนองพระบรมราชโองการเท่านั้น จะทะลึ่งบอกก่อนกำหนดระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย คุณจะเสนอไปรอไว้ก่อนนั้น ผมคิดว่าไม่บังควร และไม่สมควรที่คนเป็นนายกฯจะทำอย่างนั้นครับพี่น้องครับ และถ้าว่าโดยจริงแล้ว พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ แบบนี้ก็คือไม่เคารพต่อพระราชอำนาจต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั่นเองครับพี่น้อง ดังนั้น เหตุการณ์ว่าการจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภานั้น วันนี้นายอภิสิทธิ์ ควรจะต้องรู้ว่า ควรจะทำอย่างไร ทั้งหมดมันต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องกฎหมายลูก 3 ฉบับเสียก่อนว่า เป็นการขัดหรือแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นการผ่านการพิจารณามาโดยชอบหรือไม่เสียก่อน และศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมกันเมื่อไหร่ เมื่อมีคำวินิจฉัยเรื่องนี้ยังไม่สามารถกำหนดวันได้ คุณอย่าไปทะลึ่งกำหนดวันยุบสภาล่วงหน้าครับ

เพราะถ้าหากเป็นอย่างนี้ ศาลก็เท่ากับว่า ตรายางให้กับฝ่ายบริหารใช่ไหมครับ ผมจะยุบสภาวันที่ 6 ศาลช่วยทำให้เร็วๆหน่อย ไอ้แบบนี้ศาลเขาก็ไม่มีความหมาย เหมือนกับว่ารัฐบาลไปสั่งศาลได้ใช่ไหมครับพี่น้อง พฤติกรรมเรื่องปัญหาเรื่องการยุบสภา หรือไม่ยุบสภาของนายอภิสิทธิ์นั้น คุณจะยุบหรือไม่ยุบ เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของฝ่ายการเมืองที่จะเสนอเท่านั้น แต่พระราชอำนาจในการที่จะลงนาม และมีพระปรมาภิไธยในการที่จะยุบสภาหรือไม่ เป็นอำนาจของพระมหากษัตริย์ครับพี่น้อง จึงอยากจะเตือนและบอกให้นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ได้รู้ไว้ซะว่า อย่ากระทำอะไรอันเป็นการมิบังควร คุณไม่ต้องกลัวจนขี้ขึ้นสมองหรอก ถ้าหากว่าคุณไม่ได้ทำความเลว ความชั่ว อย่างไรคุณก็คงได้มีโอกาสยุบสภา แต่ถ้าทำความเลว ความชั่ว ก็อาจจะไม่ได้ยุบสภาครับพี่น้อง

ขณะเดียวกัน เวลานี้ก็เกิดอาการอีหลักอีเหลื่อเหมือนกันครับพี่น้อง เพราะถ้าหากยุบสภาปังวันนี้ สภาก็จบไปเลย คนที่จะมทำหน้าที่เป็นประธานรัฐสภา ไม่มีเลยครับพี่น้อง เพราะว่า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ยังไม่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ครับพี่น้อง เพราะว่า การเป็นประธานรัฐสภาของท่านประสบสุข บุญเดช ก็พ้นไปแล้ว มันอาจจะทำให้เกิดสูญญากาศก็ได้หากว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นมา เช่น จำเป็นที่จะต้องประชุมรัฐสภา เพื่อประกาศสงครามกับเขมร ประชุมไม่ได้ครับพี่น้อง ต้องหาสภาใหม่ครับ ซึ่งสภาใหม่เป็นสภาแบบไหนพี่น้องก็ไปคิดเอาเอง คงไม่ใช่สภา 500 แน่ครับ

สถานการณ์เรื่องการยุบสภาจะเป็นอย่างไรนั้น เราต้องรอดูความเคลื่อนไหวนะครับ จากศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน และก็ติดตามเรื่องต่อไปว่า รัฐบาลควรจะเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้มีการยุบสภาเมื่อใดนะครับ แต่ว่ามันจะได้ยุบหรือไม่ได้ยุบก็เป็นเรื่องที่เราต้องติดตามด้วยเช่นกัน นี่ผมก็มาเล่าให้พี่น้องฟังเพื่อจะได้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในขณะนี้ และเห็นว่าถ้าในเวลาระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระประชวรอยู่นั้นรัฐบาลก็คงไม่สมควรที่จะไปเสนอเรื่องใดอันเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาทใช่ไหมครับพี่น้อง

ทีนี้อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะคุยกับพ่อแม่พี่น้องในวันนี้ มีการพูดคุยกันมาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา 2 - 3 วันมานี้ กระแสของโหวตโน พี่น้องครับมันขึ้นกระแสสูงจริงๆ ปรบมือให้แก่พวกเราด้วยครับ วันนี้ทุกวงการครับ ไม่ว่าจะไปที่ไหน มีคนพูดถึงเรื่องโหวตโนทั้งนั้น แล้วโหวตโนเป็นเรื่องที่โดนใจประชาชนมากที่สุด ยิ่งประชาชนมาเห็นพฤติกรรมของนักการเมืองที่มันประชุมวันเดียว อนุมัติเป็นแสนๆล้าน ทิ้งทวนและยังจะขอต่ออีกวันที่ 10 เพื่อจะทิ้งทวนรอบสองอีกนั้น ประชาชนยิ่งตัดสินใจง่ายที่จะโหวตโนครับพี่น้อง เพราะมันอัปรีย์ไปจัญไรมาจริงๆครับพี่น้อง แต่ทีนี้มีนักวิชาการออกมาเขียนบทความ และมีนายอภิสิทธิ์มาออกรายการช่างแม่งประเทศไทย รายการสุดท้าย พยายามจะบอกว่า เสียดายคะแนนโหวตโน น่าจะเอามาลงคะแนนให้พรรคที่คิดว่าเลวน้อยที่สุดครับพี่น้อง ตกลงประเทศไทยเราจะมาเลือกตั้งเลือกว่าจะเอาคนเลวมากหรือคนเลวน้อย หรือเอาคนเลวพอๆกัน ตกลงประเทศนี้ไม่มีสิทธิ์เลือกคนดีเลยใช่ไหมครับพี่น้อง เมื่อไม่มีสิทธิ์เลือกคนดี เลือกใครก็เลวทั้งนั้น แล้วมันจะไปเลือกทำไม ไปเลือกก็กาแต่ช่องไม่ลงคะแนนเข้าไปเท่ห์กว่าวะ กูไม่เลือกคนเลวใช่ไหมพี่น้อง

เอาล่ะ นายอภิสิทธิ์บังอาจมาแหลกับประชาชนว่าจนเองเลวน้อยกว่าคนอื่น เลวน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย ผมจะเอามาเปรียบเทียบให้พี่น้องดูว่า ใครเลวน้อยใครเลวมาก หรือมันเลวพอๆกันครับพี่น้อง พี่น้องดูเปรียบเทียบระหว่างระบอบทักษิณกับระบอบอภิสิทธิ์ ระบอบก็คือ การปกครอง การบริหารของทักษิณ โดยทักษิณและเพื่อทักษิณ กับการปกครองโดยอภิสิทธิ์เพื่ออภิสิทธิ์ และพวกของอภิสิทธิ์ครับพี่น้อง พวกนี้พยายามสร้างวาทกรรมและชุดความคิดทางการเมืองมามอมเมาประชาชนในประเทศว่า เอ้ย ถ้าไอ้นั่นโกง ผมก็โกงน้อยกว่า ถ้าไอ้นั่นเลวผมก็เลวน้อยกว่า ถ้าไอ้นั่นขายแผ่นดิน กูก็ขายแผ่นดินแต่ขายน้อยกว่า พี่น้องครับ นี่คือนักการเมืองบ้านเราครับ แต่โดยความเป็นจริง พี่น้องมาดูครับ เปรียบเทียบกันดู ผมยกตัวอย่างให้ ประการที่ 1 ทักษิณปกครองบ้านเมืองในช่วง 5 ปีนี้ พวกเราเห็นแล้วว่า ทักษิณคล้ายกับฮุนเซน คือแรกๆก็มาเป็นนักประชาธิปไตย เพราะมาจากการเลือกตั้งหลังรัฐธรรมนูญปี 2540 พอมาจากการเลือกตั้งไปตั้งพรรคไทยรักไทย ระดมนักวิชาการนักการเมือง นักธุรกิจ และบุคคลในวงการต่างๆมากมายมาร่วมกันสร้างพรรคการเมืองที่เรียกว่าพรรคไทยรักไทย ทำตัวประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยที่จะมาสู่การปฏิรูปการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ปี 40 แต่พอทักษิณเข้ามาเป็นนายกฯได้สักพักแล้ว ทักษิณก็รวบอำนาจหมด ยึดอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว ไปฮุบเอาพรรคโน้นพรรคนี้ เทคโอเวอร์พรรคโน้นพรรคนี้ ดูดพรรคนั้นนี้มารวบอำนาจอยู่เพียงตัวผู้เดียว เหิมเกริมจนกระทั่งทักษิณอยากจะเป็นประธานาธิบดีอย่างที่หลวงตาบัวเทศน์ใช่ไหมครับพี่น้องตอนแรกก็ทำตัวเป็นนักประชาธิปไตย ต่อมาเป็นผด็จการรวบอำนาจไว้ที่ตัวคนเดียว

พี่น้องมาดูอภิสิทธิ์ อาจจะดูเหมือนว่าไม่ใช่เผด็จการที่รวบอำนาจไว้ที่ตัวคนเดียวแต่มันก็เป็นเผด็จการเหมือนกันครับ แต่มันเป็นเผด็จการแบบคณาธิปไตยครับพี่น้อง โดยมันก็ใช้วิธีการเอากำลังทหารส่วนหนึ่งไปบีบบังคับไปดูดเอา ส.ส.เพื่อไทย คือไอ้เนวิน กลุ่มภูมิใจไทยมาร่วมเป็นรัฐบาล แล้วก็เอาบรรหาร สุวัฒน์ มาร่วมรัฐบาล แทนที่มันจะเป็นเผ็จการแต่เพียงตัวผู้เดียว มันก็เป็นเผด็จการร่วมกันโดยเรียกว่าคณาธิปไตยครับพี่น้อง แต่เป็นเผด็จการเหมือนกัน ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเพราะอะไรครับ มันไม่เคยฟังเสียงของพ่อแม่พี่น้องประชาชนเลย มันเอาแต่ใจพรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคอย่างเดียว ไม่งั้นมันไม่ผ่านโครงการแสนๆล้านในวันเดียวกันหมดหรอกครับ และที่มันทำมาทั้งหมด ก็ทำเพื่อเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่เช่นนั้น มันก็จะเป็นเหมือนกับนายเจิมศักดิ์พูด ถ้าไม่เอาใจเขาก็ไม่ได้เป็นนายกฯ มิน่าล่ะ มึงถึงยอมทำชั่วร่วมกับเขาพี่น้องครับ

ทักษิณอาจจะโกงกินรวบคนเดียว บอกลูกน้องว่า เฮ้ย ถ้าใครไม่มีเงินมาเอาที่อั้ว ไม่ต้องไปทุจริตไม่ต้องไปคอร์รัปชั่น และคอร์รัปชั่นมันบอกจะปราบปราม ไม่ต้องมีใบเสร็จ มันจะจัดการเลย ทักษิณมันหาเสียงอย่างนี้ใช่ไหมครับ พอถึงเวลามันก็ทำอย่างนั้นจริงๆ บอกไม่ต้องไปหาเงิน เพราะกูหาคนเดียวมึงอยากได้มาขอกูครับพี่น้อง คอร์รัปชั่นคนเดียว ถ้าคณะรัฐมนตรีคนไหนออกนอกแถวไปกินแล้วอม ไม่มาเเบ่ง หรือแอบไปกินเอง ทักษิณรู้ปลดออกจากตำแหน่งเลยพี่น้องครับ แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์มันก็โกงเหมือนกันครับ แต่โกงโดยแบ่งกันโกง อันนี้หนักกว่าครับพี่น้อง แบ่งกันโกง อ้าว คมนาคมให้ภูมิใจไทย มหาดไทย เกษตรฯ ท่องเที่ยวให้พรรคชาติไทย พลังงานให้สุวัฒน์ ลิปตพัลลภ ใช่ไหมครับ กระทรวงคลัง อุตสาหกรรม ประชาธิปัตย์เอาไปรับประทานทั้งแรงงาน กระทรวงศึกษาฯ กระทรวงเล็ก กระทรวงน้อยพรรคเพื่อแผ่นดิน กิจสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแบ่งกันรับประทานครับพี่น้อง โกงเหมือนกัน แล้วโกงหนักกว่าเขาด้วยครับพี่น้อง เพราะมีนต้องผ่าน 3 ชั้น ทักษิณเนี้ย ถ้าเจรจากับทักษิณเท่าไหร่เท่านั้นจบ แต่ไอ้นี่เจรจากับเจ้ากระทรวงแล้วยังไม่จบต้องไปเจรจากับไอ้คนกำกับนอมินี รัฐมนตรีว่าการอีก บรรหารอยู่ข้างนอก สุวัฒน์อยู่ข้างนอก คุยแล้วมาถึงรัฐมนตรีนึกว่าทางโน้นสั่งแล้วจะจบ รัฐมนตรี เลขารัฐมนตรีก็เอาด้วย ที่ปรึกษา แถามยังมีหน้าห้อง ลูกเบี้ยรายทางอีก สรุปแล้วหลายต่อ แต่ก็กินและหนักกว่าเดิมครับพี่น้อง

ไม่งั้นหอการค้าและผลการวิจัยของ ป.ป.ช.และสถาบันการศึกษาต่างๆจะออกมาตรงกันว่า รัฐบาลนี้คอร์รัปชั่นหนักยิ่งกว่ารัฐบาลทักษิณ ครับพี่น้องครับ อยู่ 2 ปี คอร์รัปชั่นเท่าทักษิณแสดงว่า มันต้องเลวพอกับเขาหรือมากกว่าเขาใช่ไหมครับพี่น้อง เห็นไหมครับโกงเหมือนกัน ไม่มีอะไรต่างกันเลยครับ มีโครงการไหนบ้างไม่โกง ถนนลอดอุโมงค์จากเชียงใหม่ ก็บริษัทเชียงใหม่คอนสตรักชั่นเอาไปรับประทาน อ้อ การไฟฟ้าภูมิภาค ไอ้ชิโนทัยเอาไปรับประทาน มันพวกเดียวกันทั้งนั้นครับ โครงการที่ผ่านเนี้ย เดี๋ยวรายละเอียดวันหลังเราค่อยพูดกันได้อีก แต่นี่เอาประเด็นสำคัญก่อน

อันที่ 3 รัฐบาลทักษิณใช้นโยบายประชานิยมเอาเงินไปแจกแล้วพี่น้องดูซ ิ รัฐบาลอภิสิทธิ์มันบริหารแล้วมันมีไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์อะไร ที่ดีกว่าเขาบ้าง มันคิดอะไรใหม่ขึ้นมาบ้าง นอกจากลอกเลียนแบบแล้วเอาเงินไปแจกเหมือนกันครับพี่น้อง ประชานิยมทั้งนั้น โครงการสร้างบ้านหลังแรกให้กู้ฟรีไม่มีดอกเบี้ย อ้าวมอเตอร์ไซค์มากองทุนโน้นนี้ ประกันรายได้ ขายข้าวไม่ได้ราคาขาดไปกี่พัมารับที่รัฐบาล มันก็ผลาญเงินภาษีประชาชนแจกประชานิยมเหมือนกันหมดครับพี่น้อง ไม่มีอะไรต่างกันเลย เราคิดว่านายอภิสิทธิ์ โอ้โห จบอ็อกซ์ฟอร์ด อีตั้น เป็นนักเรียนนอกลูกผู้ดี น่าจะมีมันสมองคิดอะไรที่สร้างสรรค์ในทางการเมือง แกก็ดีแค่ไปลอกข้อสอบเขา ไอ้หำน้อยเอ้ย ไม่มีปัญญาอะไรเลย ผมถามหน่อยมีโครงการอะไรที่นายอภิสิทธิ์ทำมาใหม่แล้วดีกว่าเขา แตกต่างเขา มีไหมครับ ไม่มีแม้แต่โครงการเดียว ลอกเลียนแบบเขาทั้งนั้น ประชานิยมเหมือนกัน ผลาญเงิน ใช้เงินงบประมาณในอนาคต และเอาเงินภาษีประชาชนไปแจก ส่วนที่เหลือทำอะไรครับ งบประมาณปี 1 มันมีงบที่จะลงงบไปที่จไะปจัดซื้อ หักงบประมาณเงินเดือนค่าจ้างแล้วเหลืออยู่ไม่เกิน 30 % มันเอาไปแจกหมดแล้วครึ่งหนึ่ง ไอ้ที่เหลือทำไงครับ ก็มาแบ่งกันโกงไงพี่น้อง แต่ละกระทรวงก็แบ่งกันโกง ไอ้เรื่องที่จะหาเงินไม่มีครับ ทักษิณมันเอาเงินไปใช้มันยังหาเงินเป็นอยู่บ้าง ไอ้นี่หาเงินไม่เป็นเลย ไม่รู้ว่าหาเงินจากทางไหนที่จะมีรายได้เข้ามา ยังหาเงินไม่เก่ง แต่ใช้เก่ง ไอ้นี่แย่กว่าเขาใช่ไหมครับ

อันที่ 4 เรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระ นายอภิสิทธิ์ ด่ารัฐบาลระบอบทักษิณเป็นพวกแทรกแซงองค์กรอิสระ อันนี้เป็นความจริงครับ ทักษิณโดนคดีซุกหุ้น ทักษิณก็ไปวิ่งเต้นศาลจนกระทั่งหลุดคดีซุกหุ้นภาค 1 ใช่ไหมครับพี่น้อง นี่คือแทรกแซงศาล และแทรกแซง ป.ป.ช.ตลอดเวลาที่ทักษิณบริหารบ้านเมือง ป.ป.ช.ไม่เคยชี้มูลความผิดรัฐบาลทักษิณแม้แต่เรื่องเดียวครับพี่น้อง สตง.มันทำให้เละ จนตั้งใครไม่ได้เลย คตง.ก็ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้ วุฒิสภา มันก็เข้าไปครอบงำไปซื้อ ส.ส.มันซื้อไว้หมด แทรกแซงองค์กรอิสระนี้ทักษิณทำ เพื่อมารับใช้ตัวเอง และถามว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ทำไหม พี่น้องทำพี่น้องยกตัวอย่างได้ไหม ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง คดียุบพรรคเป็นตัวอย่างของการแทรกแซงองค์กรอิสระ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ มันมีไหมระดับประธาน กกต.ทำให้คดีไม่มีอำนาจฟ้อง หรือขาดอายุความ มันบ้าไหมครับพี่น้องครับ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์หลุดไปเลย นี่ก็เป็นการแทรกแซงองค์กรอิสระเหมือนกัน 2.ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดพัชรวาทมาแล้วจนป่านนี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ยังไม่ได้สั่งลงโทษ พล.ต.อ.พัชรวาท เลยครับพี่น้อง 4.ดีเอสไปกำลังจะสอบสวนข้าราชการมหาดไทย ปรากฏว่ามีคนโทรไปสั่งอธิบดีดีเอสไอว่าให้เพลาๆมือเรื่องว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย อย่าไปสอบสวนอย่าไปเอาจริงเอาจังเลย ท้ายที่สุดคดีก็ไม่ได้ไปถึงไหนครับพี่น้อง แล้วนอกจากนั้น ผมยังสงสัยอยู่ ว่าคดีที่นายเนวิน หลุด คดีหวย คดีกล้ายาง มันหลุดมาได้อย่างไรพี่น้องครับ อาจจะมีข้อสงสัยได้ว่า ฝ่ายการเมืองมันมีการตกลงที่จะช่วยเหลือกันในเรื่องนี้หรือไม่ โดยการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการ หรือองค์กรอิสระหรือไม่ นี่เป็นข้อสังเกตของผมครับพี่น้อง

ฉะนั้นเรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระมีเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่มี รัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ไม่ธรรมดาครับพี่น้อง คดีที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน คดี ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็หลุดไปหมดครับพี่น้องครับ หลุดแบบน่าสงสัย ฉะนั้นจะบอกว่าไม่แแทรกแซงนั้นผมไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรที่ผิดปกติ เพราะเรื่องที่ผิดแหงๆ มันหลุดหมดครับพี่น้อง ส่วนอันที่ 5.ครอบงำสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 พรรค ครอบงำเหมือกนันครับ ทักษิณก็ซื้อ ส.ส.ไว้ยกมือให้ตัวเอง รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ซื้อ ส.ส. ดูด ส.ส.จากพรรคอื่นมาไว้คอยยกมือให้กับตัวเอง พรรคเพื่อไทยก็ถูกดูดเหมือนกันครับพี่น้อง

ขณะเดียวกันที่วุฒิสภาพี่น้องเห็นไหมครับ ตอนพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกเราจำได้มาตรา 190 ที่คุณ ส.ส.คำนูณ อภิปรายในสภาฯ ถูกจับได้รีบแก้ตัวพัลวันครับพี่น้อง สุดท้ายก็โหวตผ่าน โดยเฉพาะมาตรา 190 กับผ่านมีคดีมากกว่ามาตราอื่นๆ หมดอีกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผิดปกติไหมครับ เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องที่จะไปซื้อเสียงในสภาดูด ส.ส.ในสภาฯ ครอบงำสภาฯ เพื่อให้โหวตให้ความเห็นชอบตามกฎหมายและพระราชบัญญัติที่ตัวเองเสนอ หรือแต่งตั้งบุคคลตามที่รัฐบาลเสนอนั้นทำเหมือนกันครับ ไมได้แตกต่างกันระหว่างรัฐบาลอภิสิทธิ์ กับรัฐบาลทักษิณครับพี่น้อง มาประเด็นที่ 6. แทรกแซงสื่อ รัฐบาลทักษิณในยุคสมัยที่ทักษิณบริหารบ้านเมืองนั้น สื่อ อยู่ในการครอบงำของทักษิณหมดเลย มีสื่อเดียวที่ทักษิณครอบงำไมได้คือ ASTV ใช่ไหมครับพี่น้อง นอกนั้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทีวีทุกช่อง วิทยุทุกคลื่น คลื่นไหนแหลมออกมา ทักษิณสั่งปิดหมด ถอนโฆษณาหมด ในที่สุดหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็กลายเป็นสื่อที่อยู่ในโอวาทของระบอบทักษิณ หมดใช่ไหมครับพี่น้อง

การโกงการทุจริตไม่มีใครไปขุดคุ้ยเปิดโปงให้ประชาชนได้รับรู้ กลายเป็นว่าที่เราได้รับรู้ก็มาจากสื่อ ASTV ภายหลังจากคุณสนธิ ถูกปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์แล้วเท่านั้น สื่อ ASTV จึงเป็นปากระบอกเสียงแทนพี่น้องประชาชน แต่เพียงสื่อเดียวในยุคนั้น แล้วมาถึงยุคนี้พี่น้อง พี่น้องเห็นสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นไหม เปิดโปงการทุจริตของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีไหมครับพี่น้อง รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็แทรกแซงสื่อ ติดสินบนสื่อ เหมือนกัน ไม่ต่างกันเลย หนังสือพิมพ์แนวหน้า ไทยโพสต์ ไล่ชื่อไปเลย มติชนนี่อาจจะก้ำกึ่ง กรุงเทพธุรกิจนี่ไปกว่าครึ่งแล้ว ไทยรัฐนั้นก็อ่จจะกึ่งๆ แต่โดยส่วนใหญ่ก็ถูกรัฐบาลครอบงำโดยให้สินบน ให้โฆษณา การบินไทย ปตท. การท่องเที่ยวฯ เอาโฆษณาจากหน่วยงานรัฐไปซื้อเสียง เวลาทีวีเขาจัดให้ใครครับ จัดให้สุทธิชัยหยุ่น เครือเนชั่น กับเวลาของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เท่านั้นครับ แล้วที่แทรกแซงสื่อต่อมาอีกคืออะไร เอาอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ไปเป็นประธานบอร์ด อสมท. หลังจากนั้นก็ต่อสัญญาให้ช่อ 3 ไปอีกยาวเลยครับพี่น้อง เป็นสิบๆปีเลย เกือบยี่สิบปีเลย ต่อสัญญาช่อง 3 ทั้งนั้น เงินหล่นทับที่บันไดพรรคไม่รู้เท่าไหร่ครับพี่น้อง หลายพันล้าน วันนี้ช่อง 3 ก็เป็นกระบอกเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์เพราะได้ต่อสัญญาโดยพรรคประชาธิปัตย์ครับพี่น้อง

ฉะนั้นการซื้อสื่อแทรกแซงสื่อ ครอบงำสื่อ รัฐบาลนี้มันก็ทำเหมือนกันครับพี่น้อง นายอภิสิทธิ์ทำเป็นแหล ขึ้นมาเป็นรัฐบาลบอกว่า ผมจะจัดเวลาให้ฝ่ายค้าน เท่าๆกับเวลาของรัฐบาล รายการช่างแม่งประเทศไทย เขาก็พูดอยู่คนเดียใช่ไหมครับพี่น้อง ฝ่ายค้าน ภาคประชาชนคนอื่นๆอย่างพวกผมจะได้ไปออกไหม รายการช่อง 11 นอกจากไอ้เจิมศักดิ์ เท่านั้นที่จะได้ทำได้พูดได้ออกรายการ คนอื่นไมได้ออกหรอกครับเสนอหน้าไมได้ ช่อง 9 , 7 , 3 เลิกเลยครับ ถ้าใครมีความเห็นแย้งแตกต่างจากรัฐบาล เรื่องปัญหาแผ่นดินเรื่องเสียดินแดน เอกราช อธิปไตย มีทีวีช่องไหนบ้างที่เป็นปากกระบอกเสียง แม้กระทั่งทีวีกองทัพบกช่อง 5 ยังเอาเวลาไปให้เอกชนทำมาหารับประทานเลยครับพี่น้องครับ นี่ก็รัฐบาลอภิสิทธิ์ แล้วมันเลวแตกต่างกับเขาตรงไหน มันก็เลวพอๆกัน ถ้าไม่ใช่พวกกู กูก็ไม่ให้เวลาออกรายการ ไม่ให้เวลาทีวี ไม่ให้สัมปทานรายการวิทยุ ทั้งนั้นครับ เพราะฉะนั้นจะไปด่าเฉพาะระบอบทักษิณก็ไม่ได้ ระบอบอภิสิทธิ์มันก็เลวพอๆกันครับพี่น้อง หันมาดูลำดับที่ 7 เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ยุคทักษิณเราก็ด่าทักษิณว่า น้องเขยมัน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมต่แล้วต่ออีกถึง 6 ปี พอจะครบมันโยกไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 1 ปี เอาจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ มาเป็นแทน วันนี้จารุพงศ์มาเป็นเลขาฯ พรรคเพื่อไทยแล้ว พอเสร็จเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 1 ปี มันเอาโยกกลับมาเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมอีกเหมือนเดิม เพราะมันคุมดีเอสไอครับพี่น้อง ปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งญาติพี่น้องของตัวเอง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร โน้นครับจากนายทหารพลาธิการ เหล่าที่ร้อยวันพันปีก็ไม่มีโอกาสได้เป็น ผบ.ทบ.ทักษิณเป็นนายกฯ เอาญาติตัวเองจากเหล่าโน้นมาเป็น ผบ.ทบ. จากเหล่าทหารช่าง ทหารที่ไหน ทหารพลาธิการ มาเป็น ผบ.ทบ.แหวกประเพณีทหารเลยครับพี่น้องครับ กองทัพบก จนกระทั่งสมัยนั้นเขาล้อกันว่า เนี้ยทักษิณกำลังตามหาญาติผู้ใหญ่ที่อายุประมาณ 60 - 70 ปีอยู่ เขาถามว่าไปตามมาทำไม มันจะเอาไปตามมาให้มาบวชเป็นพระ อ้าวบวชทำไม เพราะมันจะผลักดันให้เป็นสังฆราชครับพี่น้อง คือถ้าทำได้ก็จะทำถึงขนาดนั้น

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ข้ามหัวพรวดๆ เป็นรองอธิบดีกรมตำรวจอันดับ 1 แล้วการโยกย้ายข้าราชการ ผู้ว่าฯ ต่างๆ อธิบดี กรม กอง ต่างๆ ทักษิณต้องมองว่า จังหวัดนี้พรรคเพื่อไทย หรือไทยรักไทยสมัยนั้นต้องยกทีม ผู้ว่าฯ รับปากหรือเปล่า อ้าวไปอยู่จังหวัดนั้น ใครไม่รับปากไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ ครับ ไปเป็นผู้ว่าฯ จังหวัดไหนต้องรับปาก ว่าไทยรักไทยต้องยกทีม นี่คือระบอบทักษิณ แต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย จนปลัดย้ายออกไปตั้งหลายคนครับ ข้ามหัวไปไม่รู้กี่คน หันมาดูทักษิณแล้วมามองอภิสิทธิ์ซิครับ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เลว แย่ กว่าเขาครับพี่น้องครับ แต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย มันอาวุโสอันดับไหนครับ แต่งตั้งอธิบดีกรมปกครอง อธิบดีกรมพัฒนา อธิบดีกรม กอง ต่างๆ และไม่ใช่เฉพาะที่นั่นนะครับ สำนักงบประมาณ จากรองอาวุโสอันอับหนึ่งเขาจะได้เป็น ผอ.สำนักงบฯ มันไปตั้งผู้หญิงอยู่รองอันกับท้ายๆ ผลักดันขึ้นมาเป็น ผอ.สำนักงบฯ เพราะอะไรครับ เพราะมันจะได้ขี่คอได้ไงครับพี่น้อง ถ้าไปขี่อย่างอื่นเดี๋ยวผัวเขาเตะเอา ก็เลยสั่ง ผอ.สำนักงบฯได้หมด โครงการทั้งหลายก็เพราะว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์มันไปตั้งเอา ผอ.สำนักงบฯที่มันสามารถสั่งบงการได้ นี่คือผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กระทรวง ทบวง กรม เป็นแบบนี้หมด ถ้าไม่วิ่งเต้นกับนักการเมือง ไม่เสียเงิน ไม่ได้เป็นครับ แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจฉาวโฉ่ที่สุด ใช่ไหมครับในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการไม่แตกต่างกันเลย เหมือนกันไม่มีผิด

นอกจากนั้นผมข้ามไป ไปดูเรื่องการเลือกตั้ง นี่ถ้ามีการเลือกตั้ง รับรองเตรียมโกงการเลือกตั้งเหมือนกันทั้ง 2 ฝ่ายครับพี่น้อง รับรองมีการใช้ทั้งนักเลง ตำรวจ ทหาร เวลานี้จะแต่งตั้งใครไปเป็นผู้บัญชาการภคาค 1 , 2 ,3 ตำรวจ หรือแม่ทัพ นายกอง ต้องเอาไว้คุมการเลือกตั้งครับ และต้องคุมหัวคะแนนพวกนักเลงอันธพาล เอาไปไว้เตรียมโกงเลือกตั้ง ฝ่ายตัวเองจ่ายได้ ฝ่ายอื่นจ่ายไม่ได้ มันคิดแบบนี้ทั้ง 2 ฝ่าย 2 พรรคครับพี่น้อง แล้วถามว่า พรรคเพื่อไทยซื้อเสียง พรรคประชาธิปัตย์ซื้อเสียงไหม ผมกล่าวได้อย่าง 100 % ว่าซื้อเสียงเหมือนกันครับพี่น้อง เมื่อวานประชุมพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนได้ถือถุงน้ำตาล ในนั้นเขาบอกว่า ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่ละคนเอาไปเป็นน้ำจิ้มก่อนครับ และพรรคประชาธิปัตย์ทุกวันนี้ มีระบบจ่ายเงินเดือนให้ ส.ส.เหมือนกับพรรคอื่น มันถึงห้ามลูกพรรคโกง มึงไม่มีเงินไม่ต้องไปโกงมาขอที่กู พรรคนั้นขอทักษิณ พรรคนี้ขอที่สุเทพ ครับพี่น้อง ต่างกันตรงไหน เหมือนกัน โกงเหมือนกัน ซื้อเสียงเหมือนกัน คอยดูครับ แล้วก็ใช้งบประมาณแผ่นดินในการขึ้นป้ายหาเสียงโฆษณา เอาเปรียบตีกิน พรรคอื่นเหมือนกันไม่มีผิด

เรื่องสำคัญเรื่องที่ 9 เรื่องขายชาติ ขายแผ่นดิน รัฐบาลทักษิณก็ขายชาติขายแผ่นดินเหมือนกัน ทักษิณไปร่วมกับฮุนเซน หาประโยชน์ทางทะเล ไปเช่าเกาะกง 9 ปี เอาเจ้าของแฮรอดด์ไปได้สัมปทานสำรวจขุดเจาะน้ำมัน ไปทำ MOU ไปทำ Joint Communique สนับสนุนให้ฮุนเซนขึ้นทะเบียนมรดกโลก และที่เลวที่สุดพี่น้องคืออะไรครับที่ทำให้พี่น้องเสียศักดิ์ศรีพี่น้องลืมไปแล้วหรือครับ รัฐบาลทักษิณนี้ปล่อยให้ไอ้เขมร โจรเขมร มันเผาสถานทูตไทยครับพี่น้อง โดยหยิบยกเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องละคร อีนางกบอะไรนั่นแหล่ะครับ ไม่ได้มีเรื่องมีราวเลย เพียงเพราะไอ้ฮุนเซนมันใกล้จะเลือกตั้งก็หาเสียงเผาสถานทูตไทยครับ เลวบัดซบ ไม่ต่างกันครับ มาถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ MOU 43 พัฒนามาจนกระทั่งเสียแผ่นดินเห็นไหมครับ เขมรเข้ามายึดแผ่นดิน ยึดเขาพระวิหาร คนไทย 2 คนยังติดคุกอยู่ตอนนี้ มันต่างกันตรงไหน อภิสิทธิ์ คุณก็ขายชาติพอๆกัน ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียเกียรติภูมิศักดิ์ศี คนไทยต้องไปขุดหลุมเพราะอพยพเป็นหมื่น ติดคุกอยู่โน้น 2 คน แผ่นดินถูกเขายึด และนี่เขากำลังลากดึงประเทศไปขึ้นศาลโลกอีก มันก็ขายชาติไม่ต่างจากกัน ที่สำคัญผลประโยชน์ที่ทักษิณเคยไปดิวเอาไว้ พวกนี้ก็เข้าไปสวมต่อหาแดกกับฮุนเซน เช่นเดียวกันครับพี่น้อง มันเลวน้อยเลวมาก มันต่างกันอย่างไรครับ นอกจากนี้ ปัญหาภาคใต้ รัฐบาลทักษิณก็ไอ้โจรกระจอก ไม่กี่เดือนเหลือกี่คน 3 เดือนต้องเอาให้เรียบ ไอ้ทักษิณมันล้มเหลวจบไปแล้วครับ ปัญหาภาคใต้ลุกเป็นไฟ รัฐบาลอภิสิทธิ์มาคุยอีกว่าตัวเองจะมีแนวนโยบายใหม่ ศอ.บต.จะมีคณะกรรมการมีรัฐมนตรีเฉพาะกิจไปดูแลภาคใต้ เราเป็น ส.ส.ภาคใต้ มีส.ส.เยอะรู้ปัญหาเข้าใจท้องที่ เข้าใจจิตใจประชาชน ปรากฏว่า ตายวันละ 2 คน หนักกว่าเขาอีกครับ เหตุระเบิดจากเมื่อก่อนระเบิดเป็นลูกๆ เดี๋ยวนี้คาร์บอมบ์เลยนะครับ จากที่เคยซุ่มโจมตีแค่ทหาร ถล่มค่ายทหาร ยึดปืนทหาร ตีค่ายทหารแตก หนักกว่าเขาอีกครับพี่น้อง บาดเจ็บล้มตาย 4,500 กว่าศพแล้ว เฉพาะยุคอภิสิทธิ์ ประมาณ 2 พันกว่าศพ ใช้งบประมาณไปเป็นแสนแสนล้าน ปัญหาภาคใต้ก็ยังร้ายแรงกว่าปัญหาที่ตายอยู่ชายแดนเขมรอีกครับ เพราะตายทุกวันที่ภาคใต้ และรัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่มีน้ำยาที่จะแก้ไขครับพี่น้อง ล้มเหลวเพราะฉะนั้น ผมเอาตอนสุดท้ายคือ ริดลอนเสรีภาพประชาชน ปราบปรามประชาชน ไม่ต่างกันเลยครับ ริดลอนเสรีภาพประชาชน ปราบปรามประชาชนรัฐบาลทักษิณไม่ต้องพูดถึง ประชาชนในยุคทักษิณไม่มีเสรีภาพเลยครับ ถูกคุกคาม สงครามยาเสพติดตายไปเกือบ 3 พันศพ ฆ่าประชาชนครับ นั่นคือทักษิณครับ

มายุคอภิสิทธิ์ อย่างน้อยก็ 91 ศพ และก็อีก 2 พันกว่ารายที่บาดเจ็บ ยุคเราอีกเราเจ็บเราตายอีกและบาดเจ็บอีกนับร้อย เหตุการณ์ทางภาคใต้นับรวมกันแล้ว ทั้งเหตุการณ์กัมพูชายุคอภิสิทธิ์รวมความแล้วตายทำลายสถิติโลกเลยครับพี่น้อง ไหนว่าคุณเลวน้อย บักหำน้อย ไอ้มาร์ค มึงเลวน้อยหรือเนี้ย คุณล้มเหลว คุณบริหารบ้านเมืองล้มเหลว คุณไม่มีน้ำยา คุณไร้ความสามารถ คุณจะไปโทษใครไม่ได้เลย เพราะอะไรครับพี่น้อง คอยดูซิครับ เวลามันอยากเป็นนายกฯ มันจะมาปราศรัยหาเสียง ปัญหานี้ผมจะแก้อย่างนั้น ปัญหาความสงบภาคใต้ผมจะแก้อย่างนี้ ปัญหายาเสพติดผมจะตั้งหน่วยเฉพาะกิจ มันมาแหลทั้งนั้นพี่น้อง พอถึงเวลามาเป็นนายกฯ แก้ไม่ได้ก็บอก ผมเข้ามาตอนนั้น อันนี้ก็วุ่นวาย เศรษฐกิจก็มีปัญหา เขาเรียกว่าคนจัญไรชอบแก้ตัวครับ เขาให้มาเป็นนายกฯ ก็คือมาแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มาแหลแล้วมาแก้ตัวใช่ไหมครับ ถ้าทุกคนแก้ตัวได้อย่างคุณผมก็เป็นนายกฯได้ แก้อะไรไม่ได้ ปัญหาเยอะ วุ่นวาย เศรษฐกิจไม่ดี นี่เงินคงคลังก็หมด อันนี้พรรคอื่นมันโกงผมจะไปว่าเขาก็ไม่ได้เดี๋ยวมันไม่ยกมือให้ผม ตกลงจัญไรแก้ตัวอย่างเดียวครับพี่น้อง ไอ้อย่างนี้ผมก็เป็นได้นายกฯ ใครก็เป็นได้ เพราะมันไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยพี่น้อง นอกจากแก้ตัวและแถไปวันๆ

ขออีกประเด็นหนึ่งแล้วกัน ปัญหาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ พี่น้องครับ ทักษิณนั้น กร่าง ก้าวร้าว อวดดี อยากเป็นใหญ่ สำคัญตัวเองผิด หยิ่ง จองหอง พูดจาไม่เห็นหัวใครเลย พอดีอำนาจสักพักได้รับเลือกตั้งเข้ามา คนอย่างผมไม่จงรักภักดีแล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี ไปโน้นเลย มันพูดจา มากระซิบข้างหู อะไรมันพูดได้เยอะแยะ ผมไม่ต้องพูดซ้ำ ไม่ให้ความคารพ แต่ว่าอภิสิทธิ์มันก็เหมือนกัน ไอ้นั้นดูหมิ่น จาบจ้วง แต่ไอ้หมอนี่เหรอปล่อยให้สถาบันเผชิญศึกเอาตามลำพังครับ ทอดทิ้งเลย ไม่รับผิดชอบ ไม่ใส่ใจเลย เอาตามลำพังครับ ทอดทิ้งเลยไม่รับผิดชอบเลย ไม่ใส่ใจเลยขบวนการจะล้มเจ้า ขบวนการที่จะใส่ร้ายป้ายสี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพกูนั่งดูตาปริบๆทำอะไรไม่ได้ ไอ้นั่นมันวิดีโอลิงก์มาจากต่างประเทศ พาดพิงถึงสถาบัน ผมปิดไม่ได้ เดี๋ยวละเมิดเสรีภาพ จะไปตัดสัญญาณดาวเทียมก็กลัวว่าอย่างนั้น อย่างนี้ มันดีแต่แหลและแก้ตัวไปวันๆครับ ไม่ได้ทำอะไรเลย สรุปแล้วไอ้คนหนึ่งจ้วงจาบหยาบช้า ละเมิดสถาบัน อีกคนมันก็ปล่อยให้สถาบันเผชิญหน้ากับขบวนการล้มเจ้าตามลำพัง แต่ตีกินเผชิญหน้ากับขบวนการล้มเจ้า แต่ตีกินหาเสียง ลับหลังให้คนไปปล่อยข่าวว่าทรงโปรดมันมาก ทรงรักเขามาก ทรงชอบเขามาก ไอ้นี่มันตอแหลหน้าด้านไหมครับพี่น้อง บอกให้ชนชั้นสูงบอกว่าผู้ใหญ่รักมาก เมตตามาก ความจริงแล้วผมไม่เชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ทีไหนจะมารักคนที่ไร้เดียงสาและทำงานไม่เปน ปล่อยให้บ้านเมืองถูกเผา ปล่อยให้แผ่นดินสูญเสีย มือใครยาวสาวได้สาวเอาจะมีรัฐบาล ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนจะมีความสุขกับรัฐบาลแบบนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีพระราชดำรัส ถ้าโกงแม้แต่น้อยก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป

เอาล่ะ ผมพูดมานี้ก็เพื่อจะบอกว่า อย่าได้ไปหลงเคลิ้มกับวาทกรรมนายแหล เพราะนายแหลจะบอกว่าตัวเองเลวน้อย เท่าที่ผมพูดมานี้ ดูแล้วต้องตัดสินด้วยภาพถ่ายไม่รู้ใครจะเลวมากน้อยกว่ากันครับ สองคนนี้ แต่ที่สำคัญคืออีโก้จัด หยิ่งทนง อวดดี อวดเก่ง ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ฟังใครเลยครับทั้งสองคนนี้ มันพอๆกัน วันนี้ที่พ่อแม่พี่น้องตัดสินใจที่จะโหวตโนไม่เลือกทั้งอัปรีย์ ไม่เลือกทั้งคนจัญไร ไม่เลือกพรรคไหนทั้งนั้น เพราะมันก็เลวพอๆกันครับพี่น้อง การตัดสินใจโหวตโนของพวกเราเป็นการตัดสินใจที่สง่างาม มีเกียรติที่สุดครับพี่น้อง และจะเป็นการสั่งสอนพรรคการเมืองครั้งที่ยิ่งใหญ่ และเราต้องการการเปลี่ยนแปลง เราต้องการผู้นำประเทศที่ดีกว่านี้ เราต้องการสังคมใหม่ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่นักการเมืองกะล่อน จอมปลอม สามานย์แบบนี้กลับมาครองบ้านครองมืออีก ถ้าเห็นด้วยปรบมือดังๆหน่อย โหวตโน โหวตโน โหวตโน ขอบคุณครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น