ครม.นัดสุดท้าย “รัฐบาลมาร์ค” แต่ละกระทรวงต่างเสนอของบประมาณนับแสนล้านพ่วงประชานิยมบ้านหลังแรก ดอกเบี้ย 0% พร้อมจัดงบประกันพืชผล 2 พันล้าน ขณะที่คมนาคมขอเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาทซื้อสารพัด ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ สร้างถนน ขุดอุโมงค์ ส่วนกลาโหม ขอซื้อรถถัง 7.2 พันล้าน เข้าประจำกองพลทหารม้าที่ 3 ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ จับตากระทรวงการคลังจะเสนอปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นัดสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ จะประชุมกันที่อาคารรัฐสภาวันนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากต้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญต่างๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย
สำหรับการประชุม ครม.นัดส่งท้ายครั้งนี้ มีวาระปกติถึง 120 เรื่อง ไม่ร่วมวาระเพิ่มเติม และวาระจรที่รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะนำเสนอเข้าที่ประชุม อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอของบประมาณเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง 3.8 พันล้านบาท มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการ กำกับติดตาม การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เสนออนุมัติงบประมาณแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติภาคใต้ให้แต่ละจังหวัด รวมเป็นเงินประมาณ 1,300 ล้านบาท รวมทั้งโครงการซ่อมแซมระบบประปาอีก 70 กว่าล้านบาท ทั้งนี้เมื่อรวมกับงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ไปก่อนหน้านี้รวมเป็นงบประมาณเกือบหมื่นล้านบาท พร้อมกับรายงานการนำเงินบริจาค 100 กว่าล้านบาทสร้างบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยเกือบ 1 พันหลัง
รวมถึงใช้หลักเกณฑ์เดียวกันสร้างบ้านกับผู้ประสบภัยพายุหมุนในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน และบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา นายสาทิตย์เสนอขอแก้กฎกระทรวงให้อำนาจสำนักปลัดสำนักนายกฯ ในการจัดที่ดินเพื่อดำเนินงานตามนโยบายโฉนดชุมชน
ด้าน กระทรวงการคลัง เสนอโครงการสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยที่มีที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังแรก ด้วยการยกเว้นดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วง 2 ปี กำหนดวงเงินปล่อยสินเชื่อไว้ 5 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันจะเสนอวงเงินการทำประกันภัยพืชผลจำนวน 2.8 พันล้านบาท เสนออนุมัติบำเหน็จข้าราชการช่วยงานโครงการประชาวิวัฒน์ จำนวน 40 ล้านบาท เสนอจัดตั้งสำนักงานนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน (สพช.) การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้ยังจะเสนอขออนุมัติแนวทางในการแก้ปัญหาปุ๋ยเฉพาะหน้า โดยจะให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อปุ๋ยอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้แก่เกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.และเกษตรกรทั่วไปวงเงิน 2-3 หมื่นล้านบาท ที่เชื่อว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง เสนอปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ รถยนต์นั่งปรับเหลือแค่ 2 อัตรา คือ 30% สำหรับรถยนต์นั่งที่ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 3000 ซีซี และ 50% สำหรับเครื่องยนต์เกิน 3000 ซีซี ไม่ได้เก็บตามกระบอกสูบเหมือนเดิม ที่เก็บในอัตราตั้งแต่ 30-40% และจะนำปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาพิจารณาด้วย ทั้งนี้ หากรถยนต์นั่งดังกล่าวมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 5% หรือคิดเป็นเงินประมาณ 6,000 บาทต่อคัน แต่หากปล่อยคาร์บอนต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตรก็จะได้ลดภาษี 5% เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จะให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัวเป็นเวลา 3 ปี
ส่วน กระทรวงคมนาคม เสนอของบประมาณ 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า จีอี 50 คันวงเงิน 6.5 พันล้านบาท 2.โครงการปรับปรุงรถจักร 56 คัน วงเงิน 3.3 พันล้านบาท 3.โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4.9 พันล้านบาท 4.โครงการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่อำเภอหางดง วงเงิน 1พันล้านบาท 5.โครงการก่อสร้างถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก (แนวตะวันออก-ตะวันตก) วงเงิน 2.4 พันล้านบาท
6.โครงการสร้างจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าเพชรบุรีกับสถานีมักกะสัน วงเงินกว่า 10 ล้านบาท 7.โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการการเดินอากาศ 4.4 พันล้านบาท 8.ขอออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดินทางด่วนใหม่สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก 16.7 กิโลเมตรค่าเวนคืน 9.5 พันล้านบาท รวมทั้งการขอยกเว้นการใช้ระบบอนุญาโตตุลาการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) เสนอจัดตั้งสำนักงานตั๋วร่วม 62 ล้านบาท ของบศึกษาระบบกำหนดตำแหน่งบนโลกใช้ติดตั้งรถสาธารณะ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
กระทรวงกลาโหม เสนอขออนุมัติงบประมาณซื้อรถถังจากประเทศยูเครนรุ่น OPLOT อีก จำนวน 54 คัน มูลค่ากว่า 7,200 ล้านบาท นำไปประจำการกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นในพื้นที่เดิมของกรมทหารราบที่ 6 จ.ขอนแก่น
กระทรวงมหาดไทย ของบกลางเยียวยาผลกระทบทางการเมือง 212 ล้านบาท (จ.อุดรธานี) กอ.รมน. งบกลางจ่ายค่าตอบแทนพิเศษกำลังพล 203 ล้านบาท ขณะที่ ศอ.บต.ของบการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนระดับหมู่บ้านชายแดนภาคใต้ 180 ล้านบาท
กระทรวงแรงงาน ของบประชาสัมพันธ์ การประกันตนตามมาตรา 40 งบประมาณ 200 ล้านบาท เสนอ กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือเพิ่มเติมอีก 11 สาขาอาชีพใน 3 กลุ่มอาชีพ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตกค้างจาก ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการของบจ่ายค่าชดเชยสมาชิกบัตรไทยแลนด์พรีวิลเลจการ์ดที่ ครม.มีมติยกเลิก 3 พันล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข งบกลางสนับสนุนโครงการปฏิรูปประเทศไทย 415 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ การปฏิรูปรอบ 2 งบ 317 ล้านบาท ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะเสนอแผนพัฒนาและส่งเสริมตลาดสินค้าอินทรีย์ ปี 2554-2558 กำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียน
กระทรวงต่างประเทศ เสนอแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายเพื่อเป็นคณะทำงานด้านกฎหมายกรณีปราสาทพระวิหาร จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเป็นทนายชาวฝรั่งเศส แคนาดา และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คน เดิมเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่กระทรวงการต่างประเทศได้ว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาของกระทรวงมาแล้วก่อนหน้านี้