เขมรลิ้นสองแฉก เจรจาหยุดยิงแล้วยังลอบกัดไม่เลิก ล่าสุด “ประยุทธ์” เผยทหารกัมพูชายิงระเบิดใส่ไทยก่อนปะทะรอบใหม่ ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 เจ็บ 5 สงสัย “ฮุนเซน” จริงใจที่จะแก้ปัญหาหรือไม่ รับไม่เห็นด้วยที่จะให้ผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่ “เทพเทือก” ยังเชื่อเจรจาหยุดยิงไม่ล้มเหลว บอกเหตุปะทะเมื่อคืนแค่ใช้อาวุธเบา แนะอย่าใช้อารมณ์ไปกับท่าที “ฮุนเซน” ด้าน “นิติธร ล้ำเหลือ” เตรียมยื่นหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ให้เข้ามาช่วยเหลือกรณีสงครามไทย-กัมพูชา บ่ายวันนี้
วันนี้ (29 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ห้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชาหลังจาก พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.เจีย มอน ผบ.ภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา หารือได้ข้อยุติให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงว่า แม้จะมีการเจรจายุติการหยุดยิงแล้วแต่เมื่อคืนยังคงมีการปะทะกันอย่างประปราย ซึ่งตนเคยพูดไว้แล้วว่าการคุยกับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ไม่ใช่สัญญา เมื่อมีการใช้อาวุธยิงเข้ามาฝั่งไทย ไทยก็ต้องตอบโต้ ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชาถึงเหตุการปะทะที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาว่า ทหารกัมพูชาได้ยิงระเบิดเข้ามาในไทยก่อน
ทั้งนี้ เหตุปะทะที่เกิดขึ้นล่าสุดส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 5 นาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ไม่ทราบว่านายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวหรือไม่ แต่เชื่อว่ากัมพูชาต้องการยกระดับความขัดแย้งเข้าสู่สากล ส่วนการส่งผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้าพื้นที่นั้น ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า ไม่มีใครเห็นด้วย แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องดำเนินการ ดังนั้นเราควรควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย และมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตมากขึ้น
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า จากที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาหลังจากที่มีการเจรจาหยุดยิงนั้น รัฐบาลจะดำเนินกาทุกอย่างไม่ให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน โดยจะใช้มาตรการที่เหมาะสม ตัดสินใจบนพื้นฐานของหลักการ ไม่ใช้อารมณ์มาเป็นตัวกำหนด
“แม้ว่าเมื่อวานนี้จะมีการเจรจาหยุดยิง เเต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีการยิงปะทะกัน จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แม้จะเป็นเพียงแค่การใช้อาวุธปืนเล็กยาว แต่ก็ถือว่าเป็นการลดขีดความรุนแรงทางการรบลง” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ไม่อยากยืนยันว่าระบบการสื่อสารในการสั่งการของทางการกัมพูชามีปัญหา แต่อยากมองในเเง่ดี เพื่อให้เกิดสันติภาพ แต่ทางฝ่ายไทยก็คงจะต้องมีการติดตามสถานการณ์ต่อไป และที่สำคัญ อย่าไปใช้อารมณ์กับท่าทีของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และไม่แน่ใจว่าคนไทยในพื้นที่ที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวานนี้จะเป็นสายลับให้กัมพูชาหรือไม่
ทั้งนี้ หากมีหลักฐานชัดเจนว่าทางกัมพูชาก่อตั้ง หรือตั้งกำลังทหารบริเวณพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร ทางกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการประท้วงทันทีตามกระบวนการ
ส่วน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชาว่า ขณะนี้ยังต้อง ต้องติดตามสถานการณ์ เพราะการหารือวานนี้เป็นการหารือในระดับพื้นที่ และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็พบว่าทหารกัมพูชาพยายามใช้ปืนเล็กลูกระเบิดขว้าง ยิงและขว้างเข้ามาในเวลาประมาณ 21.00-21.30 น. ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย และหลังจากนั้นในเวลา 02.00 และ 03.00 น. ของวันนี้ (29 เม.ย.) ก็ยังมีอยู่ประปราย
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การเจรจากับ พล.ท.เจีย มอน อาจะไม่ได้ผลเพราะไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจจริง พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า พอมีเหตุการณ์ยิงกันเราก็ประสานงานไปกัมพูชา เขาก็รับปากว่าจะควบคุมให้ได้ พล.ท.เจีย มอน ก็พยายามอยู่ แม้จะมีการยิงกันอยู่แต่ไม่ถึงขั้นปะทะกัน ดังนั้นถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่เราต้องติดตามอีกวันหรือสองวันสถานการณ์อาจจะดีขึ้น และกัมพูชาจะหยุดยิงจริงหรือไม่
พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีทหารไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้รวมแล้ว 6 นาย และบาดเจ็บ 72 นาย อย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดระบุว่า การปะทะเมื่อคืนนั้นทหารไทยเสียชีวิตอีก 1 นาย ทำให้การปะทะมีทหารไทยเสียชีวิตแล้ว 7 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 14.00 น.วันนี้ นายนิติธร ล้ำเหลือ รองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ จะมีการยื่นหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ให้เข้ามาช่วยเหลือกรณีสงครามไทย-กัมพูชา
