xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” เชื่อเขมรรบหวังดึงมหาอำนาจยึดพื้นที่ จี้กองทัพไล่ข้าศึกไม่รอคำสั่งรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประพันธ์ คูณมี และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง
โฆษก กก.ป้องกันราชอาณาจักร ซัดเขมรยั่วยุรบหวังแหลชาวโลก 2 ปราสาทสุรินทร์ของชาติตน ชี้เพื่อนบ้านฉีกทิ้งเอ็มโอยูชัด งงรัฐปล่อยยึดครองพื้นที่ ยันทหารหน้าที่ไล่ข้าศึกไม่ต้องรอคำสั่งรัฐ สับ “ประยุทธ์-ธวัชชัย” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เชื่อกัมพูชาหวังดึงมหาอำนาจยึดครองสยาม



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายประพันธ์ คูณมี" ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้วว่า เป็นที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาจงใจยั่วยุและต้องการให้เกิดการปะทะตามแนวชายแดน เพื่อประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่าพื้นที่ปราสาทต่างๆ เหล่านั้นเป็นของกัมพูชาตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 อย่างไรก็ตาม ยังมีความน่าแปลกใจว่า เหตุใดเกิดการปะทะขึ้นทั้งที่ฝ่ายทหารไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณนั้นมีความสัมพันธ์อันดี และชาวบ้านก็มีการไปมาหาสู่กันตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายทหารไทยและกัมพูชาได้มีข้อตกลงร่วมกัน จากเมื่อครั้งเหตุการณ์ปะทะที่ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา รวมไปถึงเอ็มโอยู 2543 ที่ระบุให้ทั้งสองฝ่ายมีการประสานงานกันหากมีความขัดแย้งขึ้นโดยใช้สันติวิธี กลายเป็นว่าทั้งเอ็มโอยู 2543 และข้อตกลงที่ไปเจรจากันมานั้นกัมพูชาก็ฉีกทิ้งโดยไม่เคารพ และจงใจใช้กำลังมารุกรานประเทศไทย

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยก็ทราบดีว่ากัมพูชาต้องการให้เกิดเหตุปะทะเพื่อดึงประเทศที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นกลยุทธ์ในการยึดครองแผ่นดินไทย แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นโดยไม่ได้มีมาตรการตอบโต้ในชิงรุกแต่ประการใด ทำให้กัมพูชากล้าหาญใช้กำลังทหารเข้ามาโจมตีทหาร และทำร้ายราษฎรไทย ส่วนกองทัพเองก็ออกมาบอกเพียงว่ารอฟังคำสั่งจากรัฐบาล ทั้งที่มีหน้าที่โดยตรงการปกป้องอธิปไตยของชาติตามรัฐธรรมนูญ และมีศักยภาพที่เหนือกว่า โดยเฉพาะการที่บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก และทหารมีอำนาจสูงสุดในพื้นที่ตรงนั้น ทำให้กองทัพอาจต้องตกเป็นจำเลยในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นรัฐบาลก็ปัดความรับผิด โดยจะบอกว่ารัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ดังนั้น ทหารไม่จำเป็นต้องรอคำสั่ง สามารถทำหน้าที่ปกป้องและรุกไล่ข้าศึกออกไปได้ทันที

“รัฐบาล และกองทัพ พยายามโยนความผิดปัดความรับผิดชอบให้กัน สร้างความสับสนให้แก่ประชาชน เพราะฝ่ายรัฐบาลก็ต้องมีความชัดเจนในเรื่องนโยบาย ส่วนฝ่ายทหารในฐานะฝ่ายปฏิบัติการก็มีหน้าที่ปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายนโยบาย” นายประพันธ์กล่าว

โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวต่อว่า ท่าทีของกองทัพโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก นั้นชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการส่งผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้ามาบริเวณพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร โดยระบุให้ทหารกัมพูชาถอนกำลังออกไปเสียก่อน เป็นการยืนยันชัดว่า กองทัพยอมรับแล้วว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นของไทย ซึ่งตรงกันประกาศของรัฐบาล แต่เวลาผ่านมาถึงขณะนี้กองทัพกลับปล่อยให้ทหารกัมพูชายึดครองอยู่ โดยไม่พยายามขับไล่ผลักดันให้กัมพูชาออกไป ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ ผบ.ทบ.และ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 โดยชัดแจ้ง

นายประพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตนยังเชื่อว่าการปะทะยังจะมีต่อไป เพราะนอกจากกัมพูชาต้องการทำการโปรโมต พล.ท.ฮุน มาเนต ลูกของนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชาเท่านั้น แต่ยังต้องการนำพื้นที่ปราสาทและพื้นที่โดยรอบไปผนวกเป็นเขตหรือคอมเพล็กซ์ที่จะใช้ในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เป็นกระบวนการในการยึดครองดินแดนประเทศไทย โดยดึงประเทศมหาอำนาจที่มีผลประโยชน์กับกัมพูชาเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นสำคัญของปัญหาจึงอยู่ที่การทำหน้าที่ของกองทัพ และรัฐบาล

“ขอเรียกร้องไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ควรแสดงจุดยืนให้ประชาชนสบายใจและมั่นใจว่า ดินแดนเอกราชของเราจะไม่ถูกใครรุกราน และแผ่นดินจะไม่เสียให้กัมพูชา ทั้งที่กัมพูชามีแสนยานุภาพทางการทหารต่ำกว่าเรามาก แต่การปล่อยให้สถานการณ์ดำรงอยู่เช่นนี้ ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจทั้งกองทัพ และรัฐบาล” นายประพันธ์กล่าว

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเสริมว่า รัฐบาลต้องเร่งทำ 2 ประการพร้อมกันเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของทหาร และป้องกันความเดือดร้อนที่มีต่อประชาชน โดยรัฐบาลต้องยกเลิกเอ็มยู 2543 และผลักดันทหารกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทยทันที โดยใช้เหตุการณ์ที่กัมพูชาโจมตีเราก่อนในครั้งนี้เป็นเหตุผลในการดำเนินการ เนื่องจากกัมพูชาละเมิดข้อตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนในการผลักดันนั้นควรใช้หลายมาตรการควบคู่กันไป เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยลง ทั้งการปิดด่านชายแดน ตัดการส่งพลังงาน หรือเสบียงอาหาร เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ แต่รัฐบาลกลับบอกว่าการปิดชายแดนจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน เนื่องจากขาดรายได้ แต่ต้องถามว่าความเดือดร้อนของประชาชนเพียงชั่วคราวกับการสูญเสียชีวิตของทหารหาญนั้น รัฐบาลจะเลือกสิ่งใด

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการทางการทหารก็ควรมีการฝึกซ้อมรบ หรือฝึกบินเครื่องบินเอฟ 16 บริเวณใกล้แนวชายแดน เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ปล่อยให้กัมพูชารุกคืบมาตลอด เหมือนเป็นเมืองขึ้นองกัมพูชา ทั้งที่ศักยภาพทางการทหารของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเราได้เลย

กำลังโหลดความคิดเห็น