นายกฯ เดินสายลงพื้นที่อ้างตรวจงานยาเสพติด-ชายแดน รายวัน ซัดนโยบายปราบยาเสพติดสมัย “ทักษิณ” ล้มเหลวไม่ทำให้ยาเสพติดลด แต่มีคนนับพันต้องสังเวยกับแผนนี้ ลั่น รบ.ชุดนี้ไม่ใช้วิธีแก้ไขปัญญาแบบ “สะใจ-ทันใจ” แต่เป็นแก้ปัญหาที่ยั่งยืน
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่บ้านรางอีเม้ย ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จ.ราชบุรี จ.นครปฐม เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด ว่า ในวันนี้ ตนมาตามงานเรื่องยาเสพติด ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรือนจำ ซึ่งเป็นเครือข่ายการค้าที่เราพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยเฉพาะในส่วนของระบบเรื่องของการตัดสัญญาณที่มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก และในครั้งนี้ได้มีโอกาสมาในชุมชนด้วย ก็เลยอยากมาดูรูปแบบที่มีความยั่งยืน เพราะสิ่งที่เราทำนั้น ที่ผ่านมา มันจะได้ผลเป็นช่วงๆ ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้ ตนคิดว่า ที่บ้านรางอีเม้ย ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นตัวอย่างที่ดีว่าสามารถทำค่อนข้างที่จะครบวงจร คือ ไม่ใช่แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดปัญหาเดียว มันเป็นปัญหาเรื่องของหนี้สิน และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเวลาที่ชุมชนรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง ทำกิจกรรมร่วมกัน ปัญหาอื่นๆ รวมทั้งเรื่องยาเสพติดก็จะแก้ไขได้ง่าย ตนก็เดินทางชื่นชม และจะนำไปขยายผลในหลายๆ พื้นที่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) ตนจะเดินทางไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อไปติดตามงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องชายแดน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของที่นี่ถือว่าค่อนข้างที่จะประสบความสำเร็จ แต่เราจะนำมาปรับใช้กับชุมชนเมือง ได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่มีอะไรง่ายหรอก การยกจากที่หนึ่งไปสวนอีกที่หนึ่ง เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ว่าในชุมชนเมืองก็อาจจะรูปแบบที่แตกต่างออกไปด้วย แต่ว่าสิ่งที่เราพยายามทำ ก็คือ ชุดที่เราลงไปทำขณะนี้จะทำหลายด้าน มันไม่ใช่เรื่องของการไปปิดล้อม ตรวจค้น ปราบปรามอย่างเดียว แต่ต้องไปทำมวลชนสัมพันธ์ ทำระบบข้อมูลต่อเนื่อง ที่จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมองอย่างไรกับนโยบายล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดภายใน 1 ปี ว่า อย่างจะย้ำประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า จริงเวลาที่เราปราบปราบกันอย่างรุนแรง เสียชีวิตไป 2,000 กว่าคน แล้วบอกว่าลด แต่มันไม่เคยหมด แล้วมันกลับมาใหม่ ถ้าจะทำอย่างนั้นก็คงต้องตายไปหลายพันคนเกือบทุกปี ซึ่งมันไม่ยั่งยืน ซึ่งเราพยายามทำอยู่ขณะนี้ เราพยายามทำให้มันครบวงจรทั้งระบบ มันอาจจะไม่สะใจ ไม่ทันใจ แต่จริงๆ แล้ว ก็กำลังทำอย่างเต็มที่ แนวทางที่สำคัญคือทำงานกันอย่างหนักและต่อเนื่องสม่ำเสมอมากกว่า
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้ออกเดินทางออกจากบ้านพักมายังเรือนจำกลาง (เขาบิน) จังหวัดราชบุรี เพื่อออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสด ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ตรวจดูของกลางยาเสพติด อาวุธ อุปกรณ์เล่นการพนัน ที่ถูกยึดได้ จากเรือนจำและตรวจระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์ตลอด24ชั่วโมงในเรือนจำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในการควบคุมและแก้ปัญหายาเสพติดที่มีการติดต่อซื้อขาย ระหว่างผู้ต้องขังและบุคคลภายนอกเรือนจำรวมถึงดูสภาพแวดล้อมในเรือนจำ โดยมีนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เดินทางมาร่วมด้วยและนายธนวีร์ ประวัติ ผู้บัญชาการเรือนจำฯ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป
จากนั้นเวลา 11.00 น.นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนเข้มแข็งแก้ไขปัญหายาเสพ ติดบ้านบ้านรางอีเม้ย หมู่ 7 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อติดตามเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดโดยมีผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและตัวแทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด (ป.ป.ส. ) เข้าร่วมรับฟังรวมไปถึงพบปะชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไข ปัญหาและลดความรุนแรงในเรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนที่แก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานผลการแก้ปัญหารวมถึงสอบถามแนวทางแก้ ปัญหาของชุมชนและซักถามสาเหตุที่มาของปัญหายาเสพติดจากผู้ที่เคยติดยาเสพติด โดยตรงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเส้นทางเมื่อขบวนรถยนต์ของคณะนายกรัฐมนตรีแล่นผ่านบริเวณปากทางเข้าชุมชนได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 6คน ปักหลักอยู่และชูสัญลักษณ์เท้าตบและหัวใจตบเพื่อต่อต้านท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวด