“มาร์ค” ประชุมทางไกลระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขันนอตผู้ว่าฯ ปราบยาเสพติด รับยังไม่พอใจผลงาน ยันรัฐบาลเอาจริง ส่ง ป.ป.ท.ร่วมลุยยาเสพติด พื้นที่ไหนปล่อยปละละเลยเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (4 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงหมาดไทย ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ครั้งที่ 4 ในประเด็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อติดตามการปฏิบัติงานตามมติ ครม. ของส่วนราชการ และรับฟังปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ และนนทบุรี
นายอภิสิทธิ์กล่าวระหว่างประชุมตอนหนึ่งว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ประชาชนทุกข์ใจมากในทุกสมัย เป็นปัญหาที่ใหญ่มากและเรื้อรัง และต้องบอกว่าคงไม่ใช่เฉพาะสังคมไทย สังคมไทยที่มีปัญหานี้ ความคาดหวังของพี่น้องประชาชนคือทำอย่างไรไม่ให้ปัญหานี้ทำลายทั้งครอบครัว ลูกหลาน ทำลายสังคม และสุดท้ายทำลายความมั่นคงของประเทศ เชื่อว่ารัฐบาลทุกยุคทุกสมัย พยายามแก้ไขปัญหานี้ แต่แนวทางการแก้ไขปัญหาก็จะแตกต่างกันไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญใน 2 ประเด็น คือ การแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร คือ เราจะสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของการปราบปราม แต่แท้จริงแล้วถ้าเราไม่สนใจเรื่องของการป้องกันไม่ให้ลูกหลาน ครอบครัวของเรามีความเข้มแข็ง ไม่มีทางหมดไป เราก็ทราบกันดีคนที่มาค้าขายในเรื่องนี้มีแรงจูงใจมหาศาล และตราบเท่าที่มีความต้องการในสังคม ปัญหานี้ย่อมไปหมดไป
ทั้งนี้ 2 ปีที่ผ่านมาตัวเลขของการจับกุมก็สูง และที่สำคัญที่ให้ประเมินตลอดไม่ใช่จับแต่รายเล็กรายน้อย แต่ปล่อยให้รายใหญ่จริงๆ ลอยนวลอยู่ จากสถิติ 2 เดือนที่ผ่านมา การจับกุมถ้าดูจากปริมาณที่ยึดได้ จำนวนคนที่ถูกจับ นอกจากจะดูว่าจับได้มากขึ้น ยังเป็นการจับรายที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงการเอาจริงเอาจังกับเครือข่ายที่ค้ายาเสพติด อย่างในเรือนจำเราทำอย่างจริงจัง จนบางครั้งเกิดความวุ่นวายขึ้นมา มีผู้ที่เสียผลประโยชน์
“ทำมา 2 ปี คงจำได้ที่ผมแถลงผลงานในช่วง 2 ปี ยอมรับว่ายังไม่พอใจในเรื่องนี้ เหตุที่ยังไม่พอใจในเรื่องนี้เพราะประชาชนไม่พอใจ ยังได้รับเรื่องร้องเรียนมาตลอดว่าปัญหายาเสพติดยังมีระบาดอยู่ มีการพัฒนาไป เข้ามายุ่งเกี่ยวกับลูกหลานจำนวนมาก ดังนั้น ในช่วงปลายปี 2553เราก็มีการเข้มงวดกวดขังมากขึ้นการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางกระทรวงมหาดไทยเอง ได้มีการมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย”
นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า รัฐบาลเอาจริงกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ ถ้ามีหน่วยงานส่วนกลางจากกระทรวงยุติธรรม ที่มีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมเข้าไปตรวจค้นสถานที่มั่วสุมเสพยาเสพติดแล้วพบว่าในท้องที่มีการปล่อยปละละเลยในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ และตอนนี้ในหลายพื้นที่ก็มีการสอบสวนกันอยู่ และตนยืนยัน ผบ.ตร.เอาจริง แต่ในที่สุดไม่มีทางที่เอาชนะปัญหาได้หากปล่อยมือ จึงขอความกรุณาทุกท่านและประชาชนช่วยตื่นตัวเรื่องนี้ตลอดเวลา เพราะหากเราทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก็จะแก้ไขปัญหานี้ได้