“สุเทพ” พอใจผลปราบยาเสพติดใน 30 วัน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ 612 ราย ตามยึดทรัพย์ผู้ค้า 534 ราย มูลค่า 148 ล้านบาท ขณะที่ “วรพงษ์” เผย ผลปิดล้อมตรวจค้นชุมชนกว่า 8 พันแห่ง ได้ผู้ต้องหา 2.7 หมื่นคน เป็นขี้ยาในชุมนุม 1.6 หมื่นคน
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี-รังสิต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) เป็นประธานการประชุมผู้นำชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.รวมทั้งมีหัวหน้าส่วนราชการอย่างปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ ป.ป.ส.ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และ นนทบุรี ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วย หัวหน้าสถานีตำรวจและผู้นำชุมชนในพื้นที่ กทม.และตำรวจภูธรภาค 1 รวม 500 คน
ขณะเดียวกัน การประชุมดังกล่าวยังได้จัดให้มีการถ่ายทอดสดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ การมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของนายสุเทพ ไปยังตำรวจภูธรภาค 2-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากได้จัดให้มีการประชุมผู้นำชุมชนที่ที่ทำการหน่วยพร้อมกันทั่วประเทศ
นายสุเทพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคำสั่งนายกรัฐมนตรี กำหนดให้มีปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้ว ป้องกันระยะที่ 3 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมทั่วประเทศ และพื้นที่เป้าหมายสำคัญเพื่อไม่ให้ยาเสพติดส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในวิถีชีวิตของประชาชนโดยปกติ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ตนได้มอบนโยบายด้านการปราบปรามยาเสพติดให้กับข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการของทุกหน่วยปฏิบัติ รวมถึงผู้บังคับบัญชาขึ้นไปในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้มีการระดมกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดรุนแรงให้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย และค้นหากดดัน ชักจูงให้ผู้เสพยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวสรุปผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายของนายสุเทพ ว่า ผลการดำเนินการกวาดล้างของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.53 ถึงวันที่ 17 ม.ค.54 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน ชุมชน ที่เป็นแหล่งระบาดยาเสพติด จำนวน 8,201 แห่ง
โดยจับกุมยาเสพติดทุกประเภทได้ 26,802 ราย ผู้ต้องหา 27,910 คน นักค้ายาเสพติดรายย่อยในชุมชน จำนวน 5,839 คน ผู้เสพยาเสพติดในชุมชน จำนวน 16,226 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด จำนวน 360 คน
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากผลการดำเนินการดังกล่าวยังสามารถตรวจยึดของกลาง เป็นยาบ้า จำนวน 1,830,606 เม็ด เฮโรอีน จำนวน 2,684 กิโลกรัม กัญชา จำนวน 588 กิโลกรัม ยาไอซ์ จำนวน 15 กิโลกรัม ใบกระท่อม 1,682 กิโลกรัม และน้ำกระท่อม 317 ลิตร
ขณะที่ นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ตนได้มอบนโยบาย ซึ่งเป็นผลปฏิบัติการใน 30 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ผลการปฏิบัติการเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถกวาดล้าง และจับกุมผู้ค้าและผู้เสพได้จำนวนมาก ที่สำคัญ สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ 612 ราย จำนวนผู้ต้องหา 991 คน ติดตามยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 534 ราย มูลค่า 148 ล้านบาท
“ผมให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนได้เลยว่า ภายใน 3 เดือน ปัญหายาเสพติดต้องลดลง และจะนำผลการปฏิบัติการมาแถลงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ภายใน 30 วันนี้ กลุ่มผู้ติดยาในชุมชนจะได้รับการบำบัดให้หาย เพื่อลดความต้องการซื้อยาเสพติด” รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าว
รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวต้องทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ที่สำคัญคือความสำเร็จของการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพราะประชาชนคือพลังบริสุทธิ์และเข้มแข็ง