xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ฟุ้งปราบยาเสพติดได้ผล 1 เดือน ผู้ต้องหาเกือบ 3 หมื่นคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ (แฟ้มภาพ)
“สุเทพ” ฟุ้ง ปราบยาเสพติดได้ผล จับกุมผู้ต้องหายาเสพติดได้ 27,910 ราย ใน 30 วัน มั่นใจผลงงานจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ปชช.ทุกส่วนช่วยกัน ยัน รัฐบาลจะสนับสนุนเต็มที่ ทุ่มงบ-กำลังพล ไม่อั้น การปราบยาเสพติดของรัฐบาล จะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายแน่นอน ปชช.จะต้องไม่เดือดร้อนในชีวิตและทรัพย์สิน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ณ สโมสรตำรวจ ว่า นโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด เราได้ยึดหลักยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ที่ประกอบด้วย รั้วชายแดน สังคม โรงเรียน ชุมชน และ ครอบครัว และอีก 2 โครงการ คือ โครงการการปราบปราม และการบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติด รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหายาเสพติด โดยการขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐบาล เอกชน ประชาชน เพื่อป้องกัน และลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่รัฐบาลคะจะผลักภาระให้แก่ประชาชน แต่เป็นการขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพราะหากเจ้าหน้าที่ ดำเนินการเอง คงจะไม่สามารถยับยั้งภัยยาเสพได้ ดังนั้นทุกฝ่ายจึงมีความสำคัญ

นายสุเทพ กล่าวว่า การปราบปรามและป้องกันทุกมาตรการจะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย จะไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในชีวิตและทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ที่มีความน่ากังวลใจมากที่สุด คือ ภาคเหนือตอนบน ที่มีเส้นทางการขนยาเสพติดมาจากต่างประเทศ, กรุงเทพมหานคร ที่มีการค้า และการเสพเป็นจำนวนมาก, ชายแดนภาคใต้ รวมถึงอีก 175 อำเภอทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดนี้ เราจะปฏิบัติพร้อมกันทุกพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2553 ที่กำหนดให้ปฏิบัติการภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติด อย่างยั่งยืน โดยอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ภายใต้ 5 รั้วป้องกัน โดยระยะที่ 3 ซึ่งมีเป้าหมายลดการขยายตัวยาเสพติดในภาพรวม และ นายกรัฐมนตรีได้กำหนดกรอบเวลาการทำงานที่ชัดเจน โดยต้องมีการประเมินผลทุกเดือน ทุก 3 เดือน และ 6 เดือน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่ายว่าสามารถขจัดปัญหายาเสพติดได้อย่างไร

นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.53 ตนได้มอบนโยบายด้านการปราบปราบยาเสพติด ให้แก่ผู้บังคับการของหน่วยปฏิบัติและผู้บัญชาการระดับสูงใสสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ หรือชุมชนที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด เพื่อให้จับกุมผู้ค้ารายย่อย และกดดันให้ผู้ที่ติดยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบด้วยความสมัครใจ และให้ความสำคัญต่อการดำเนินการเรียกร้องของประชาชน โดยให้เจ้าหน้าทำงานตามกรอบของกฎหมาย และครั้งนี้ผลจาก 30 วันที่ผ่านมา เราสามารถจับกุมคดียาเสพติด ได้ทั้งหมด 26,802 ราย และได้ขยายผลยึดทรัพย์เพิ่มเติม อย่างกรณีชุมนุมไผ่เขียว ที่ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนที่ให้เบาะแส จนสามารถจับกุมได้ ที่คนในชุมนุม และผู้นำชุมชนให้ข้อมูลที่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถกวาดล้างและจับกุมได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชุมชนทั่วประเทศต้องได้รับการตรวจสอบหาผู้กระทำผิด และจะได้รับการสร้างความแข็งแรงในชุมนุมให้ได้ โดยใช้หลัก 5 รั้วป้องกัน อย่างไรก็ตาม ตนมีความเชื่อมั่นในการร่วมมือกันทำงานของประชาชนเจ้าหน้าตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยข่าวกรอง และนายอำเภอ เพราะทุกเข้าใจรัฐบาลอย่างชัดเจน พร้อมกับทุกฝ่ายได้ร่วมกันผนึกกำลังต่อสู้เอาชนะปัญหายาเสพติดได้ ทั้งนี้รัฐบาลจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในกลไกมาตรกรต่างๆ ทั้งงบประมาณ กำลังพล เพราะเราไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

นายสุเทพ กล่าวสรุปผลการปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.53 - 17 ม.ค.54 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมหมู่บ้านหรือชุมชนที่เป็นแหล่งแพร่ระบาด ยาเสพติด ได้จำนวน 8,201 แห่ง, สำหรับการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดทุกประเภท จำนวน 27,910 ราย และนักค้ายาเสพติดรายย่อยในชุมชนจำนวน 5,839, ผู้เสพยาเสพติดในชุมชนจำนวน 1,626 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในบัญชีรายงานผลการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด จะมั่นใจได้อย่างไรว่าว่าจำนวนตัวเลขจะเป็นข้อเท็จจริง และไม่ถูกกลั่นแกล้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้ติดตามการรายงานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกวัน ซึ่งการปฏิบัติตามที่ได้ผล เพราะพี่น้องประชาชนและผู้นำชุมชนให้ความร่วมมือ แจ้งเบาะแส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตามข้อมูลซึ่งได้ผลทุกราย ตนเชื่อมั่นว่าจากการปฏิบัติแบบนี้ จะทำให้ได้ตัวการผู้ค้ายาและผู้ที่เกี่ยวข้อกับยา และตนไม่ได้มีความกังวลใจในเรื่องอื่น เพราะเชื่อว่าพลังประชาชน พลังบริสุทธิ์ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่า ในระยะ 3 เดือนจะลดปริมาณผู้เสพยาเสพติด และนำไปบำบัดได้เท่าไหร่ นายสุเทพ กล่าวว่า ใน 3 เดือนนี้ปัญหายาเสพติดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และวันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.และตนได้ปรึกษากันว่า ภายใน 30วันนี้ เหล่าผู้เสพยาในชุมชนเราจะชักชวนให้เข้ารับการบำบัดให้ได้มากที่สุด

เมื่อถามว่า อุปสรรคการทำงานเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า การทำงานที่ยุ่งยากลำบากเป็นเรื่องยุ่งยากปกติธรรมดา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคุ้นเคยและเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่ที่ต้องขอประชาชน คือว่าประชาชนที่เกลียดชังผู้ค้ายาเสพติด และได้เห็นพิษภัยของยาเสพติด และอยากให้มีการปฏิบัติการที่เฉียบขาดและรุนแรง แต่รัฐบาลต้องปกครองบ้านเมืองด้วยกฎหมาย เราต้องแก้ไขปัญหาประเทศชาติด้วยกฎหมาย ฉะนั้นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ต่อจากนี้จะเป็นเครื่องยืนยันว่ากฎหมายสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีภัยปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีความแตกต่างจะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ภาคใต้มีปัญหาที่แตกต่างจาก กรุงเทพฯ และส่วนอื่นๆ ซึ่งปัญหาในภาคใต้จะมีปัญหาคือใบกระท่อม หรือมี่เรียกว่าสี่คูณร้อย แต่ในทางปฏิบัติของเรา ถึงแม้จะเป็นยาที่มีขนาดความร้ายแรงน้อยกว่าที่อื่นก็จะไม่เว้น และจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น